บุรีรัมย์ จัดมหกรรมรักศรัทราวิชาการ ส่งเสริมเยาวชนระดับประถม เล็งเห็นความสำคัญ เผยการศึกษาไทย เข้าข่ายอนาถา 40 ปีผ่านมาถึงปัจจุบัน ยังเห็นการตั้งกองผ้าป่า หาเงินจ้างครูสอนเด็ก
นายโสภณ ซารัมย์ ประธานมูลนิธิ” อาณัตพลซารัมย์” ออกมาเปิดเผย หลังเดินทางมาเป็นประธานการจัดงาน “มหกรรมรักศัทราวิชาการ” และการลงนามร่วมกัน 3 หน่วยงาน คือท้องถิ่น ราชการ และภาคเอกชน ที่เทศบาลตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่า
กิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งกิจกรรมของการทำให้บ้านเมืองให้น่าอยู่ ซึ่งในความจำเป็นจะต้องมีหน่วยงานราชการ ท้องถิ่น และภาคเอกชน เข้ามาร่วมด้วย จึงจะสามารถทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ได้
สิ่งที่เกิดขึ้นจนเป็นความน่าอนาถใจ คือยุคการศึกษาของไทย ในปัจจุบันยังมีภาพครูต้องไปทำผ้าป่ามา “จ้างครูสอน” เพิ่มแทบไม่น่าเชื่อว่า ในยุคประเทศนี้ยังมีแบบนี้ให้เห็น ซึ่งมันน่าจะหมดไปจากที่เคยเกิดขึ้นมากว่า 40 ปีที่ผ่านมา แล้วเราจะไปพึ่งอะไรเกี่ยวกับระบบการศึกษาของไทย
ตนในฐานะประธานมูลนิธิ “อาณัตพลซารัมย์” หรือ ลูกเติ้ง จึงมีแนวคิดที่จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับ หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน คือมูลนิธิฯที่ตั้งขึ้นมา ช่วยเหลือในด้านการศึกษา นายกอบต. หรือนายกเทศบาล จะต้องเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนการศึกษา
ทั้ง 3 หน่วยงานจะต้องหาแนวทางช่วยเหลือโรงเรียน พัฒนาการเรียนการสอน ส่งเสริม พัฒนาสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษาให้เด็กนักเรียนรู้ถึงแก่นแท้ของการศึกษากับชีวิตความเป็นจริง
เช่น ค่าของฝุ่นละอองในอากาศ ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องทำอย่างจริงจัง โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ มีโรงงานน้ำตาล จะทำอย่างไรที่ไม่ให้เกษตรกรเผาอ้อย จะมีบทลงโทษอย่างไร ขึ้นอยู่กับการกำหนดของ 3 หน่วยงานที่ทางมูลนิธิ ได้ร่วมลงนามข้อตกลงในครั้งนี้
“เพื่อให้ท้องถิ่นตระหนักมากขึ้น ไม่ควรจะยึดติดกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแต่เพียงอย่างเดียว ควรจะมุ่งเน้น 3 อย่างคือ สุขภาพ อาชีพ และการศึกษา” นายโสภณ กล่าว