เพื่อไทย โต้ ‘รมต.เฮ้ง’ ดิ้นขึ้นค่าแรง 600 เงินเดือน ป.ตรี 25,000 บ. ยันทำจริงและทำได้ ไม่เหมือนบางพรรคหาเสียงไว้ปี 62 ทำไม่ได้ น่าอับอายที่สุด
วันที่ 8 ธ.ค.2565 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน โพสต์เฟซบุ๊ฏพาดพิงการแสดงวิสัยทัศน์ประเทศไทยในปี 2570 ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทยว่าหากจะหาเสียงควรคำนึงถึงหายนะทางเศรษฐกิจ เป็นการโยนระเบิดให้เจ้าของกิจการ โยนภาระให้กับภาคเอกชน แต่พรรคได้คะแนน และยังกระทบต่อนักลงทุนต่างประเทศ เพราะจะไม่กล้าเข้ามาลงทุนว่า รู้สึกแปลกใจที่รัฐมนตรีที่ดูแลผู้ใช้แรงงาน กลับมองไม่เห็นความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงาน ปัจจุบันได้ค่าแรงต่ำสวนทางกับค่าครองชีพสูง เงินไม่พอใช้
การที่นายสุชาติ ชี้แจงในรายการเจาะลึกทั่วไทย ในวันนี้ (8 ธ.ค. ว่าตนเข้ามาหลังจากนโยบายค่าแรงของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดำเนินการไปก่อนแล้วนั้น ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบ เพราะนายสุชาติ เป็นรมว.แรงงาน มากว่า 2 ปี แต่ชีวิตผู้ใช้แรงงานยากลำบาก ปี 2565 คนตกงาน 1.93 % อยู่ที่ 700,000 คน และยังบอกว่า เงินเดือนเด็กจบปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน เป็นเรื่องน่ากลัวนั้น หากคนเป็นรมว.แรงงาน ยังมีแนวคิดเช่นนี้ เมื่อไหร่พี่น้องแรงงานจะหลุดออกจากความยากจนอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ ทั้งที่การเพิ่มรายได้ไปพร้อมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเรื่องน่าทำมากกว่า
ทั้งนี้ ในการแสดงวิสัยทัศน์ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 600 บาท และเงินเดือนผู้จบการปริญญาตรีจบใหม่ที่ 25,000 บาท ภายในปี 2570 เป็นการทยอยปรับขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยจะกระตุ้นและสร้างความเติบโตเศรษฐกิจทั้งระบบเฉลี่ย 5% ต่อปี เมื่อเศรษฐกิจเติบโต ทักษะฝีมือแรงงานปรับตัวดีขึ้น จะทำให้ค่าแรงขยับขึ้นตามไม่ใช่มองแบบแยกส่วนว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียว
วิสัยทัศน์นี้นอกจากจะไม่นำพาความหายนะทางเศรษฐกิจและไม่ใช่ระเบิดเวลาตามที่นายสุชาติ พยายามพูดให้คนเข้าใจผิดแล้ว สิ่งที่เพื่อไทยมำยังนำพาความสุข ลดความเหลื่อมล้ำ คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับแรงงานไทยได้อีกด้วย
น.ส.ตรีชฎา กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่พูดแล้วรับผิดชอบในคำพูดและทำได้ พิสูจน์แล้วจากรัฐบาลพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ซึ่งตรงกันข้ามกับพรรคที่นายสุชาติสังกัด ที่หาเสียงในการเลือกตั้งปี 2562 ไว้ว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 400-425 บาท เงินเดือนผู้จบการศึกษาปริญญาตรีจะอยู่ที่ 20,000 บาท มีหลักฐานของการหาเสียงไว้ชัดเจน ยังไม่สามารถทำได้ตามที่หาเสียงไว้
“เปรียบเสมือนการตระบัดสัตย์ต่อประชาชน นายสุชาติอย่าคิดว่าพรรคอื่น จะไม่รักษาคำพูดเหมือนพรรคที่นายสุชาติ สังกัดอยู่ เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้ทั้งหมด และหากพรรคจะหาเสียงในตอนนี้ว่าค่าแรงขั้นต่ำจะปรับขึ้น 600 บาท ในอีก 3 ปี เท่าๆกับระยะเวลาที่พรรคนายสุชาติ สังกัดเคยหาเสียงไว้ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ และสมเหตุสมผลในเชิงตัวเลขแล้ว”
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หายนะทางเศรษฐกิจที่แท้จริงตอนนี้ เป็นที่ประจักษ์ว่า หนี้ครัวเรือนพุ่งขึ้นสูงสุด หนี้สาธารณะทะลุเกินเพดาน การเติบโตทางเศรษฐกิจตกต่ำดำดิ่ง ดัชนีชี้วัดการทุจริตที่องค์กรนานาชาติเก็บข้อมูลพุ่งสูงสุดน่าอับอาย และคำสัญญาหาเสียงนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐเคยพูดไว้ ทั้งมารดาประชารัฐ ค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท เงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 20,000 บาท ไม่สามารถทำได้สักอย่าง นี่คือหายนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้
ซึ่งรัฐบาลหน้า รัฐบาลเพื่อไทย จะต้องมากอบกู้ซากปรักหักพังนี้ให้ได้ นายสุชาติต้องศึกษาหาข้อมูลเพิ่มขึ้นให้เป็น เป็นถึงรมว.แรงงาน กลับมีปัญหาเรื่องการปรับค่าจ้างให้พี่น้องแรงงานไทย นับว่าแปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา