ทาทา เปิดใจ โรครุมเร้า สู้เพื่อลูก ลั่นตายไม่ได้ โอดชวดหลายงาน สูญเงินนับล้าน

Home » ทาทา เปิดใจ โรครุมเร้า สู้เพื่อลูก ลั่นตายไม่ได้ โอดชวดหลายงาน สูญเงินนับล้าน


ทาทา เปิดใจ โรครุมเร้า สู้เพื่อลูก ลั่นตายไม่ได้ โอดชวดหลายงาน สูญเงินนับล้าน

ทาทา เปิดใจ โรครุมเร้า นอนรพ.เป็นเดือน ท้อแต่สู้เพื่อลูก ลั่นตายไม่ได้ มูเบอร์ใหญ่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โอดชวดหลายงาน สูญเงินนับล้าน

วันที่ 14 ธ.ค. 65 นักร้องสาว ทาทา ยัง ควง น้องเรย์ ลูกชาย ฉลองวันเกิดอายุครบ 42 ปี เต็ม ด้วยการร่วมทำบุญแจกผลิตภัณฑ์ อมิตา ดีเฟนซีฟ เอสเซนส์ ให้กับผู้ที่มาบริจาคเลือด ที่สภากาชาดไทย

จากนั้นเปิดใจถึงอาการป่วยหลายโรครุมเร้า หลังเข้าแอดมิตโรงพยาบาลเดือนกว่า สุดทรมาน ท้อหนักแต่สู้เพื่อลูก กำลังใจสำคัญคือลูกชาย ตายไม่ได้ หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เดินสายมูเต็มที่

ตัวทาเองมีปัญหาหลักคือโรคกระเพาะที่เป็นปัญหาใหญ่ อาจจะเพราะเราทำงานดึก ร้องเพลงกลับถึงบ้านเราก็หิว ก็กิน ยิ่งอายุมากทำแบบนั้นมันไม่เวิร์ก กรดไหลย้อนเอยอะไรเอยมันก็มาทำร้ายเส้นเสียงด้วย

แต่ล่าสุดคือทาเป็นไซนัสอักเสบรุนแรงจนทำให้ปวดหูมาก เพราะมันคลั่ง โชคดีมากที่มันไม่ถึงขนาดเป็นหนอง แต่ติดเชื้อแบคทีเรียแบบรุนแรง ให้ยาฆ่าเชื้อไปทั้งหมด 9 ตัว แต่ไม่ได้ผล 3 ตัวแรกคือไม่ได้ผลเลย ยาฆ่าเชื้อบางตัวจะต้องลองให้ดูก่อน 2-3 วันถึงจะรู้ว่าได้ผลไหม ยาบางตัวเรากินแล้วไม่ได้ผลทันที เหมือนยาคลายกล้ามเนื้อ มันแล้วแต่คนจริงๆ”

“สำหรับทาให้ไปแล้ว 3 ตัวแรก ไม่ได้ผล มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนหนักมาก ยิ่งทำให้เส้นเสียงพังไปอีก เครียดเลย ตอนแรกหมอบอกเส้นเสียงสวยกว่านักร้องหลายคนเรานี่ภูมิใจมาก แต่วันที่แย่ ทาร้องไห้หนักมาก ทาไม่เคยเห็นเส้นเสียงตัวเองเลือดออก แล้วมันไม่ใช่แค่เรื่องกรดไหลย้อนที่มันส่งผลขึ้นมา มันเครียดด้วย ทาทานอะไรไม่ได้อาเจียนออกหมด”

“มาต่อเรื่องยาฆ่าเชื้อ 9 ตัวก็แล้ว ก็ต้องทานต่ออีก อาการนี้หาย อาการอื่นมา มันไม่จบไม่สิ้น เพลียมาก ทานอะไรไม่ได้เลย คุณหมอก็บอกไม่อยากให้น้ำหนักลด ตอนแรกเราคิดในใจเราก็ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์สิวะ เราจะได้ผอม หมอบอกเอาตัวเองให้หายก่อนไหม แต่น้ำเกลือเป็นร้อยถุงเลย เพราะเราทานได้แค่ผลไม้”

“ก็อยู่โรงพยาบาลรวมแล้ว 40 วันค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้แต่ด้วยอาการไซนัสของเรารุนแรงจริงๆ แบคทีเรียเชื้อที่เราไปติดมา เราหายาที่มันเข้ากับเราไม่ได้ แล้วตัวทาเองร่างกายก็เซ้นซิทีฟ แพ้บ้าง อาเจียนบ้าง ท้องเสียก็มี แล้วมันต้องให้ครบโดส 3-7-10 วัน เรารู้สึกแย่มากๆ ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย”

