กลับมาพบกับรีวิว จากทีม Sanook Hitech กันอีกครั้ง รอบนี้มาพกกับรีวิว Tablet รุ่นใหม่ล่าสุดของ Huawei อย่าง MatePad ขนาด 11 นิ้วที่มาพร้อมกับสเปกที่แรงจัดและมีเป็นครั้งแรกของ Tablet จาก Huawei ที่ได้หน้าจอที่มีค่า Refresh Rate 120Hz และเมื่อทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งานจริงแล้วเป็นอย่างไร เรามาดูกันครับ
สเปกของ Huawei MatePad 11
- ขนาด : 253.8 x 165.3 x 7.25 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก: 485 กรัม
- หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล ขนาดหน้าจอ 10.95 นิ้ว Refresh Rate 120Hz
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 Octa Core | GPU Adreno 650
- แรม 6GB
- ความจุภายในเครื่อง 128GB
- ความจำภายนอก รองรับ microSDXC ความจุ 256GB
- การเชื่อมต่อ เครือข่ายมือถือ : WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 , Bluetooth 5.1
- ช่องเสียบ USB-C
- ระบบเสียง / ไมโครโฟน : ลำโพง Stereo บนล่างทั้งหมด 4 ตัวจูนโดย Harman / Kardon และ ไมโครโฟนมาให้ 4 ตัว
- กล้องถ่ายภาพด้านหลังตัวเดียว 13 ล้านพิกเซล F/1.8 พร้อม Auto Focus + LED วิดีโอรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K
- กล้องถ่ายภาพด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p
- แบตเตอรี่ขนาด 7250mAh รองรับ Fast Charge กำลัง 22.5W,และ Reverse Charging แบบสาย
- ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0
- สีตัวเครื่อง ที่จำหน่ายในประเทศไทย : Mette Grey Isle Blue
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- ตัวเครื่อง Huawei MatePad 11 สี Matte Grey
- ที่ชาร์จสายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- คู่มือเริ่มต้นการใช้งาน
- อุปกรณ์ถอดซิมการ์ด
- HUAWEI M-Pencil (2nd generation) เป็นอุปกรณ์เสริม
- HUAWEI Smart Magnetic Keyboard เป็นอุปกรณ์เสริม
รูปลักษณ์และการดีไซน์ของ Huawei MatePad 11
Huawei MatePad 11 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล ขนาด 10.95 นิ้ว WQXGA HUAWEI FullView ความละเอียด 2.5K HD (2560 x 1600 pixels) และมันยังเป็นแท็บเล็ตสำหรับมือโปรเจนใหม่ตัวแรกของหัวเว่ยที่มาด้วยค่ารีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120 Hz ประมวลผลภาพลื่นไหลทันใจไม่มีสะดุด และยังสามารถสู้แสงได้อย่างดี
Huawei MatePad 11 รุ่นใหม่ได้รับการดีไซน์ให้ดูพรีเมียม คลาสสิก สวยหรู ดูดี มีสไตล์ ด้วยการออกแบบอย่างสมมาตร เป็นระเบียบ และทันสมัย โดยบอดี้เครื่องแต่ละด้าน มีความสมมาตรกันอย่างไร้ที่ติ ทั้งยังน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ด้วยขนาด 253.8 มม. x 165.3 มม. x 7.25 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) และมีน้ำหนักประมาณ 485 ก. (รวมแบตเตอรี่)
ใส่ใจความคล่องตัวและสะดวกสบายในแง่ของการใช้งานด้วยดีไซน์ตัวเครื่องโค้งมนที่นอกจากทำให้เครื่องดูบางเฉียบแล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้งานจับถนัดมือมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งกรอบหน้าจอยังแข็งแรงพร้อมลุยด้วยวัสดุแมกนีเซียมอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ช่วยป้องกันความเสียหายของหน้าจอได้ดีเยี่ยม
เริ่มกันที่ส่วนบนของหน้าจอ สำหรับทั่วไปในส่วนนี้จะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า แต่ใน HUAWEI MatePad 11 กล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ได้ถูกย้ายไปฝังไว้ตรงขอบด้านขวาของตัวเครื่อง ทำให้ขอบด้านบนของ HUAWEI MatePad 11 ไม่มีอะไรเลย
ในส่วนของหน้าจอด้านล่างเป็นปุ่มควบคุมบนหน้าจอแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม ย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ทั้งหมดสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบของการปัดการทำงานได้
ที่ขอบด้านบนของตัวเครื่องมีลำโพงจำนวน 2 ตัวและปุ่ม Power หรือปุ่มเปิด-ปิดเครื่องและล็อกหน้าจอในตัว
ที่ขอบด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ลำโพงเสียงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ที่สามารถรองรับตัวแปลงเป็นช่องเสียบหูฟังได้
ตัวเครื่องด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และรูที่เห็นคือ ไมโครโฟน รวมไปถึงพื้นที่สำหรับไว้เก็บและชาร์จแบต HUAWEI M-Pencil Generation 2 เมื่อทดลองการพูดคุยพบว่า ไมโครโฟนที่ติดตั้งภายใน 4 ตัว จับเสียงได้อย่างแม่นยำ พร้อมเทคโนโลยี AI ลดเสียงรบกวนรอบด้าน เช่น เสียงพิมพ์และเสียงแทรกต่างๆ จะถูกตัดออกเพื่อการพูดและการฟังที่ชัดเจน
สุดท้ายเป็นตัวเครื่องด้านซ้ายมีถาดใส่หน่วยความจำเสริม โดยช่องใส่ความจำนี้จะเป็นแบบ MicroSD Card
ต่อกันที่ฝาหลังตัวเครื่อง Huawei MatePad 11 ได้รับการออกแบบให้เรียบง่ายรุ่นนี้ไม่มีระบบ Wireless Charger ทำให้น้ำหนักของมันเบาพอสมควร มุมบนซ้ายบนเป็นกล้องหลังที่มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล F/1.8 พร้อม Auto Focus + LED วิดีโอรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ข้าง ๆ จะเห็นว่ามีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนฝังอยู่อีก 1 ตัวครับ
กล้องถ่ายภาพด้านหลังตัวเดียว 13 ล้านพิกเซล F/1.8 พร้อม Auto Focus + LED วิดีโอรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K
ระบบเสียงมีการปรับแต่งโดย Harmon Kardon
Huawei MatePad 11 มาด้วย 2 สีให้เลือกตามสไตล์อย่างสียามค่ำคืน Matte Grey และสีเย็นสงบกับ Isle Blue และในรอบนี้เราได้สี Matte Grey มารีวิวกันครับส่วนตัวผมชอบนะเป็นสีที่คลาสสิคสุด ส่วนน้ำหนักของ Tablet รุ่นนี้อยู่ที่ 485 กรัม ถือว่าเบามากสำหรับขนาดหน้าจอใหญ่แบบนี้ครับ
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม
ยังไม่หมดครับ เพราะ Huawei MatePad 11 Inch ยังมีอุปกรณ์เสริมที่สามารถเติมเต็มการทำงานได้ดี อย่างเช่น HUAWEI M-Pencil (2nd generation) ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดแรงกดและความเอียงมากถึง 4,096 ระดับ จับทุกความเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อยกับระยะเวลาแฝงที่แทบไม่มีสะดุดเพียง 2 จดโน้ต ตอบข้อความ เพิ่มคำอธิบายประกอบ และสเก็ตช์ภาพอย่างง่ายดาย แม่นยำ พร้อมการตอบสนองที่รวดเร็ว
พร้อมการออกแบบใหม่ Touch IC และเซ็นเซอร์แบบพันรอบให้การควบคุมแบบสัมผัสที่มองไม่เห็น 360° ผู้ใช้ยังสามารถแตะสองครั้ง (Double-tap) ตรงหัวปากกาเพื่อสลับระหว่างแปรงต่างๆ หรือสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ปัจจุบันและอุปกรณ์ก่อนหน้านี้ รวมถึงสามารถปรับแต่งการ “แตะสองครั้งเพื่อเปลี่ยน” ในการตั้งค่าเพื่อควบคุมฟังก์ชันอื่นๆ ได้อีกด้วย แต่ค่าพื้นฐานคือ ยางลบ สลับกับ ปากกา
เพิ่มสปีดในการทำงานกับฟังก์ชันใหม่ Free Script เปลี่ยนลายมือให้เป็นตัวพิมพ์ได้ทันใจ รองรับการใช้งานทั้งในช่องการค้นหาผ่านเบราว์เซอร์ หรือการจดบันทึกในแอปพลิเคชัน HUAWEI Notepad, JNotes และ Noteshelf รวมทั้งแอปฯ ยอดนิยมอย่าง Line, Facebook Messenger, HUAWEI Browser (รองรับภาษาไทย เมื่อตั้งค่าภาษาในตัวเครื่องเป็นภาษาไทย) เ
ติมเต็มความสนุกและความคล่องตัวด้วยฟีเจอร์ Instant Shape ที่ช่วยเปลี่ยนรูปทรงจากการวาดเขียนด้วยลายมือ ไม่ว่าจะเส้นตรง วงกลม หรือ รูปทรงเลขาคณิตต่างๆ ให้เป็นรูปทรงมาตรฐานไม่ว่าจะร่างด้วยลายมือเร็วๆ หยาบๆ ขนาดไหนก็เปลี่ยนให้เป็นทรงมาตรฐานได้เป๊ะในพริบตา
เอาใจสาย Multi-taking ด้วยฟีเจอร์ Multi-Window ที่ให้ผู้ใช้งานเปิดหน้าต่างได้สูงสุดถึง 4 แอปพลิเคชัน 4 หน้าจอ ไม่ว่าจะพิมพ์แชทโต้ตอบเพื่อนร่วมงานพร้อมเช็คอีเมล จดโน้ตสำคัญขณะอยู่ในสายประชุมก็ทำได้อย่างแฮปปี้ และจุใจยิ่งกว่าด้วยการเก็บหน้าต่างลอยในแท็บเมนูด้านข้างได้มากสุด 10 หน้าต่าง
ไร้กังวลเมื่อต้องเปิดไฟล์เอกสารเยอะๆ ด้วยฟีเจอร์อัปเกรดใหม่ Multiple WPS files on one screen เปิดเอกสารให้หนำใจได้ถึง 50 ไฟล์ในเวลาเดียวกัน ทั้งยังสามารถเพิ่มแถบด้านขวาของเอกสารเพื่อเปิดเอกสารอื่นได้เพียงเสี้ยววิ ทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้นเพราะสามารถเปิดไฟล์เอกสารสองฉบับในเวลาเดียวกันได้แบบสองหน้าจอ คัดลอกและโยกย้ายข้อมูลไปมาระหว่างไฟล์ได้ง่ายๆ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ส่วน HUAWEI Smart Magnetic Keyboard เป็นแป้นพิมพ์ขนาดมาตรฐาน พกพาสะดวก สำหรับการพิมพ์ที่ง่ายดาย มีระยะการกดระหว่างปุ่ม 3 มม. เพื่อมอบประสบการณ์การพิมพ์ที่คล่องตัวและตอบสนองได้ดี
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ยังรองรับมุมเอียง 55/65 องศา ประสิทธิภาพการพิมพ์ดีขึ้นด้วยการเพิ่มปุ่มต่างๆ เช่น ปุ่ม Fn และปุ่มลัดการทำงานหลายปุ่ม ทางลัดเหล่านี้ทำให้แท็บเล็ตใช้งานได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ และส่งผลให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการใช้คอมพิวเตอร์ PC ทั่วไป
ทั้ง HUAWEI M-Pencil (2nd generation) และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่ยุ่งยากผ่านฟีเจอร์ HUAWEI Share
ต่อกันที่การทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ เบื้องต้น
HUAWEI MatePad 11 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS จุดนี้ถือว่า HarmonyOS ทำออกมาได้ดีครับ แม้ว่าจะเป็นของใหม่แต่ก็ทำออกมาได้หน้าตาใกล้เคียงกับ Android มากๆ หมวดหมู่ต่างๆ ถูกแบ่งการใช้งานออกมาได้คลีนมากๆ เลยครับ ส่วนของไอคอนต่างๆ เราสามารถจัดแต่งจัดวางได้ตามหมวดหมู่ตามสไตล์ของเราได้เลย
ด้วยความที่มันทำออกมาได้ไม่แตกต่างกับ เลยทำให้เราสามารถใช้งานได้แบบไม่สับสน สามารถปรับแต่ง Widget ได้ตามสไตล์การใช้งานเหมือนกับกำลังเล่นอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android
