“ขายของออนไลน์” ควรรู้!! ลำดับขั้นการยื่น “เสียภาษี” แม้ไม่ใช่นิติบุคคล ระวังโดนเรียกเก็บย้อนหลัง

Home » “ขายของออนไลน์” ควรรู้!! ลำดับขั้นการยื่น “เสียภาษี” แม้ไม่ใช่นิติบุคคล ระวังโดนเรียกเก็บย้อนหลัง
“ขายของออนไลน์” ควรรู้!! ลำดับขั้นการยื่น “เสียภาษี” แม้ไม่ใช่นิติบุคคล ระวังโดนเรียกเก็บย้อนหลัง

พ่อค้าแม่ค้า “ขายของออนไลน์” ควรรู้!! ลำดับขั้นการยื่น “เสียภาษี” จากรายได้การขายออนไลน์ แม้ไม่ใช่นิติบุคคล ระวังโดนเรียกเก็บย้อนหลัง

ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เชื้อว่าแผนชีวิตของใครหลายคนนั้นเปลี่ยนไป บางต้องเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน บางก็ออกจากงาน หรือหารายได้เสริมจากงานอื่นๆที่พอจะมาสามารถทำได้ หนึ่งในอาชีพที่เป็นที่นิมยมในตอนนี้ นั้นก็คือ การขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ หรือแม่กระทั่งต้นไม้ หรือ สัตว์เลี้ยง ก็มาขายในออนไลน์กันแล้ว ซึ่งเป็นช่องท่งที่ง่าน ไม่เสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งยังสามารถติดต่อกับลูกค้าโดยทาง

แต่รู้หรือไม่ว่า อีหหนึ่งเรื่องที่พ่อค้าแม่ค้ามือให้ในยุคออนไลน์ ควรที่จะต้องรู้ นั้นก็คือ การเสียภาษี จากรายได้ในการขายของออนไลน์ ซึ่งรายได้จากการขายของออนไลน์ก็ต้อง ‘เสียภาษี’ และยื่นภาษีให้ถูกต้องตามเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนดไว้ รายได้จากการขายของออนไลน์ ถือว่าเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 คือ เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม รวมไปถึงการขายของออนไลน์ เป็นต้น

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และ ข้อความพูดว่า "KBank แม่ค้าออนไลน์ สถานะโสด รายได้ >60,000 บาท/ปี สถานะสมรส รายได้ >120,000 บาท/ปี ยื่นภาษี มีเงินได้สุทธิเท่าไหร่ ภาษี ที่แม่ค้าออนไลน์ ต้องรู้ <150,000 บาท/ปี >150,000 บาท/ปี ไม่เสียภาษี หักค่าใช้จ่ายเพื่อหาเงินได้สุทธิ มี รูปแบบ หักค่าใช้จ่ายตามจริง หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่าย 60% ยื่น รอบต่อปี *นeจeกรเsืนปา ภาษีประจำปี (ภ.ง.ด.90) ยื่น ม.ค. 31 มี.ค.* 2.ภาษีกลางปี (ภ.ง.ด.94) ยื่น ก.ค. 30 ก.ย.* ตัวอย่างลดหย่อน ส่วนตัว คู่สมรส บุตร พ่อแม่ ผู้พิการ 60,000 60,000 30,000 30,000 60,000 ตัวอย่างเอกสาร ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี บัญชี รับ/จ่าย KSME"
K SME

ในกรณีบุคคลธรรมดาผู้ที่มีรายได้จากการขายของออนไลน์ เมื่อมีได้รายเกิน 60,000 บาท (กรณีโสด) หรือมีรายได้เกิน 120,000 บาท (กรณีสมรส) จะต้องยื่นภาษีเงินได้ ตามหลักเกณฑ์คือยิ่งมีเงินได้สุทธิมากยิ่งเสียภาษีในอัตราที่มาก ตามขั้นบันได เช่น

  • เงินได้สุทธิ 1-150,000 บ. ได้รับการยกเว้นภาษี
  • เงินได้สุทธิ 150,001 – 300,000 บ. เสียภาษี 5%
  • เงินได้สุทธิ 300,001 – 500,000 บ. เสียภาษี 10%
  • เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บ. เสียภาษี 15%

เมื่อร้านค้ารู้ตัวว่าต้องเสียภาษีขายของออนไลน์ สามารถเลือกหักค่าใช้จ่าย ได้ 2 แบบ ดังนี้
– หักค่าใช้จ่ายตามจริงเหมาะสำหรับร้านค้าที่มีต้นทุนสินค้าที่สูง
– แบบเหมาจ่าย 60%เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีกำไรสูง ซึ่งข้อดีของการยื่นแบบนี้ คือไม่ต้องแสดงหลักฐานค่าใช้จ่ายใดๆ กับกรมสรรพากร และทำให้เราได้ประโยชน์ทางภาษีในส่วนต่างของต้นทุนที่แท้จริง กับค่าใช้จ่ายแบบเหมานั่นเอง

ช่วงเวลาที่พ่อค้าแม่ค้าต้องยื่นภาษีจะมีอยู่ 2 ช่วง

  • ยื่นภาษีประจำปี (ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90) ช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค. เป็นการสรุปรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
  • ยื่นภาษีกลางปี (ยื่นแบบ ภ.ง.ด.94) ช่วงเดือน ก.ค. – ก.ย. เป็นการสรุปรายได้ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีภาษีแรกที่ผ่านมา โดยที่ ค่าลดหย่อน บางรายการจะถูกหักเหลือครึ่งหนึ่งด้วย เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัวจะลดลงจาก 30,000 เหลือ 15,000

โดยการลดหย่อนภาษีในกรณีบุคคลสามารถลดหย่อนได้ตามที่สรรพากรประกาศออกมาในแต่ละปี

ขอบคุณข้อมูลจาก K SME

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