วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพ สร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือทองคำ จำนวนหลายเส้น น้ำหนักรวมประมาณ 25 บาท ภาพชายหญิงในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวและเด็กเล็กที่สวมใส่สร้อยทองคำรูปพรรณ ดังกล่าว และใบแจ้งความ พร้อมกับระบุข้อความว่า

“วันที่ 25 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 13.00-17.00 น. มีโจรขึ้นบ้านพ่อเลิศ-แม่มะยม เหตุเกิด บ้านลำตาเณร ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ทรัพย์สินที่ได้ไปคือทองคำรูปพรรณ จำนวน 25 บาท (ตามรูปภาพ) เงินสด 4,000 บาท ตอนนี้ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้แล้ว ผู้ใดพบเห็นผู้น่าสงสัยกรุณาแจ้ง 0878518892, 0913838790

และโจรน่าจะนำทองไปขาย ขออย่าได้รับซื้อทองตามรายการดังกล่าว เพราะจะถือว่ารับของโจร ขอความกรุณาช่วยติดตามคนร้ายมารับผิดด้วยค่ะ ช่วยกันแชร์นะคะ ลงในเฟซบุ๊กหลายกลุ่ม และหลังจากภาพและข้อความดังกล่าว ถูกโพสต์ออกไป ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองให้กำลังใจ ขอให้ตำรวจจับคนร้ายได้ และให้ได้ของคืนทั้งหมด

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าพืชไร่ ของนายบุญเลิศ อายุ 68 ปี และนางมะยม อายุ 68 ปี สองสามีภรรยา และ น.ส.อมรัตน์ อายุ 29 ปี ลูกสาวคนเล็ก โดยมี น.ส.มลธิชา อายุ 40 ปี ลูกสาวคนโต ซึ่งรับราชการอยู่ต่างจังหวัด ที่กลับมาเยี่ยมบ้าน เป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊ก

พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองไผ่ และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจเก็บหลักฐานต่างๆ ที่ภายในบ้านหลังดังกล่าว

โดย น.ส.มลธิชา เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเป็นวันเกิดของนายบุญเลิศ  ผู้เป็นพ่อ ตนและครอบครัว จึงพากันออกไปทานข้าวนอกบ้าน พอกลับมาพบว่า หน้าต่างและประตูหลังบ้านถูกเปิดไว้ น.ส.อมรัตน์ น้องสาว นึกเอะใจจึงรีบเข้าไปเปิดประตูห้องนอนดูก็พบว่าประตูห้องนอนถูกงัด เงินสดที่แม่วางไว้ที่หัวเตียงหายไป

พอเปิดประตูตู้เสื้อผ้ายิ่งตกใจ เพราะทองคำรูปพรรณที่อยู่ในกล่องหายไปทั้งหมด ซึ่งเป็นทองที่ตนและครอบครัวเก็บสะสมมากว่า 10 ปี ที่สำคัญมีมูลค่าทางด้านจิตใจ เพราะเป็นทองหมั้นและทองแต่งงานของตนและของน้องสาว

โดยปกติทองเหล่านี้ตนแม่และน้องสาวจะใส่ติดตัวตลอด แต่วันที่เกิดเหตุไม่ได้นำติดตัวไป เพราะคิดว่าออกไปไม่นาน จึงอยากจะขอวอนฝากร้านทองหรือผู้ที่รับซื้อทองในอำเภอหนองไผ่ และอำเภอใกล้เคียง อย่ารับซื้อทองที่คนร้ายลักขโมยไป และทองแต่ละเส้นมีเอกลักษณ์ที่ตนจำได้