ฟังก์ชันพื้นฐานในรุ่นนี้มีมาให้ครบครับ เหมือน ๆ กับแท็บเล็ตทั่วไปของค่ายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคิดเลข, การบันทึกเสียง, ตารางนัดหมาย, การตรวจสอบสภาพอากาศ, Notepad และอื่น ๆ อีกมากมาย
HUAWEI AppGallery
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายนั้นคือเรื่องที่สำคัญมากและหลายคนกังวลนั้นก็คือการใช้งานแอปพลิเคชันในต่างๆ ใน HUAWEI อย่างที่บอกไปครับแม้ว่า HUAWEI จะไม่มี Google และไม่มี แอปพลิเคชันใน Google Play มันก็ไม่มีปัญหาเพราะทางหัวเว่ยเองเขามี HUAWEI AppGallery ทำงานในลักษณะเดียวกับแอปฯ สโตร์อื่น ๆ
มีแอปพลิเคชั่นมากมายรองรับและให้ดาวน์โหลด เช่น Microsoft Office, Agoda, Joox, KPlus, SCB TikTok, Lazada, LINE, Twitter Facebook และอื่น ๆ ที่เราต้องใช้งานพื้นฐานเพียบ
ในส่วนของแอปเอนเตอร์เทนเมนต์ ไม่มีขาด ไม่ว่าจะช้อปปิ้งคลายเครียดหลังเสร็จงานก็ทำได้ผ่านแอปฯ ช้อปยอดฮิต Shopee Lazada และ JD Central หรือหากอยากเสพย์คอนเทนต์ ดูหนัง ฟังเพลง ก็จัดไปให้หนำใจผ่าน Line TV, VIU, WeTV, HUAWEI VDO และ Monomax ส่วนสาย creator ก็ยิ่งถูกใจด้วยแอปฯ ตัดต่อวิดีโอดีๆ อย่าง FilmoraGo HD
บอกเลยทำงานได้รวดเร็ว ฉับไว ได้คุณภาพ ก็ต้องมีแอปฯ เพื่อการทำงานดีๆ อยู่ในมือ อย่างแอปฯ WPS Noteself และ HUAWEI Notepad งานเอกสารแนวไหนก็เอาอยู่ แต่เราสามารถดาวน์โหลด Microsoft Office ได้ผ่าน Huawei AppGallery เช่นเดียวกัน
แน่นอนครับว่าสำหรับใครที่กังวลเรื่องแอปพลิเคชันที่คิดว่าไม่สามารถใช้งานได้ใน เราขอบอกว่าหากคุณเปิดใจแล้วมันไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะแอปพลิเคชันใน HUAWEI AppGallery ยังคงมีเพิ่มมากขึ้นในทุกวันและมีการอัปเดตใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเสมออย่างต่อเนื่องเช่นกันครับ แอปพลิเคชันพื้นฐานที่เราจำเป็นต้องใช้ทางหัวเว่ยก็จัดมาให้แล้วบางส่วน แต่ถ้าหาไม่พอเราก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ครับ
การทำงานร่วมกับ คอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ Huawei MatePad 11 Inch ยังมีฟีเจอร์ HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop ที่ช่วยผสานการทำงานระหว่างแล็ปท็อปและแท็บเล็ตได้อย่างไรกังวล ขยายขีดความสามารถในการทำงานด้วยโหมดที่หลากหลายเช่น
Extend Mode จอแสดงผลเพิ่มเติมสำหรับพีซีเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับแสดงเนื้อหามากขึ้น และ ช่วยลดการทำงานหลายขั้นตอน และทำงานสะดวกขึ้นอีกหลายหลายโปรแกรม
Extend Mode จอแสดงผลเพิ่มเติมสำหรับพีซีเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับแสดงเนื้อหามากขึ้น
Collaborate Mode สามารถใช้เมาส์คอมพิวเตอร์เพื่อลากและวางข้อความ รูปภาพ และไฟล์ที่เลือกไว้ ไปมาระหว่างอุปกรณ์แท็บเล็ตและแล็ปท็อปได้โดยไม่ต้องใช้แฟลชไดรฟ์ USB แบบเดิม แต่ผ่านฟังก์ชัน HUAWEI Share แทน
ขณะที่ App-Multiplier ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและสะดวกขึ้นโดยได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Window Lock ที่สามารถทำสองงานได้ในแอปฯ เดียว ผู้ใช้จึงไม่ต้องเลื่อนดูแอปฯ ใดแอปฯ หนึ่งโดยเฉพาะ เช่น สามารถเขียนอีเมลในหน้าต่างหนึ่งขณะกำลังสนทนากับเพื่อนๆ ในอีกหน้าต่างหนึ่งได้ หรือเปรียบเทียบราคาระหว่างสองรายการในแอปฯ ซื้อของผ่านการใช้ประโยชน์จากสองหน้าต่างได้อย่างง่ายดาย
โดยแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้ App-Multiplier ได้แก่ Rabbit Rewards, Pantip, Lazada, JD Central, Line TV, BBTV CH7, Joox Music, WeChat, Bugaboo.TV, The 1 และ 3BB เป็นต้น
สำหรับใครที่กังวลเรื่องการใช้งาน Google สำหรับการรีวิวนี้เราทดลองทุกอย่างที่เกี่ยวกับการใช้งาน Google พื้นฐานที่เรามักหยิบมาใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าค้นหน้าข้อมูลผ่าน Goolgle การใช้งาน Google Map และการเพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบบน YouTube
เริ่มกันด้วยการค้นหา ที่แน่นอนว่าในตอนนี้การอยากรู้อะไร ก็ถาม google ก่อนเป็นอันดับแรก HUAWEI MatePad ทุกรุ่นยังสามารถค้นหาข้อมูลได้เหมือนเดิมครับ…
การดูคลิปด้วย YouTube และค้นหาผ่าน Web Browser และสามารถใช้ Login ไดด้ตามปกติ
การใช้งาน Google Map
การโอนไฟล์ระหว่าง HUAWEI MatePad 11 และคอมพิวเตอร์เพื่อเอาไฟล์ออกจากเครื่อง MatePad 11 ก็สามารถทำได้ไม่ยากแค่คุณเชื่อมโทรศัพท์ของคุณกับพีซีโดยใช้สายเคเบิล USB ที่สามารถถ่ายโอนไฟล์ได้แล้วครับ แต่ถ้าใครมีมือถือ หรือ Notebook Huawei สามารถใช้ Huawei Share ในการถ่ายโอนข้อมูลได้
ทดสอบประสิทธิภาพ Geekbench 5
มาทดสอบประสิทธิภาพของ Benchmark ด้วยโปรแกรม Geekbench 5 กันหน่อยครับถือ UAWEI MatePad 11 ทำคะแนนในส่วนของ Single-Core ออกมาได้ 915 คะแนน และ Multi-Core ทำออกมาได้ 3,197 คะแนน ถือว่าผลการทดสอบเบื้องต้นทำคะแนนออกมาได้ดีตามที่มันเป็นครับ
ใช้ Huawei MatePad 11 Inch ในเรื่องความบันเทิง
ทดลองมาหลายเรื่องแล้วเรามาดูเรื่องของหน้าจอกันดีกว่า เมื่อพื้นที่ขจองหน้าจอ 10.95 นิ้วมีพื้นที่มากถึง 86% ถือว่ามีความโดดเด่นอย่างมาก เพราะพื้นที่องเครื่องนั้นมีแบบให้แบบจัดหนักจัดเต็มเลยครับทีเดียว โดยหน้าจอนั้นมีฟีเจอร์ถนอมสายตาที่ได้การรับรองจาก TUV Reinland ที่เป็นมาตรฐาน และรองรับค่า Refresh Rate ที่ 120 Hz
อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่า HUAWEI MatePad 11 เป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของหัวเว่ยที่รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120 Hz ดังนั้นเราจึงนำมาทดลองใช้งานดู แน่นอนว่าผลที่ได้คือความลื่นไหลต่อเนื่องไร้สะดุด ไม่ว่าจะเล่นอินเทอร์เน็ต เล่นเกม แต่การชมภาพยนตร์ นั้นจะให้แสดงผลในรูปแบบของตาม Bitrate ของวิดีโอเท่านั้นจะไม่ได้แสดงผลเป็น 120Hz ตลอดเวลาและด้วยขอบเขตของสี DCI-P3 จึงให้สีสันสดใสและเต็มอิ่มยิ่งกว่าทำให้มันแสดงภาพเต็มตาออกมาได้อย่างคมชัด ดูลึกมีมิติสมจริง
และมันยังช่วยในเรื่องการถนอมสายตาลดแสงสีฟ้าตลอดจนการกระพริบของภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโหมดแสดงผลหน้าจอและปรับสี หมดยุคที่ต้องคอยหรี่ตากับแสงจ้าอีกต่อไป (ผ่านผลการรับรอง TÜV Rheinland)
ส่วนระบบเสียงของ Huawei MatePad 11 จะมาพร้อมกับลำโพง 4 ตัวที่ปรับแต่งโดย Harman / Kardon ทำให้คุณภาพเสียงที่ออกมาถือว่าดีมากเลยครับ แต่ถ้าใครคาดหวังเรื่องเบส ผมว่ามันจะจากไปหน่อยเมื่อต้องฟังเพลงแต่ก็เหมาะกับความบางของเครื่อง
ลองถ่ายภาพจากกล้องหลังของ Huawei MatePad 11
