วันที่ 10 พ.ค. 2567 ช่างร้านตัดผมแห่งหนึ่งที่จังหวัดขอนแก่น ได้โพสเรื่องเตือนภัยในโลกโซเชียล หลังมีชายคนหนึ่ง แต่งกายดูดี เข้ามาใช้บริการตัดผมกับช่างตัดผมสาว ก่อนจะทำการอนาจารด้วยการช่วยตัวเองบนเก้ากี้ตัดผมในร้าน พร้อมข้อความระบุว่า “คนนี้คือโรคจิตที่เข้ามาช่วยตัวเองในร้านตัดผมของพิมพ์เมื่อเดือน เมษายนวันที่ 12วันนี้มันกลับมาอีกรอบตอนนี้มีรูปคนที่เข้ามาทำอนาจารในร้านพิมพ์ไปแจ้งความแต่ตำรวจไม่รับแจ้งความไม่ยอมลงบันทึกประจำวันให้บอกหลักฐานไม่ชัดเจนจะให้ชัดเจนได้ไงก็เขาทำอยู่ใต้ผ้าคลุมตัดผมมันจะเห็นได้ไงแล้วก็ไม่ขอดูหลักฐานอะไรเลยให้เราไปเล่าเรื่องเหตุการให้ฟังพอให้จบๆไปแล้วก็ไม่ทำอะไรให้เลยบอกแต่ให้เราไม่ต้องกลัวนะๆแต่ไม่ทำอะไรให้เลยแบบนี้ก็ได้หรอคะแล้วประชาชนอย่างเราควรต้องทำยังไงดีใครมีวิธีแนะนำหน่อยไหมว่าเราต้องทำยังไงคะตอนนี้คือกลัวมากแล้วพิมพ์ก็ทำงานคนเดียวอยู่คนเดียวตลอด เตือนภัยขอนแก่น”

จากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ร้าน พีร์พีร์ บาร์เบอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 44/37 ถนนหลังเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และได้พูดคุยกับ นางสาว ปิยะภรณ์ แก้ววิย อายุ 24 ปี เจ้าของร้าน และเป็นผู้โพสต์เตือนภัยดังกล่าว โดยได้เล่าเหตุการณ์ว่า ลูกค้ารายนี้เข้ามาตัดผมและช่วยตัวเองในร้านวันที่ 12 เม.ย. 67 หลังจากโทรมานัดใช้บริการตัดผม ย้อมสีผม และโกนหนวด วันที่ 11 เม.ย.67 ซึ่งวันนัด ชายโรคจิตมาตัดปกติ และเคยมาตัด2-3 ครั้งแล้ว วันเกิดเหตุก็เข้ามาแต่ครั้งนี้มีย้อมผม และโกนหนวดด้วย โดยการแต่งกายดูดี เป็นชายอายุประมาณ 40 กว่าปี แต่งกายดูดี เหมือนคนทำงานบริษัท พูดจาดี พอตัดผมเสร็จ ก็ขอย้อมผมต่อ และพอย้อมเสร็จจึงนั่งรอ เมื่อผ่านไปไม่ถึง 10 นาที จะเดินไปดูผมว่าเป็นยังไงบ้าง แต่พอเข้ามาดูเห็นลูกค้ารายนี้กำลังดูหนังโป๊ แต่ไม่ได้เปิดเสียง ดูแบบไม่กลัวคนอื่นเห็น

พอเห็นแบบนั้นจึงเกิดความกลัวเลยรีบมานั่ง และรอล้างสีผม ก่อนที่จะพามาล้างผม เพราะลูกค้ารายนี้จะโกนหนวดด้วย พอล้างสีผมจะพามาโกนหนวด จังหวะที่คลุมผ้า ปรับเบาะเอนนอนในระดับที่จะโกนหนวด ก็นำผ้ามาปิดตาก่อนโกนหนวดตามปกติ สักพักลูกค้ารายนี้เอามือข้างขวาขึ้นมาในลักษณะบังเอาไว้และช่วยตัวเอง ซึ่งจังหวะนั้นยังไม่เห็นว่าลูกค้าทำอะไรชัดเจน พอโกนหนวดเสร็จก็บอกลูกค้าว่าเสร็จแล้วและเอาผ้าคลุมออก จังหวะที่เอาผ้าคลุมออกนั้น ลูกค้ารายนี้ยังเก็บอวัยวะเพศไม่เสร็จ จึงเห็นและมั่นใจว่าช่วยตัวเอง เพราะเห็นถุงยางอนามัยยังคาอยู่ที่อวัยวะเพศของลูกค้า ซึ่งดึงกางเกงขึ้นมาหนึ่งข้าง เหมือนจะกำลังจะเสร็จพอดี ก่อนที่ลูกค้าจะลุกลี้ลุกลนและขอเข้าห้องน้ำ ตนเองจึงบอกไปว่าที่นี่ไม่มีห้องน้ำบริการ ลูกค้ารายนี้จึงสแกนจ่ายและรีบออกจากร้านไป ตนจึงรีบล็อคร้านเอาไว้ ก่อนที่ชายดังกล่าวจะโทรศัพท์มาอีกครั้ง แต่ตนเองไม่กล้ารับสาย

