เพื่อนแฟนเก่า แอม แฉพบหลักฐานเด็ดในบ้าน ขวดไซยาไนด์-เอกสาารแจ้งสาเหตุการตาย เชื่อ ถูกฆาตกรรม ชี้ โหดเหี้ยมเกินมนุษย์ ฝากตำรวจเอาผิดถึงที่สุด
จากกรณีครอบครัวของ น.ส.ศิริพร หรือ น้องก้อย อายุ 32 ปี เท้าแชร์ชาว จ.กาญจนบุรี ที่เป็นลมวูบเสียชีวิตปริศนาขณะเดินทางไปทำบุญปล่อยปลากับเพื่อนสนิทที่ริมท่าน้ำแม่น้ำแม่กลอง จ.ราชบุรี เข้าร้องทุกข์ตำรวจกองปราบ ช่วยตรวจสอบความผิดปกติเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม โดยมี นางสรารัตน์ หรือ แอม อดีตภรรยาของตำรวจระดับรองผกก. ในพื้นที่จ.ราชบุรี เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 25 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายเอ (นามสมมติ) ชาว จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ นายแด้ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่คาดว่า น.ส.แอม มีส่วนรู้เห็นในการตาย ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ นายแด้ ได้รู้จักและมีความสัมพันธ์กับน.ส.แอม เพื่อนของตนก็ปรนเปรอทั้งเงินและทองให้ตลอด เนื่องจากน.ส.แอมเป็นคนปากหวาน เอาใจเก่ง โปรไฟล์ดี มีอาชีพทำแชร์และรับจำนองที่ดิน รถยนต์ แต่ทุกครั้งที่โทรศัพท์พูดคุยกัน น.ส.แอมจะทิ้งท้ายว่า “แล้วโอนเงินมาด้วยนะ”
นายเอ กล่าวต่อว่า ต่อมาเพื่อนตนเดินทางไปทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ที่ จ.อุดรธานี และได้ชักชวนให้ น.ส.แอมไปฉลองวันเกิดด้วยกัน โดยในเช้าของวันที่ 12 มี.ค.2566 ทั้งคู่ได้ออกไปทำบุญด้วยกันที่วัดแห่งหนึ่ง กระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. พบว่านายแด้เป็นลมหมดสติอยู่ห้องน้ำในบ้านพัก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
- อ่านข่าว : แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ล็อก ‘แอม’ เค้นสอบปมโหด เจอหลักฐานสำคัญขวดไซยาไนด์
- อ่านข่าว : เปิดใจ แอม อดีตเมียรองผกก. ปมวางไซยาไนด์ฆ่า น้องก้อย ด้าน ทนายแจงยิบ
นายเอ กล่าวอีกว่า แต่สิ่งที่เพื่อนทุกคนต่างติดใจสงสัย นอกจากสภาพศพของนายแด้ที่มีรอยคล้ำที่ผิวขอบใต้ตา ริมฝีปาก และเล็บ รวมถึงมีเลือดออกที่บริเวณปากและจมูก ซึ่งตนมองว่ามีความผิดปกติแล้ว คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมีย และกำลังจะเป็นแม่ของลูก ในวันที่สามีเสียชีวิตกลับเลี้ยงฉลองวันเกิดของตัวเองในช่วงกลางคืน ปล่อยให้เจ้าหน้าที่นำส่งร่างผู้เสียชีวิตมาที่ จ.ราชบุรี มาเพียงลำพังโดยไร้ญาติ ส่วนน.ส.แอมนั่งเครื่องบินตามกลับมาในภายหลัง
นายเอ กล่าวด้วยว่า ตลอดเวลาที่พิธีบำเพ็ญกุศลศพก็ไม่เคยมาร่วมงาน จนถึงวันฌาปนกิจจึงได้เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเมีย และกำลังตั้งครรภ์ลูกของนายแด้ ทางญาติเห็นแก่เด็กและผู้เสียชีวิต จึงไม่ติดใจทวงถาม และยกทรัพย์สินให้ไป ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 3 บาท พระเลี่ยมทอง แหวนทอง และเงินสดไม่ทราบจำนวน
นายเอ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ญาติและเพื่อน ๆ ทราบข่าวที่เกิดขึ้นกับน.ส.ศิริพรจึงเอะใจ เนื่องจากลักษณะการตายที่คล้ายกัน ก่อนจะย้อนกลับเข้าไปที่บ้านของนายแด้ใน อ.บ้านโป่ง ที่น.ส.แอมเคยมาใช้ชีวิตร่วมกัน และถึงกับต้องผงะ เมื่อพบกับหลักฐานสำคัญ คือ เอกสารแจ้งเหตุการณ์เสียชีวิตของนายแด้ ออกโดย สภ.เมืองอุดรธานี ที่น.ส.แอมไม่เคยส่งมอบให้กับญาติ ซึ่งในเอกสารระบุว่า น.ส.แอมผู้เป็นภรรยาได้ร่วมเป็นพยาน และไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต
นายเอ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบขวดสารเคมีระบุชื่อ “UN1680” จากการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตพบว่าเป็นสารกลุ่มไซยาไนด์ ทางครอบครัวจึงส่งหลักฐานทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ชุดกองปราบไว้ประกอบการดำเนินคดี ดังนั้น คนในครอบครัวของนายแด้ รวมถึงเพื่อน ๆ ทุกคน เชื่อว่านายแด้และผู้เสียชีวิตคนอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวพันกับ น.ส.แอมถูกฆาตกรรมอย่างแน่นอน และเป็นการฆาตกรรมแบบต่อเนื่อง เพื่อหวังในทรัพย์สิน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเกินมนุษย์
นายเอ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกับ น.ส.แอมให้ถึงที่สุด และขอให้มีการลงโทษสูงสุด คือ การประหารชีวิต เพราะเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวและเป็นภัยสังคมมาก และเชื่อว่า น.ส.แอมไม่ได้ก่อเหตุเช่นนี้เพียงคนเดียว น่าจะมีผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะสามารถฆ่าคนได้ต่อเนื่องขนาดนี้ ขอให้ตำรวจตรวจสอบให้หมด นอกจากนี้ ขอฝากถึง น.ส.แอมว่า “ขอให้ยอมรับผิด ชดใช้กรรมที่ตัวเองทำลงไปทั้งหมด”