ด่านกักกันสัตว์สงขลา จัดการฝังทำลายซากสุกรแช่แข็ง ลักลอบนำเข้าจากประเทศ บราซิล โดยผิดกฎหมาย จำนวน 30 ตัน มูลค่า 6 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2566 ที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์เทพา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สงขา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากปศุสัตว์ เขต 9 ปศุสัตว์ จ.สงขลา และศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์เทพา ได้ร่วมกันฝังทำลายซากสุกรแช่แข็งถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ (บราซิล) จำนวน 30 ตัน หรือ 3 พันกิโลกรัม มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 รวมทั้งด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา และรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมได้บริเวณลานขนถ่ายสินค้าในพื้นที่ ม.2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ขณะกำลังลำเลียงจากรถเทรลเลอร์ใส่รถบรรทุกอีกคัน พร้อมจับกุมคนขับรถ 2 คน เนื่องจากไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร รวมทั้งเอกสารใบอนุญาตนำเข้า หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติพิธีการศุลกากร
ส่วนขั้นตอนการทำลายนั้น ด่านกักกันสัตว์สงขลาได้นำซากสุกรไปทำลายตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ด้วยการฝังกลบในระดับความลึกไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร แล้วพ่นยาฆ่าเชื้อ และฝังกลบทับอีกชั้นในระดับไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร เพื่อความปลอดภัย และป้องกันโรคระบาดที่อาจจะปะปนในสัตว์หรือซากสัตว์ที่นำเข้าโดยผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สงขลา เปิดเผยว่า เนื้อสุกรหรือเนื้อหมูที่ลักลอบนำเข้านั้น ส่วนใหญ่จะได้รับการตรวจรับรองโดยกรมปศุสัตว์ ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนทั้งจากสารเคมี เชื้อโรค หรือสารเร่งเนื้อแดงที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
นอกจากนี้เมื่อช่วงประมาณ 3-4 เดือน ที่ผ่านมา ทางด่านศุลกากรสะเดา และกรมปศุสัตว์ ได้ร่วมกันตรวจยึดซากสุกรนำเข้าโดยผิดกฎหมายล็อตใหญ่อีกล็อตหนึ่งราว 20 ตัน เนื่องจากไม่พบเอกสารแสดงแหล่งที่มาที่ไป และได้จัดการฝังทำลายไปแล้วเช่นกัน