จากกรณีเกิดอุบัติเหตุบนถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ฝั่งขาเข้าพัทยา ช่วง กม.105+700 ชลอ. โดยพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. เวลา 07.45 น. แต่ไม่พบคนขับ
ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายรถมาเก็บบริเวณพื้นที่เก็บรถยนต์ของกลางตำรวจทางหลวง สถานีย่อยเขาเขียว ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และพบผู้เสียชีวิตในรถช่วงค่ำ 19.00 น. วันเดียวกัน ซึ่งหมายถึงศพถูกทิ้งไว้ในรถโดยไม่มีใครทราบ จนมาพบร่างผู้เสียชีวิตจึงแจ้งให้กู้ภัยมาเก็บกู้
โดยพื้นที่เก็บรถยนต์ของกลางตำรวจทางหลวง สถานีย่อยเขาเขียว พบว่าเก๋งยี่ห้อ นิสัน สีขาว กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพหน้ารถและท้ายรถพังเสียหาย ภายในรถด้านหน้าส่วนของคนขับพบร่าง นายภัทรชัย อรรถพร อยู่ในสภาพแขนซ้ายและขวาหัก นอนขดตัวอยู่บริเวณเบาะคนขับ ใต้คอนโซลรถเก๋ง เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างนำส่งที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อรอการต่อของญาติผู้เสียชีวิตต่อไป
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงไม่ตรวจสอบอย่างละเอียด ทำไมจึงไม่เห็นร่างของคนขับ ซึ่งหากพบในทันทีอาจจะสามารถช่วยเหลือชีวิตได้หรือไม่
โดยนายธีระพงษ์ ทรัพยา อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ขึ้นเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. ช่วงเช้าวันนี้ซึ่งพื้นที่จุดเกิดเหตุก็อยู่ในเขตความรับผิดชอบของหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา ซึ่งทางเราได้รับก็ได้รับแจ้งมาเหมือนกัน
แต่เนื่องจากทางหน่วยกู้ภัยทางหลวงมอเตอร์เวย์ มาถึงจุดเกิดเหตุก่อน และแจ้งกับทางกู้ภัยเราว่า จากการตรวจสอบไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เราจึงได้ยกเลิกกำลังอาสาที่จะเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งก็ติดใจเช่นกันว่า หากรู้ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บก็อาจจะช่วยเหลือได้ทัน