#แบนสุพรรณหงส์ กระหึ่มโซเชียลฯ! หลังเกิดปมเกณฑ์คัดเลือกไม่เป็นธรรม เอื้อค่ายใหญ่

Home » #แบนสุพรรณหงส์ กระหึ่มโซเชียลฯ! หลังเกิดปมเกณฑ์คัดเลือกไม่เป็นธรรม เอื้อค่ายใหญ่


#แบนสุพรรณหงส์ กระหึ่มโซเชียลฯ! หลังเกิดปมเกณฑ์คัดเลือกไม่เป็นธรรม เอื้อค่ายใหญ่

แห่วิจารณ์ร้อน #แบนสุพรรณหงส์ คนทำหนังลั่นเกณฑ์คัดเลือกไม่เป็นธรรม เอื้อค่ายใหญ่ ด้านรองประธานสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์ทนไม่ไหว ร่อนจดหมายลาออก

วงการภาพยนตร์ร้อนระอุ ในโซเชียลขึ้นมาทันที เกี่ยวกับเกณฑ์คัดเลือกผลงานเข้าชิง “รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์” หรือ “รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลในวงการผลิตภาพยนตร์ไทย โดยสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งมีมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี

 

ล่าสุดผุด #แบนสุพรรณหงส์ กระหึ่มโซเชียลณ หลังจาก “ศราวุธ แก้วน้ำเย็น” อาร์ต ไดเรคเตอร์ หรือ ผู้กำกับศิลป์ ภาพยนตร์เรื่อง “เวลา” (Anatomy of Time) ซึ่งกำกับโดย “เก่ง-จักรวาล นิลธำรงค์” ที่ได้เข้าฉายในรอบ World Premiere งาน Venice International Film Festival เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี และได้รับรางวัล Bisato Award for Best Screenplay กระทั่งได้รับเสียงชื่นชมในกลุ่มนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม

 

ทว่า อาร์ตไดเรคเตอร์ มือฉมัง กลับต้องพบฝันร้าย กับเกณฑ์คัดเลือกหนังเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติของไทย หลังหนังเรื่องเวลา ถูกตัดสิทธิเข้าชิงเหตุไม่ผ่านเกณฑ์

โดยเกณฑ์ที่ว่านี้ เป็นเกณฑ์ที่จัดตั้ง โดยระบุไว้ว่า “ต้องฉายในโรงภาพยนตร์ครบทั้ง 5 ภูมิภาคในไทย” ส่งให้เขาได้ระบายความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

 

“จากใจคนทำหนังไทย เมื่อคืนเป็นอีกหนึ่งคืนที่มีความสุข ในขณะที่เราตั้งตารอว่า ภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่เราทำจะได้รางวัลในประเทศไทยบ้างไหม สรุปเกินคาด เมื่อ ภาพยนตร์เรื่อง “เวลา” (Anatomy of Time) ได้คว้ารางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” คมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่19 และ ผู้กำกับ พี่เก่ง จักรวาล ของเรา ได้คว้ารางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม แห่งปี ก็ดีใจและภูมิใจมาก

หลังจากได้รางวัลจากหลายประเทศทั่วโลก อีกใจก็คิดว่าในที่สุด ประเทศเราก็เห็นค่างานศิลปะงานภาพยนตร์นอกกระแส ภาพยนตร์ที่ทำอย่างตั้งใจอีกเรื่องหนึ่งในชีวิต ด้วยทุนที่ต่ำกว่ามาตราฐานมากๆ โดยเฉพาะงานด้านโปรดักชั่นดีไซน์ที่ตัวผมเองนั้นไม่มีแม้แต่ค่าจ้างด้วยซ้ำ เพราะคิดว่านี้เป็นอีกเวที ที่เราจะได้ทำงานศิลปะโดยไม่มีข้อแม้ของสตูดิโอมาปิดกั้นจินตนาการ

แต่ๆๆๆๆๆ เมื่อฝันหวานไปได้หนึ่งคืนก็ฝันร้ายไปอีกวัน เมื่อ ภาพยนตร์ เวลา (Anatomy of time) ที่เพิ่งได้รางวัลอันทรงเกียรติ กลับต้องถูกตัดสิทธิเอาชื่อออก ไม่ผ่านเกณฑ์การเข้าชิงรางวัล ของกองประกวดกองหนึ่ง กองที่ใหญ่ที่สุด และยืนระยะในการมอบรางวัล (และยังเรียกว่าการประกวดแห่งชาติ) เพราะเพียงว่า ………..หงส์มีหลักเกณฑ์ ใหม่ที่เพิ่งตั้งในปีนี้ว่า

ภาพยนตร์ที่จะเข้าคัดเลือกต้องมีการเข้าฉายในโรงภาพยตร์ให้ครบ 5 ภูมิภาคของประเทศไทย แต่ภาพยนตร์เรื่อง Anatomyoftime ไม่ได้ไปฉายให้ครบทุกภาคของประเทศก็เลยไม่ผ่านเกณฑ์การตัดสิน

นี่หรอครับ เพียงแค่เราทำหนังโดยทุนต่ำ และไม่มีปัญญาหาเงินหรือไปขอโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ เข้าฉายให้ครบทุกภาคในประเทศบ้านเกิด แต่เราเข้าฉายไปทั่วโลกและคนในประเทสที่ไม่ใช่บ้านเราก็ให้รางวัลมาหลายที่? ผิดด้วยหรอที่เราฉายไม่ครบทุกภาค? แต่เราก็ฉายในสตีมมิ่งอันดับต้นของโลกครับ? ผิดด้วยหรอที่เราถูกโรงหนังขนาดใหญ่ของประเทศตัดรอบฉาย?

