พบร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 4 จากเหตุ แพล่ม กลางแม่น้ำมูล หลังกลับจากดูหมอลำ ยังเหลือเด็กวัย 11 ปี อีกหนึ่งราย ด้านผอ.สำนักงานเจ้าท่าอุบลฯ จ่อจัดระเบียดใหม่
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 เจ้าหน้าที่มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี มูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน และ 1669 อบจ.อุบลราชธานี ร่วมกับชาวบ้านนำเรือตระเวนออกค้นหาผู้สูญหายในแม่น้ำมูล กระทั่งพบศพนายหนึ่งศักดิ์ดา พันธ์เสาร์ อายุ 41 ปี ลอยอยู่กลางแม่น้ำ ขณะนี้ยังเหลืออีกรายเดียวคือ ด.ช.อานนท์ พันเสาร์ หรือเต็งหนึ่ง อายุ 11 ปี เพียงรายเดียวเท่านั้น
อ่านข่าว 30ชีวิตระทึก! นั่งแพกลับจากดู หมอลำซิ่ง ล่มกลางแม่น้ำมูล ดับ2 หาย3
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจาก แพข้ามฟากแม่น้ำมูลล่ม ที่บ้านคำนกหอ ม.15 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังกลับจากไปเที่ยวดูหมอลำซิ่งหมู่บ้านที่อยู่คนละฝากแม่น้ำมูล ทำให้มีผู้เสียชีวิต และพบศพแล้วรวม 5 ศพ
จากการดำค้นหาผู้เสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ พบกระเป๋าคาดไหล่ภายในมีอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด .38 พร้อมกระสุน 3 นัด และทรัพย์สินที่เป็นของผู้เสียชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าอาวุธปืนชาวบ้านที่แพล่มคงพกไปป้องกันตัวขณะไปดูหมอลำซิ่ง จึงเก็บส่งเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่
นายชาญยุทธ์ ชื่นตา ผอ.สำนักงานเจ้าท่าอุบลราชธานี กล่าวว่า แพดังกล่าวหากเรียกตามสภาพแล้วเป็นเรือหัวตัดที่ดัดแปลง เพื่อขนย้ายรถจักรยานยนต์และขนส่งชาวบ้านข้ามฟาก แต่ชาวบ้านจะเรียกว่าแพข้ามฟาก ซึ่งเรือที่เกิดเหตุไม่ได้มีการขออนุญาตหรือขึ้นทะเบียน เป็นเรือโดยสารกับทางสำนักงานเจ้าท่าอุบลราชธานี
เป็นเรือที่ชาวบ้านใช้ในการทำประมงและใช้รับจ้างขนส่งคนข้ามฟาก และคนขับเรือก็ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ จึงได้ดำเนินการปรับผู้ที่บังคับควบคุมเรือในฐานใช้เรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ จำนวน 1,000 บาท ส่วนด้านคดีกระทำประมาทจนมีคนเสียชีวิต ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน จากนั้นจะได้แจ้งข้อหากับผู้ขับเรือต่อไป