Huawei MatePad 11 มาพร้อมกล้องตัวหลักมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8 มีระบบ Auto Focus โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์เรียบหรู สบายตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน ซึ่งรองรับฟังก์ชันพื้นฐานครบครันครับ
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟเป็นอย่างไร
HUAWEI MatePad 11 มาพร้อมแบตเตอรี่คงทน ขนาดใหญ่ 7,250 mAh พร้อมสำหรับการทำงานแบบ Non-stop ได้นานถึง 12 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยี Frame Rate Adaptation ที่สามารถใช้งานตลอดวันโดยไม่ต้องกังวล และมอบความบันเทิงเช้าจรดค่ำด้วยการเล่นวิดีโอ 1080p ต่อเนื่องนานถึง 12 ชั่วโมง หรือท่องเว็บติดต่อกันได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง สนุกกับชีวิตได้มากกว่าไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน ส่วนการชาร์จไฟรองรับระบบ Super Charge กำลัง 22.5W
เล่นแล้วเล่าหลังได้ทดลองใช้งาน HUAWEI MatePad 11 เกือบเดือน
แน่นอนว่าในตอนนี้หลาย ๆ ครอบครัวกำลังมองหาแท็บเล็ต สเปกแรง ที่มาพร้อมกับราคาที่ไม่แพงนักในบ้านเราตอนนี้มีออกมาให้เลือกใช้งานหลากหลายค่าย หลากหลายรุ่นมาก แม้แต่ครอบครัวของหัวเว่ยเองตอนนี้ก็มีรุ่นให้เราเลือกใช้งานมากถึง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น HUAWEI MatePad Pro 12.6 พี่ใหญ่ผู้เพอร์เฟค, น้องรองผู้เพียบพร้อมอย่าง HUAWEI MatePad Pro 10.8 และน้องเล็กรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง HUAWEI MatePad 11 ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปสด ๆ ร้อน ๆ
และอีกเรื่องที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์และน่าจะถูกใจคนที่ต้องใช้เวลากับแท็บเล็ตนาน ๆ ไม่ว่าจะทำงานหรือดูสตรีมมิ่งสร้างความบันเทิง MatePad 11 คือคำตอบที่ใช่ เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลผ่านผลการรับรองมาตรฐานการแสดงผลของหน้าจอจากหน่วยงาน TÜV Rheinland Dual Certification ถนอมสายตาและลดแสงสีฟ้า โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนโหมดแสดงผลหน้าจอและปรับสีเองอีกต่อไป
และมันยังมีลำโพง 2 ตัว กับด้านล่างมีลำโพง 2 ตัว รวมทั้งหมด 4 ตัว มาตรฐานเสียง Harman/Kardon พร้อมเทคโนโลยีเสียง Histen 7.0 เราขอการันตีความคมชัด เสียงดังสะใจแน่นอนครับ
เห็นมั้ยละว่าจะใช้ทำงานหรือสร้างความบันเทิงในช่วงวันหยุด Huawei MatePad 11 ก็สามารถตอบโจทย์คุณได้หมด ดังนั้นเราเชื่อว่า Huawei MatePad 11 จะเหมาะกับคนที่ต้องการแท็บเล็ตครบเครื่องไว้เรียนหรือทำงาน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า
โดยราคาของ HUAWEI MatePad 11 จะมีให้เลือก 2 แบบได้แก่ หน่วยความจำ 6GB + 128 GB (รุ่น WiFi) พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของในราคา สี Matte Grey + HUAWEI M-Pencil (2nd generation) บรรจุภายในกล่อง ในราคาเพียง 19,990 บาทและ HUAWEI MatePad 11 หน่วยความจำ 6GB + 128 GB (รุ่น WiFi) สีใหม่อย่าง Isle Blue ในราคาเพียง 15,990 บาท สามารถเป็นเจ้าของและทดลองสินค้าได้ที่ที่ร้าน HUAWEI Store HUAWEI Experience Store และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ
หรือใครใจร้อนก็สามารถเข้าไปช้อปเพลิน ๆ กันได้ตามลิงค์ที่เราแปะมาให้ก็ได้นะครับ >>> Huawei MatePad 11