แต่ท้ายที่สุดรางวัลหรือยอดขายมันอาจมีไว้ตีค่าทางสังคมได้ดีที่สุด แต่มันไม่สามารถเลยครับที่จะหยุดจินตนาการ มันไม่สามารถเลยครับที่จะหยุดค่าของภาพยนตร์ ( ผมอาจไม่ใช้นักกีฬา จึงไม่สามารถ เรียกตัวเองว่านักกีฬาทีมชาติ แต่ผมตั้งใจและทำหนังไทยแบบต่อเนื่องในทุกค่ายทุกรูปแบบทั้งในกระแส หรือ นอกกระแส ผมมั่นใจและกล้าที่จะบอกกับคนทั้งโลก ว่า ผมคือทีมชาติหนังไทยอีกคน อดก็ทำมีก็ลุย)

ปล. ขอบคุณคมชัดลึกที่ให้ค่าพวกเรา
ปล. ไม่ได้ออกมาเรียกร้องอยากได้รางวัล เคยได้แล้ว แค่ไม่อยากให้เรากระทืบกันจนไม่มีที่ยืน
ปล.ขอบคุณวันนี้อย่างน้อยก็ได้ทำหนัง ไทยยอดเยี่ยมแห่งปีในสนามคมชัดลึก

สุดท้ายความสิ้นหวังก็ต้องยืดอกยอมรับการตัดสิน เเละภาพยนตร์อีก 11 เรื่องก็คงตกอยู่ในความรู้สึกเดียวกัน วันนี้คุณอาจตัดสินเพียงเรา แต่เชื่อสิว่ามันคือการตัดสินวงการทั้งวงการหนังนอกระแสไปแล้ว ขอบคุณทุกการตัดสินครับ

เราไม่เคยบอกว่าหนังเราดีที่สุด บทดีเรื่องดี แต่เราแค่ขอพื้นที่นำเสนอภาพยนตร์อีกรูปหนึ่ง แบบที่คนในชาติไม่สามารถหาดูทั่วไป เพื่อเราจะได้ไม่ต้องถูกยัดถูกบังคับให้เลือกให้ดูให้กินไปจนตาย แก่พันธุ์ทาง”

ขณะเดียวกัน “หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล” หรือ คุณชายอดัม ผู้กำกับภาพยนตร์ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ได้ถามไปทางสุพรรณหงส์เกี่ยวกับเกณฑ์การคัดเลือกดังกล่าาว ซึ่งได้รับคำตอบ “ไม่สามารถปรับเปลี่ยนกติกาได้แล้วเพราะเวลาไม่ทัน และจะพิจารณาใหม่ในปีหน้า” ตนจึงขอไม่ร่วมงานสุพรรณหงส์ในปีนี้ และอนาคตอาจจะงดส่งหนังเข้าชิงรางวัลในประเทศอีกแล้ว

 

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี “อดิศักดิ์ ลิมปรุงพัฒนกิจ” รองประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก “Adisak Limparungpatanakij“ ว่าไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์การคัดเลือกภาพยนตร์ไทย ที่ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ประจำปี 2566 พร้อมร่อนจดหมายลาออก

“ขอแจ้งให้สาธารณะทราบโดยทั่วกัน ผมขอลาออกจากการเป็นรองประธานสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติด้วยเหตุผลตามหนังสือลาออก

ขอขอบคุณท่านเลขา​สมาพันธ์ฯ พรชัย ว่องศรีอุดมพร ที่ชวนให้มาร่วมทำงานเพื่อวงการภาพยนตร์ไทย​ หลังจากงาน​ World​ Film​ Festival​ of Bangkok ครั้งที่15เมื่อต้นธันวาคม2565ที่มีจุดมุ่งหมายเปิดพื้นที่สำหรับภาพยนตร์ไทยอิสระ #แบนสุพรรณหงส์”

งานนี้ หลังจากที่เผยแพร่เนื้อความดังกล่าวออกไป ก็มีคนออกมาแสดงความคิดเห็น ถึงความไม่ยุติธรรม และเกณฑ์การตั้งใจของรางวัลดังกล่าว

และดูเหมือนว่า ข้อถกเถียงนี้จะยังต้องได้รับการสนทนาแลกเปลี่ยนกัน จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในแวดวงภาพยนตร์ไทยอีก เพื่อหาบทสรุปเหมาะสม และเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่ายต่อไปในอนาคต

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