สภาล่ม อีก หลัง “ฝ่ายค้าน” เสนอญัตติด่วนฯ ถกปมนายกฯ 8 ปี โต้เดือด “ฝ่ายรัฐบาล” “โรม” หวั่น พ้น 24 ส.ค.นี้ “ประยุทธ์” จะกลายเป็น “นายกฯ” เถื่อน

เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 11 ส.ค.65 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2.3 เรื่องรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นหารือเพื่อขอเปลี่ยนวาระการประชุม โดยจะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาของ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรื่อง ความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี

โดย นายสุทิน กล่าวว่า ประเด็นที่ตนจะเสนอวันนี้ คือให้สภาฯ ระดมความเห็นเพื่อเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในแนวทางที่ถูกต้อง และเหมาะสมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ที่ระบุไว้ว่า การดำรงตำแหน่งของนายกฯ ให้ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปี ถือเป็นประเด็นใหญ่ของสังคมที่กำลังจับตาว่าเรื่องนี้จะมีทางออกอย่างไร

เพราะมีความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย และอาจจะเกิดการปะทะทางความคิด ซึ่งสภาฯที่เป็นผู้ตั้งนายกฯ เมื่อถึงคราวว่านายกฯ จะต้องหลุดหรือพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ สภาฯจะนิ่งนอนใจไม่ได้ เราต้องมีความเห็น และระดมความเห็นกันให้ได้ เพื่อแนะนำนายกฯ ให้ทำตามรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะวิปรัฐบาล เสนอความเห็นว่า การที่จะยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาจะต้องหารือกันก่อน ตนคิดว่าท่านพยายามจะใช้สภาฯ เป็นเครื่องมือกดดันผู้มีอำนาจในการตัดสินวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี หรือไม่ ทั้งที่สภาฯไม่ได้มีอำนาจ แต่เป็นศาลที่จะตัดสิน ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล คงไม่เห็นด้วย และให้นำเรื่องที่ตกลงกันไว้มาพิจารณา แต่นายสุทิน ยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าการตีความ มาตรา 158 เป็นเรื่องด่วนที่สภาฯ ต้องรับผิดชอบต่อสังคม หากปล่อยไป สังคมอาจเดินไปสู่ทางตัน

ขณะที่ นายรังสิมันต์ กล่าวเสริมว่า ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับวิกฤตรัฐธรรมนูญ ที่สังคมกำลังตั้งคำถามว่า ผู้บริหารประเทศที่มีอำนาจในการแก้ปัญหาปากท้อง และเศรษฐกิจ ตกลงจะอยู่ได้นานอีกนานแค่ไหน พ้นวันที่ 24 ส.ค.2565 ไปแล้วจะเป็นนายกฯ เถื่อนหรือไม่ สภาฯจึงต้องหาทางออกเพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนจึงขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อแจ้งให้ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ในวันที่ 23 ส.ค.2565

อย่างไรก็ตามส.ส.ฝั่งรัฐบาล โดยเฉพาะ นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ คัดค้านการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา และได้พยายามเสนอให้ที่ประชุมดำเนินการไปตามระเบียบวาระ แต่นายสุทิน และนายรังสิมันต์ ไม่ยอม และยืนยันว่าญัตตินี้จำเป็นต้องรีบนำมาอภิปรายเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ

ท้ายที่สุด นายศุภชัย ขอให้ที่ประชุมลงมติว่าจะให้นำญัตติของพรรคฝ่ายค้านมาพิจารณาเป็นเรื่องด่วนหรือไม่ แต่เมื่อมีการแสดงตนก่อนลงมติ ปรากฏว่า มีผู้แสดงตนเพียงแค่ 124 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 239 คน จากจำนวนส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งหมด 478 คน ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ นายศุภชัย จึงจำเป็นต้องสั่งปิดประชุมในเวลา 15.06 น.