ว่าที่สาวบัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1 ป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว เสียชีวิต สั่งเสียญาติ บริจาคอวัยวะ ช่วย 4 ชีวิต ครอบครัวเล่าสุดเศร้า ทำใจไม่ได้ อนาคตกำลังจะดี
วันที่ 16 มี.ค.2566 นางศุภกาญจน์ โรจนโสทร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย นพ.อนันต์ มาลัยรุ่งสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลพะเยา เจ้าหน้าที่กาชาด และแพทย์พยาบาล โรงพยาบาลพะเยา ร่วมกันรับมอบและพิธีแสดงความอาลัยกับผู้บริจาคอวัยวะ ของสาวรายหนึ่ง อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นว่าที่บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดเชียงราย ภูมิลำเนาในพื้นที่ อ.จุน จ.พะเยา
หลังจากสั่งเสียญาติหากตนเองเป็นอะไรไป ขอให้บริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือผู้คนต่อไป ขณะที่ทราบข่าวว่า ตนเองป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว โดยเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่หญิงสาวคนดังกล่าวได้เสียชีวิตลง ทางญาติซึ่งประกอบด้วย ยาย น้องสาว และน้าสาว จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตเข้าทำการบริจาคอวัยวะ
ยายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในการนำหลานสาวเข้าทำการบริจาคอวัยวะ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ตายที่ได้พูดมาโดยตลอด หากตนเองเป็นอะไรไป ขอให้ญาตินำร่างกายและอวัยวะบริจาคให้ด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป โดยผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว และก่อนเสียชีวิตมีเลือดออกในสมองมาก เนื่องจากรับประทานยาสลายลิ่มเลือด ญาติจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้าน น้าสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่งจบการศึกษาแต่ยังไม่ได้รับปริญญาบัตร แต่มาเสียชีวิตก่อน ตนก็รับไม่ค่อยได้เพราะมันเร็วเกินไป ซึ่งผู้เสียชีวิตกำลังจะได้ทำงานเนื่องจากผู้ตายเรียนสาขาคณิตศาสตร์ และได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วย และสามารถที่จะเป็นครูเอกคณิตศาสตร์ได้เลย แต่ก็ไม่ได้ตามที่มุ่งหวังไว้ และด่วนจากไปเสียก่อน ซึ่งทางญาติไม่อาจทำใจได้
ขณะที่ นพ.อนันต์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตมีความประสงค์จะบริจาคอวัยวะนั้น ถือเป็นการให้ที่ถือเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ การบริจาคอวัยวะจะเป็นการต่อชีวิตให้กับคนอื่นต่อไป ซึ่งการบริจาคอวัยวะดังกล่าวนั้น จะมีทั้งการบริจาคดวงตา หัวใจ ปอด ตับ ไต ซึ่งในเคสนี้ทางโรงพยาบาลสามารถที่จะรับบริจาคได้ โดยมีดวงตา 2 ข้าง และไต 2 ข้าง ซึ่งเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่สามารถช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยต่อไปถึง 4 ราย
นางศุภกาญจน์ กล่าวว่า ในนามของเหล่ากาชาดจังหวัดพะเยาเป็นตัวแทนสภากาชาดไทยก็ได้มารับอวัยวะของน้องที่เสียชีวิต แล้วได้บริจาคอวัยวะซึ่งหากสามารถใช้ได้หมดก็จะสามารถช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 8 ราย ในส่วนรายนี้สามารถรับบริจาคได้ โดยได้ดวงตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง เพื่อนำไปช่วยเหลือให้กับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีภาวะอาการป่วยที่ต้องการต่อไป