“พอมีอาการปวดไซนัสมันจะมีอาการปวดหน้า กระบอกตา ทั้งหัวเลยก็มี ฟีลเหมือนขึ้นเครื่องบินตลอดเวลา มันคลั่ง ก็แย่ บ้านหมุนด้วยอีก หลับตาก็ไม่ได้ อาการคือโคลงเคลงเหมือนคนเมาบก เดินขาขวาก็ไม่มีแรง ต้องมีคนคอยพยุงตลอด แล้วบ้านเรา 4 ชั้น คุณหมอเลยไม่แนะนำให้กลับบ้านจนกว่าอาการบ้านหมุนจะหาย แล้วไข้ไม่ลดเลย มีไข้ต่ำๆตลอด”

กี่โรครุมเร้า?ติดเชื้อแบคทีเรีย บ้านหมุน ไซนัส ไม่ดีเลย ค่าเลือด สมมติค่าอักเสบในร่างกาย ทาไม่ทราบเลขที่แน่นอน ทาอยู่โรงพยาบาลไปแล้ว 10 วันลดมาเหลือแค่ 9 ซึ่งมันควรจะต้องเหลือ 2 หรือ 3 คือมันไม่ลด ค่าเลือดไม่ดี คุณหมอไม่อยากให้ออก ถ้าออกไปก็จะไม่หายเลย

ช่วงเวลาที่อยู่โรงพยาบาลเดือนกว่า เหมือนตกนรก รู้สึกท้อทรมาน? “ต้องบอกก่อนว่ากำลังใจหนึ่งที่เป็นกำลังใจใหญ่คือลูก ตายไม่ได้ ก็เลยไม่ค่อยคิด แต่ถามว่าท้อมั้ย ท้อ เพราะว่าเราก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้ แต่บอกตรงๆ ว่าตัวทาเองก็ออกไปจากห้องไม่ได้เลยเหมือนกัน แค่อาบน้ำ เดินไปเข้าห้องน้ำยังเหนื่อยเลย

แต่ก็ต้องพยายามเดิน เพราะไม่งั้นอาการมันก็จะไปเรื่อยๆ แล้วพอกลับมาบ้าน ทานอนเยอะมาก เดี๋ยวต้องไปฟอลโลว์อัพอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ก็พยายามทำให้ชีวิตตัวเองปกติที่สุด แล้วตอนนี้โควิดก็มีรุ่นใหม่ตรวจแล้วขึ้นเส้นเดียว

เราก็กังวลว่าจะเป็นหรือเปล่า กลัวเป็นอีก เพราะครั้งที่แล้วที่เป็นเข้าเป็นเดือนเลย เป็นหนักมาก เพราะเวลาทาเป็นที่ทาจะแย่โดยมากเป็นเรื่องของอาเจียน แล้วเวลาอาเจียนเส้นเสียงพัง ซึ่งเป็นอาชีพเราทำอะไรไม่ได้ ก็ไปกันใหญ่”

ห่วงลูกที่สุด?ห่วงเขาที่สุด และไม่อยากให้เขามาเยี่ยมเราที่โรงพยาบาล เพราะว่ามันก็ไม่ได้เป็นที่ที่จะให้ลูกมา ทุกครั้งที่เห็นเขามันเหมือนเราต้องสู้ ฉันต้องสู้เพื่อเด็กคนนี้ ฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อเขา แล้วมีวันที่เขามานอนกับทา เขาไม่ยอมกลับ เขานอนกับทาอยู่ 2-3 วัน เป็นวันที่อาการเราดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าเราคงมีกำลังใจด้วยได้กอดเขา ได้อยู่กับเขา แล้วเขาก็เห็น

ด้วยความที่ทาไม่มีเส้นเลือดที่เป็นเส้นตื้นที่สามารถให้ยาได้ ถ้ามองดีๆ ทาจะมีแผลที่หลังมือ ยังช้ำอยู่เลย อันนี้คือเปิด PICC line (เปิดที่ต้นแขนซ้าย) อันนี้คือรอบล่าสุด ส่วนข้างขวาคือรอบโควิด ไม่มีเส้นก็ต้องเปิดเข้าหลอดเลือดโดยตรง มันเป็นอะไรที่ทำงาน แต่ว่าไม่มีใครอยากทำหรอก แต่ด้วยยาที่เราให้พอสักพักนึงอ่ะ มันระคายเส้นเลือดมากเพราะมันแรง คุณหมอเลยแนะนำว่าให้เปิดแบบนี้เลยดีกว่า”

หลังจากนี้มีอะไรที่ต้องฟอลโลว์อัพเป็นพิเศษไหม? “ทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องกระเพาะ ไม่ว่าจะเรื่องหูคอจมูก ที่จำเป็นมากๆ ในตอนนี้ มันเป็นเหมือนวงจรชีวิตคนพออันนี้มา อันนั้นมา มันก็กระทบกันและกัน แล้วก็เป็นเรื่องเครียด ปกติอยู่แล้วตอนนี้ใครก็เครียด”

เรื่องไซนัสกังวลเรื่องกระทบการร้องเพลงขนาดไหน? “อันนี้เรื่องใหญ่ค่ะ เพราะเวลาเราร้องเพลงเราต้องใช้ทั้งหมด หู คอ จมูก เพราะฉะนั้นหมอที่เข้ามาดูไม่ใช่แค่หมอหูคอจมูกธรรมดา แต่เป็นอาจารย์ที่เกี่ยวกับเส้นเสียงโดยตรงที่เข้ามารักษาด้วย ไม่น่าเชื่ออ่ะ วันที่บอกเราว่าเส้นเสียงสวยที่สุดที่เคยเห็นมา จน 3 วัน ต่อมามาเห็นว่าเลือดออกอ่ะ อาจารย์ก็ช็อคเหมือนกัน”

กระทบการร้องเพลงกลัวว่าจะร้องไม่ได้ไหม?ตอนที่เข้าโรงพยาบาล 40 วัน ต้องยกเลิกงานอีก 10 งาน แล้วรอคอยตอนโควิดมาไม่รู้เท่าไหร่ แล้ว 10 กว่างาน เสียหายหลายล้าน เป็นล้านกล้าบอกเลย หลังจากนี้ก็ขอให้คนดูและพี่ๆ สื่อช่วยอวยพรกันใหญ่เยอะๆ นะคะ (พนมมือ) ขออวยพรปีใหม่ให้เลย อยากให้ผู้ชม 3 ปีที่ผ่านมาทุกคนเจอโรครุมเร้าเยอะ ทาก็อยากจะอวยพร (ชวนลูกอวยพรทุกคน)

เรา 2 คนแม่ลูก ขออวยพรให้ท่านผู้ชมสุขภาพร่างกายแข็งแรงเป็นอย่างแรกเลย เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เราก็ยังไม่ทำมาหากินได้ จนก็รวยได้ แต่ป่วยทำอะไรไม่ได้เลย ไม่อยู่บ้าน ก็อยู่โรงพยาบาล แต่ถ้าเรามีร่างกายที่สุขภาพแข็งแรง เราก็พร้อมที่จะไปสู้ต่อกับอะไรก็ได้ ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จะได้มีเงินมีทองไหลมาเทมา ขอให้มีความสุขในชีวิตสุขกายสบายใจในปี 2023 นะคะ”

ได้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์มั้ย? “โอ้โห มูมาก ตอนนี้มูเบอร์ใหญ่มาก พระอาจารย์ใหญ่ๆ บอกให้ลูกศิษย์มาบอก บอกไม่ถึง 2 วันเข้าโรงพยาบาล บอกว่าอย่าอย่างนู้น อย่าอย่างนี้ แล้วก็มีพวกรุ่นพี่ที่เป็นพวกแนวนั่งสมาธิ ไม่ได้เป็นหมอดูอะไรนะ เขาบอกว่าทาเข้ามาในจิตเขาเยอะ หลายคน ทาก็แรงจริง ตอนป่วยก็นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้มาก มีทั้งพูด มีทั้งบน เรื่องมูคือหมดเลย

เพราะมันอ่อนล้าและอ่อนแรงจริงๆ ฟังดูอาจจะไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ได้เป็นมะเร็ง หรือเป็นโรคที่มันหนักๆ ขอให้อย่าเป็นอย่างนั้นเลย และคนที่เราคิดถึงมากๆ คือเพื่อนรัก คุณหญิงแมงมุม เพราะเราอยู่กับเพื่อน เราไปหาเพื่อนอยู่บ่อยๆ เราเห็นเขา เขาสู้มาก เราอยู่แค่ 40 วัน แต่เขาอยู่มาเกือบจะ 4 ปี ทาร้องไห้หนักมาก ทาโทรหาพี่ดอลลาร์ บอกเขาว่าเจอแค่นี้ทายังจะทนไม่ได้เลย ทาร้องไห้ สงสารทั้งเพื่อน สงสารทั้งตัวเอง แต่เราผ่านมาแล้ว และเราจะต้องไปต่อ”

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