“บิ๊กเฒ่า” เยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือ พื้นที่สัตหีบ ในโอกาสเกษียณอายุราชการ
เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 1 ก.ย.65 พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือ ในพื้นที่สัตหีบ จ.ชลบุรี เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ บนเรือหลวงนเรศวร ซึ่งจอดเทียบภายในท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ จากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งจัดให้มีพิธีเพื่อเป็นเกียรติ แก่ผู้บัญชาการทหารเรือ รวมถึง รองปลัดกระทรวงกลาโหม รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายทหารชั้นนายพลเรือ จากกองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกองทัพเรือ ที่เกษียณอายุราชการ
เมื่อผู้บัญชาการทหารเรือเดินทางขึ้นเรือหลวงนเรศวร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้เรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือขึ้นแท่นรับความเคารพ โดยมี เรือหลวงปิ่นเกล้ายิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติ จำนวน 19 นัด จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ลงจากเรือหลวงนเรศวร ไปยังเรือ ต.112 เพื่อตรวจพลสวนสนามทางเรือ ในขณะที่นายทหารระดับสูงของกองทัพเรือครบเกษียณอายุราชการในปีนี้ ลงเรือหลวงตากใบ เพื่อร่วมขบวนตรวจพลสวนสนามทางเรือในโอกาสเดียวกันนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจพลสวนสนามทางเรือแล้ว ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้เรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือ กลับขึ้นยังเรือหลวงนเรศวร ในการนี้ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวสดุดีและมอบของที่ระลึกแด่ผู้บัญชาการทหารเรือ จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวอำลาชีวิตราชการ พร้อมทั้งฝากไปยังกำลังพลทุกนายให้ร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรักสามัคคี ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง และที่สำคัญอย่างยิ่งคือมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
“นับตั้งแต่ผม เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ผมได้ประกาศเจตนารมณ์10 ข้อ และได้ให้นโยบายในด้านต่างๆในระหว่างบริหารงานอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะนำพากองทัพเรือก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและมั่นคงสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมสถานการณ์ทางการเมืองเศรษฐกิจและสังคม จนถึงบัดนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งปี ผมได้ประจักษ์ว่า กองเรือยุทธการ ทัพเรือภาค 1 และหน่วยในพื้นที่สัตหีบ ได้ดำเนินการตามเจตนารมณ์นโยบายเป็นอย่างดี กำลังทางเรือของกองเรือยุทธการ ทั้งหน่วยเรือ หน่วยบิน หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ได้มีการเตรียมกำลังให้มีความพร้อมมีการฝึกอย่างเข้มข้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มีเทคนิควิธีการพัฒนาองค์กรใหม่ๆ เช่นใช้การแข่งขันระหว่างหน่วยเข้ามากระตุ้นการพัฒนากำลังรบในทุกๆด้านให้มีความพร้อมรบ รวมถึงมีการดูแลสวัสดิการของหน่วย โดยเฉพาะการดูแลครอบครัวของกำลังพลของคนที่ออกไปปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกลเป็นอย่างดี ผมดีใจ และภาคภูมิใจ ที่ได้เห็นกำลังพล ที่เป็นนักรบทางเรือ มีความมุ่งมั่นและทักษะ ที่พร้อมในการปฏิบัติงาน รวมถึงมีความภูมิใจและรักในความเป็นชาวเรือ” พล.ร.อ.สมประสงค์ กล่าว
สำหรับกำลังรบทางเรือในพื้นที่สัตหีบ เป็นหน่วยกำลังที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการเตรียมความพร้อมของกำลังทางเรือเพื่อภารกิจปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตลอดจนการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ประชาชนอาทิการปกป้องคุ้มครองอาณาเขต ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายในทะเล แก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม การปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ โดยได้มีการส่งเรือหลวงนำน้ำจืดไปช่วยเหลือประชาชนประสบภัยแล้งที่เกาะสีชัง การขจัดมลพิษทางน้ำกรณีน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง และเรือบรรทุกน้ำมันอับปาง จังหวัดชุมพร ตลอดจนการดำเนินการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยตามพระดำริฯ
ในส่วนของการจัดพิธีตรวจพลสวนสนามทางเรือในวันนี้ มีการจัดกำลังพลจากกองเรือยุทธการ ร่วมกับ กำลังทางเรือและอากาศยานเข้าร่วมในพิธี โดยหมู่เรือรับรอง ประกอบด้วย เรือหลวงนเรศวร เป็นเรือรับรอง เรือ ต.112 และ เรือหลวงตากใบ เป็นเรือตรวจพลหมู่เรือสวนสนาม (เรือจอด) โดยมี เรือหลวงปิ่นเกล้า เป็นเรือยิงสลุต นอกจากนั้นยังมีการจัดกำลังอากาศนาวี จากกองการบิน กองเรือยุทธการ ร่วมในพิธี
โดยตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 55 พล.ร.อ.สมประสงค์ ได้มุ่งเน้นการพัฒนากองทัพเรือ ให้ขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ด้วยนโยบายที่มุ่งเน้นให้กองทัพเรือ เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น นำพากองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้า โดยเน้นความสามัคคีปรองดอง เป็นพี่เป็นน้อง ร่วมมือร่วมใจปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วย ต้องดูแลหน่วยและสวัสดิการ กำลังพลชั้นผู้น้อย ซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กองทัพเรือไปถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของ พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ที่ว่า “รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติราษฎร์ศรัทธา”