• เผยคำพูดสุดท้ายสาวท้องแก่ ก่อนรถพยาบาลประสานงากระบะ ตายทั้งกลม
• ชาวบ้านเอือม ลูกทรพี เมาคลั่งกระทืบพ่อพิการ ดับอนาถ
• ส่อพิรุธ! คดีผู้ช่วยกุ๊กสาว รร.ภูเก็ต ดับปริศนา ได้ตร.ยศใหญ่ช่วยปิดข่าว?

กระทั่งวันที่ 8 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ลูกค้ารายนี้มาอีกและดูโทรศัพท์เหมือนเดิมพร้อมกับจับอวัยวะเพศตัวเองอีก แต่เป็นจังหวะที่มีลูกค้าเข้ามาพอดี จึงไม่กล้าทำอะไร และทำทีว่านั่งหลับตอนตัดผม ซึ่งปกติลูกค้ารายนี้จะไม่มาตอนที่ลูกค้าอยู่ ตอนนี้ต้องอยู่อย่างผวา กลัวว่าลูกค้ารายนี้จะมาอีก ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ และจะมาแบบไหน เพราะแฟนก็ไปทำงานจะกลับมาช่วงเย็น อีกทั้งเมื่อวานที่ผ่านมาลูกค้ารายนี้มายืนอยู่หน้าร้านค้าฝั่งตรงข้าม เหมือนจะมาดูลาดเลาว่ามีลูกค้าในร้านหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้เข้ามาเพราะมีลูกค้าอยู่ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ และเพิ่งจะติดตั้งเมื่อวานที่ผ่านมา

ในวันที่เกิดเหตุนั้นได้เจ้าของร้านเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น และเล่าให้ตำรวจฟัง พอบอกว่าลูกค้ารายนี้ทำให้ร่มผ้า ตำรวจจึงบอกว่าถ้าไม่มีหลักฐานภาพถ่ายที่ชัดเจนว่าทำอะไร และกรณีนี้ทำในร่มผ้าก็จะทำให้ลูกค้ารายนี้อ้างได้ว่าหลักฐานไม่ชัดเจน จึงเป็นเรื่องที่ยาก ส่วนตัวมองว่าลงบันทึกประจำวันไว้ว่าเป็นการอนาจารก็น่าจะได้ แต่ตำรวจไม่ทำให้ เพราะหลังจากเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ตำรวจหญิงที่รับเรื่องบอกว่ารอให้เค้ามาทำอีกรอบหนึ่ง แล้วให้ถ่ายหลักฐานมาให้ครบทุกมุม แล้วค่อยมาแจ้งความใหม่

ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่มีใครทำได้ เพาะถ้าถ่ายลูกค้ารายนี้ก็จะรู้ตัว ต้องถ่ายให้เห็นทุกมุมว่าทำอะไรจึงจะรับแจ้งความ ตอนนี้เหมือนแค่ไปเล่าให้ฟังเฉย ๆ ไม่มีการลงบันทึกประจำวันแต่อย่างใด มีแต่บอกให้ถ่ายภาพมาเป็นหลักฐานให้ครบทุกมุม ตอนนี้กลัวมากไม่กล้ารับลูกค้าคนนี้มาอีก และที่รับมาครั้งล่าสุดเพื่อจะให้มีภาพใบหน้าลูกค้าหื่นรายนี้เอาไว้ เพื่อจะลองเข้าไปแจ้งความอีกครั้งว่าจะสามารถทำอะไรได้หรือไม่