ผู้ช่วยผญบ. โต้อีกมุม หลังชายร้อง “สายไหมต้องรอด” ถูกรุมตีตาบอด แขนหัก คดีไม่คืบ ญาติเผยคนเจ็บมีนิสัยชอบด่าคนไปทั่ว ตอนเมายิ่งอาการหนัก
จากกรณี นายประเจิด สมสายหน่อย อายุ 57 ปี ตำบลสิงห์ อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด” กรณีถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกับพวกรุมทำร้ายร่างกายทุบตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตาขวาบอด แขนซ้ายหัก 2 ท่อน ฐานกะโหลกแตก ผ่านมาเกือบ 6 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า
วันที่ 22 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง หมู่บ้านบางคณฑี ตำบลสิงห์ เพื่อตรวจสอบความคืบหน้า แต่ไม่พบ นายประเจิด บ้านถูกปิดเงียบ จากการสอบถามพี่ภรรยาของผู้เสียหาย ทราบว่า โดนทำร้ายร่างกาย เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ผ่านมาเกือบ 6 เดือนแล้ว แต่คดีเงียบ ผู้ทำร้ายคือ นายสมชาย และ นายพรชัย 2 พ่อลูก โดย นายพรชัย มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
นางชฎาพร อายุ 51 ปี ญาติผู้เสียหาย กล่าวว่า พี่สาวของตนเป็นภรรยาของ นายประเจิด ระยะหลังชอบต่อว่า ดุด่าพี่สาวตน และชอบมีปากเสียงอยู่บ่อยครั้ง เวลาเมาก็ชอบด่าไปทั่ว จนต่อมาถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อสอบถามความคืบหน้ากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางระจัน พนักงานสอบสวนชื่อ ร.ต.อ.ภูริวัช พิลึก ได้แจ้งว่าให้รอก่อน ตนและครอบครัวก็ร้อนใจว่าคดีไปถึงไหนแล้ว ทำไมมันเงียบไป ส่วนคู่กรณีก็เป็นญาติ ๆ กัน อยู่หมู่บ้านเดียวกันสำหรับสาเหตุที่ทำให้ถูกทำร้าย ไม่มีใครทราบว่าเพราะอะไร
ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า นายประเจิด มาหาเรื่องพวกตนโดยการด่าท้าทายตรงบริเวณปากทางเข้าบ้าน และมีอาการเมาสุรา มาด่าหาเรื่อง 3 ครั้งแล้ว มีคืนวันที่ 5 มิ.ย. 65 วันที่ 10 มิ.ย.65 และวันที่ 13 มิ.ย.65 ซึ่งเป็นวันเกิดเรื่อง ตนทนไม่ไหวแล้วมาด่าถึงบรรพบุรุษของตน จึงเดินไปหน้าบ้านถามว่ามาด่าตนด้วยเหตุผลอะไร ก็ถกเถียงกันชุลมุน นายประเจิด ได้หยิบอาวุธมีดที่อยู่หน้ารถออกมา และใช้ปลอกมีดขว้างมา
จากนั้นก็วิ่งมาไล่ฟัน ตนจึงหยิบไม้ข้างทางฟาด นายประเจิด ไป 3 ครั้ง จน นายพรชัย ลูกชายเข้ามาห้าม ส่วนสาเหตุที่เกิดเรื่องคิดว่าน่าจะมีอาการหลอน เพราะกล่าวหาว่าตนไปว่าเสพยา ทั้งที่ตนไม่เคยคุยกับ นายประเจิด เลย
ส่วน นายพรชัย กล่าวว่า วันเกิดเหตุนั้น นายประเจิด มาด่ากราดคนในบ้าน ตะโกนท้าพ่อ ด่าพ่อ บอกว่า มึงแน่จริง มึงออกมาเลย พ่อเลยออกไปเพื่อไปถามว่าที่มันมาด่าเนี่ยเราไปทำอะไรให้ จากนั้นตนก็เดินเข้าไปในบ้าน สักพักได้ยินเสียงคนตีกันตรงถนนหน้าบ้าน จึงจะเข้าไปห้าม แต่ นายประเจิด ใช้มีดแทงมาที่ท้องแต่ตนหลบทัน และใช้มีดฟันตรงต้นขา ตนจึงใช้เท้าถีบจนล้ม แล้ว นายประเจิด ก็หนีไป โดยทิ้งรถ จยย.ไว้ และตนจึงโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ ร.ต.อ.ภูริวัช พิลึก พนักงานสอบสวน สภ.บางระจัน กล่าวว่า นายประเจิด มาแจ้งความว่า ขณะขี่รถจยย. มาตามถนนจนผ่านหน้าบ้าน นายสมชาย กับ นายพรชัย แล้วถูกดักเอาไม้ตีหัว พอเขาจอดรถก็เอาไม้ตีซ้ำเขาอีกจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนสาเหตุสอบถามพยานทราบว่า ทั้งสองฝ่ายเคยมีเรื่องกันมาก่อน ในส่วนของความล่าช้านั้นเป็นเพราะห้วงเวลาเรื่องของการรักษา และดูว่าอาการสาหัสขนาดไหน และต้องรอใบรับรองแพทย์ ตอนเกิดเรื่องฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสอบสวนทำงานหาข่าวและพยานกันตลอด
ยังมีการประชุมกันคุยกันเรื่องฐานความผิดในข้อหาพยายามฆ่าหรือการทำร้ายสาหัส ถ้าเป็นการทำร้ายสาหัสก็ต้องรอใบรับรองแพทย์ และต้องรอดูอาการว่าเขาให้พักกี่วัน ตาที่บาดเจ็บในตอนแรกของ นายประเจิด จะบอดไหม ที่ช้าก็เพราะเรื่องของทุพลภาพในส่วนของสำนวนทำตั้งแต่ต้น และสอบปากคำผู้กล่าวหา พยาน ไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้แจ้งข้อหาผู้กระทำผิดในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเพราะพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่ทำนั้นสามารถเล็งเห็นผลได้ เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ก็ต้องรวบรวมสำนวนส่งอัยการเพื่อดำเนินคดีต่อไป