คาดมือยิงโรงไฟฟ้าสหรัฐ “รู้ระบบ” ทางการเร่งซ่อม-บ้าน 3.5 หมื่นหลังไร้ไฟ 4 วัน
เอพี รายงานความคืบหน้าเหตุกราดยิงโรงไฟฟ้าขนาดย่อย 2 แห่งในเมืองเซาท์เทิร์นพาย เขตมัวร์เคาน์ตี รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้อาคารบ้านเรือนกว่า 35,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นเวลาหลายวัน ขณะเดียวกันยังไม่มีรายงานการจับกุมผู้อยู่เบื้องหลัง รวมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ
นายเจฟ บรูคส์ โฆษกบริษัท ดุ๊ก เอเนอร์จี ระบุคาดว่าไฟฟ้าจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติทั้งหมดภายในเวลาเที่ยงคืนของวันพุธที่ 7 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น นายรอย คูเปอร์ ผู้ว่าการรัฐนอร์ทแคโรไลนา มีคำสั่งให้ประเมินโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัฐอย่างละเอียด รวมถึงหารือกับหน่วยงานที่กำกับดูแลของรัฐบาลกลาง ฝ่ายนิติบัญญัติ และบริษัทสาธารณูปโภคเกี่ยวกับการยกระดับมาตรการความปลอดภัยและป้องกันการถูกโจมตีในอนาคต นอกจากนี้ยังส่งเครื่องปั่นไฟไปยังพื้นที่ประสบปัญหาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
“การโจมตีที่เกิดขึ้นดูเป็นเรื่องง่ายเกินไป นำมาซึ่งเกิดความเสียหายอย่างมาก ทั้งการสูญเสียรายได้ ความท้าทายด้านความปลอดภัยต่อประชาชนในระยะยาวด้วย” นายคูเปอร์กล่าวเสริม
เหตุโจมตีครั้งนี้ทำให้ธุรกิจและโรงเรียนทั้งหมดในพื้นที่ห่างจากเมืองราลี ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 90 กิโลเมตร ต้องปิดทำการจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 8 ธ.ค. อีกทั้งไฟจราจรก็ไม่สามารถใช้งานได้ และทางการประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00-05.00 น. ในช่วงซ่อมแซมระบบจนกว่าไฟฟ้าจะกลับมาใช้งานได้ปกติ
นายทอม แมคอินนิส สมาชิกวุฒิสภารัฐนอร์ทแคโรไลนา แถลงว่า “สภานิติบัญญัติจะนำเสนอกฎหมายใหม่ว่าด้วยการลงโทษผู้กระทำความผิด เพื่อให้การจัดการอาชญากรรมและการกำหนดบทลงโทษมีศักยภาพ”
ส่วนนายไบรอัน แฮร์เรล ผู้บริหารการรักษาความปลอดภัยของโรงงานพลังงานสหรัฐ กล่าวว่าผู้โจมตีมีความรู้เกี่ยวกับวิธีทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในโรงไฟฟ้าอย่างแน่นอน การโจมตีดังกล่าวถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งกว่าร้อยละ 85 ของโรงไฟฟ้าสำคัญในประเทศเป็นของภาคเอกชน จึงจำเป็นต้องพูดคุยเพื่อหาสาเหตุและบรรเทาความเสียหาย