สองล้อ ไม่รอช้า เดินหน้าเตรียมจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” วันที่ 1-10 เม.ย.66 เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 68 พรรษา ในวันที่ 2 เม.ย.66 กำหนดเส้นทางจากภาคตะวันตกสู่ภาคตะวันออก เริ่มจาก จ.กาญจนบุรี ไปสิ้นสุดที่ จ.ระยอง ด้าน “เสธ.หมึก” เผยนับเป็นโอกาสอันดีที่นักปั่นไทยจะได้เก็บคะแนนสะสมอย่างเป็นกอบเป็นกำ เพื่อคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส โดยมีการลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนาชาติ (ยูซีไอ) ในระดับ 2.1
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2565 เส้นทางจากภาคตะวันตกสู่ภาคตะวันออก ซึ่งได้ลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนาชาติ หรือ ยูซีไอ ในระดับ 2.1 มีคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยประเภททีมชายแข่งขันระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน 2566 เริ่มจากจังหวัดกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี-อ่างทอง-พระนครศรีอยุธยา-ลพบุรี-สระบุรี-นครราชสีมา-ปราจีนบุรี-สระแก้ว-จันทบุรี และสิ้นสุดที่จังหวัดระยอง ระยะทางรวม 1,035.50 กม. ส่วนประเภททีมหญิงแข่งขันระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2566 เส้นทางภายในจังหวัดระยอง ระยะทางรวม 213.20 กม. รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,248.70 กม.
พลเอกเดชา กล่าวว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี โดยในปี 2566 นับเป็นปีที่ 25 ซึ่งพสกนิกรชาวไทยในจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นเส้นทางผ่าน และจังหวัดที่เป็นจุดปล่อยตัวแต่ละสเตจ จะได้ร่วมลงนามถวายพระพรเนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 68 พรรษา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้นำในการลงนามถวายพระพร และเป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคลในแต่ละวันตลอดการแข่งขันนับตั้งแต่วันที่ 1-10 เมษายน 2566
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า สำหรับทีมที่จะมาร่วมการแข่งขันนั้น ล่าสุดมีทีมระดับอาชีพ และทีมชาติต่าง ๆ แสดงความจำนงค์ขอมาร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเทศไทยมีมาตรฐานการจัดการแข่งขันดีเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางเส้นทาง การจัดโรงแรมที่พักและอาหาร การรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวก ผู้คนมีความเป็นมิตร และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อีกทั้งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานต่าง ๆ ในทุกจังหวัด ทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ อปพร. ทำให้การจัดการแข่งขันมีความปลอดภัยสูง สร้างความประทับใจแก่นักกีฬาต่างชาติทุกคนที่ได้มาเยือน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทีมชายเราสามารถรับได้ไม่เกิน 15 ทีม ส่วนทีมหญิงไม่เกิน 12 ทีม เพราะถ้าหากจำนวนทีมมีมากกว่านั้น การดูแลต้อนรับอาจจะไม่ทั่วถึง
พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ในปีหน้า สมาคมฯ จะเน้นเชิญทีมจากทวีปเอเชียเป็นหลัก เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้นหลังวิกฤติการณ์โรคไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงไป อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน, มาเลเซีย, ไต้หวัน เป็นต้น โดยประเภทชายมีทีมจากประเทศไทยเป็นทีมยืนอยู่แล้ว 4 ทีม ประกอบด้วย ทีมอาชีพ 3 ทีม คือ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม, ทีมรู้ใจดอทคอม, ทีมแกรนท์ ธอร์นตัน และทีมชาติไทยอีก 1 ทีม ส่วนประเภทหญิงมีทีมอาชีพ 1 ทีม คือ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม และทีมชาติไทยอีก 1 ทีม ขณะเดียวกันก็อาจจะมีทีมจากทวีปยุโรป หรืออเมริกา มาร่วมแข่งขันบ้างบางส่วน
“สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้กำหนดเส้นทางแข่งขันจากภาคตะวันตกสู่ภาคตะวันออก โดยผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ มากมาย อาทิ สะพานข้ามแม่น้ำแคว, สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ในจังหวัดกาญจนบุรี, วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี, วัดสระแก้ว จังหวัดอ่างทอง, อุทยานประวัติศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, อุโมงค์ต้นไม้แสลงพัน จังหวัดสระบุรี, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา, อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดปราจีนบุรี, เขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี, หาดแม่รำพึง, หาดบ้านเพ และวัดระหารไร่ จังหวัดระยอง เป็นต้น เป็นการเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวและทัศนียภาพที่สวยงามของจังหวัดต่าง ๆ ออกไปสู่สายตาชาวโลก จากการถ่ายทอดสด ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูบ ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามียอดผู้ชมรวมกันมากกว่า 1 ล้านวิว” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” กล่าวอีกว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดการแข่งขันจักรยานนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” นอกจากเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายการได้หลักอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกระดับ ตั้งแต่ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก สินค้า OTOP รวมไปถึงพ่อค้าแม้ค้าระดับรากหญ้าก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และสิ่งสำคัญที่สุดนับเป็นโอกาสอันดีที่นักปั่นไทยจะได้เก็บคะแนนสะสมเพื่อคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส อย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยในประเภทชายจะมีคะแนนสะสมให้นักปั่นถึง 24 อันดับ ส่วนประเภทหญิง มีคะแนนสะสมให้ถึง 17 อันดับ โดยผู้ที่ได้แชมป์จะได้คะแนนสะสม 125 คะแนน ลดหลั่นลงไปจนถึงคนสุดท้ายจะได้ 3 คะแนน รวมทั้งคะแนนประเทศของนักปั่นแต่ละคนด้วย
พลเอกเดชา กล่าวเสริมอีกว่า ส่วนการเตรียมทีมนักปั่นไทยทั้งทีมระดับอาชีพ และทีมชาติไทย ชาย-หญิง สมาคมฯ ได้มอบให้ “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวไทย ร่วมกับ มร.หลี่ เสี่ยว เล่อ ผู้ฝึกสอนชาวจีน พร้อมสตาฟฟ์โค้ชร่วมกันจัดเตรียมนักกีฬาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นการเตรียมทีมต่อเนื่องระยะยาวไปจนถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน ถึงแม้จะมีปัญหาติดขัดบ้างในด้านการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ แต่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ไม่เคยหยุดนิ่ง ยังคงเดินหน้าทำงานกันอย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดยั้ง ดังเจตนารมณ์ในการบริหารงานที่ว่า “มุ่งมั่นพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ และต่อยอดไปสู่กีฬาอาชีพ” เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย