เมื่อเวลา 00.30 น วันที่ 18 เมษายน 2567 ร.ต.อ.วนัสพงษ์ มัดหา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีคนจมน้ำบ่อน้ำข้างทาง ริมถนนท้ายบ้าน บริเวณสามแยกหาดอมรา ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ่อน้ำข้างทาง เจ้าหน้าที่พบผู้ที่จมน้ำหมดสติ ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในละแวกดังกล่าวได้ช่วยเหลือนำขึ้นมาริมคันบ่อ เจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาล โดยการทำ CPR ประมาณ 10 นาที แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อต่อมา ชื่อ นายแก้ว อายุ 63 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงประสานผู้เกี่ยวข้องให้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ลูกชายได้เปิดโพสต์ของคนตายที่โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวาน ว่า
“คนเราทำงานก็โดนโกง ไปสมัครงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ เพราะอายุมาก นอนอยู่กับห้องเหมือนคนป่วยติดเตียง แล้วจะอยู่ เพื่ออะไร ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว”
พร้อมเปิดแชตไลน์กับหัวหน้างานของพ่อ ที่ลูกชายได้ทวงถามเรื่องค่าแรงของผู้ตาย
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นผู้ตายประมาณเกือบเที่ยงคืน อยู่ที่ริมบ่อ นั่งดื่มสุราอยู่ โดยตนเองนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในรถตอนประมาณ 5 ทุ่มกว่า พอมองมาอีกครั้งก็เห็นแต่รองเท้าผู้ตาย ตนเองจึงเปิดประตูรถลงมาดูก็พบผู้ตายอยู่ในบ่อน้ำแล้ว ส่วนผู้ตายคงไม่เมาเนื่องจากดื่มสุราไปแค่นิดเดียว
ลูกชายคนกลางของผู้ตาย อายุ 34 ปี เผยว่า พ่อทำงานเป็น รปภ. ตนเป็นคนพาพ่อไปสมัครงาน ด้วยความที่อายุมากแล้ว ก็ไม่ได้ใช้เอกสารอะไร แต่ปรากฏว่าถูกเบี้ยวค่าแรง ซึ่งตนเองก็ไปทวงเงินให้พ่อแล้ว เมื่อช่วงเย็นตนเองก็โทรศัพท์หาพ่อ แต่ก็คุยไม่รู้เรื่อง เนื่องจากพ่อเมา มารู้อีกทีคือพ่อจมน้ำไปแล้ว
ขณะที่ ลูกชายคนเล็ก อายุ 22 ปี เล่าว่า พ่อเครียดหลายอย่าง ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน และที่บ้านเรื่องเงินฌาปนกิจที่ไม่มีเงินจ่าย เครียดหลายอย่าง โดยปกติที่ผู้ตายเวลาเมาจะบ่นว่าอยากตายแต่ก็ไม่เคยทำ แต่ทำไมครั้งนี้มาทำ ตนเองมารู้อีกที่ว่าพ่อจมน้ำเสียชีวิตก็เมื่อมีคนมาเรียกที่ห้องพัก และ วันนี้เป็นวันเกิดตนเองครบ 22 ปีพอดี
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ จะเชิญญาติของผู้เสียชีวิตไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อม ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริง ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่มอบให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ ก่อนมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป