จีนยัวะจัด ซัดสหรัฐฯภัยคุกคามใหญ่สุดต่อการพัฒนา-สันติภาพโลก

จีนยัวะจัด – วันที่ 7 ก.ค. เอพีรายงานว่า ทางการจีนกล่าวตอบโต้ข้อครหาของทางการสหรัฐอเมริกาและอังกฤษที่ว่าจีนยกระดับการสอดแนมเพื่อขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากชาติตะวันตก ว่าสหรัฐฯนั้นเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อการพัฒนา เสถียรภาพ และสันติภาพของโลก

ความเกรี้ยวกราดดังกล่าวของทางการจีนเกิดขึ้นหลังผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ และผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองอังกฤษ หรือเอ็มไอ5 กล่าวเตือนบรรดาเอกชนว่ารัฐบาลจีนกำลังพยายามที่จะขโมยองค์ความรู้เทคโนโลยีเพื่อนำกลับมาใช้แข่งขันกับตะวันตก

นอกจากนี้ สถานการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นก่อนที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะพบหารือกับนายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีน ภายในการประชุมจี20 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 9 ก.ค.นี้

นายจ้าว หลีเจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า ข้อครหาที่เกิดขึ้นถือเป็นความพยายามใส่ร้ายทางการจีน ทั้งที่ข้อเท็จจริงต่างๆ เคยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสหรัฐฯ คือ ภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อการพัฒนา เสถียรภาพ และสันติภาพของโลก

“จีนขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบุคคลดังกล่าวหันมามองการพัฒนาประเทศของจีนในมุมมองที่ถูกต้องและมีเหตุมีผล รวมถึงยุติการเผยแพร่คำโกหกและใช้คำพูดอย่างไม่มีความรับผิดชอบ”

คำเตือนดังกล่าวมาจากนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผอ.เอฟบีไอ ที่กล่าวในการประชุมกับนายเค็น แม็กคอลลัม ผอ.เอ็มไอ5 ที่ศูนย์บัญชาการเอ็มไอ5 กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีเป้าหมายเพื่อแสดงความเป็นเอกภาพร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และอังกฤษ

นายเรย์ ระบุว่า จีนนั้นเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงในระยะยาวของสหรัฐฯ อังกฤษ และชาติพันธมิตรในยุโรป รวมถึงในภูมิภาคอื่นๆ

ขณะที่นายแม็กคอลลัม กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ชาติพันธมิตรกำลังต้องเผชิญกับแรงกดดันทางอ้อมทั่วโลกจากจีนที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นความท้าทายระดับพลิกเกม

รายงานระบุว่า จีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังดำเนินนโยบายเชิกรุกในด้านการต่างประเทศอย่างเข้มข้น โดยผนึกกำลังกับรัสเซียเพื่อบ่อนทำลายอิทธิพลของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร

หนึ่งในข้อเท็จจริงดังกล่าวสะท้อนได้จากกรณีทางการจีนปฏิเสธที่จะประณามการรุกรานประเทศยูเครนของกองทัพรัสเซียว่าเป็น “การรุกราน” แต่กลับประณามมาตรการคว่ำบาตรทางเศรฐกิจของชาติตะวันตกและพันธมิตรเพื่อกดดันให้รัสเซียยุติสงคราม

ทางการจีนยังมองว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต และทางการสหรัฐฯ นั้นเป็นต้นเหตุที่บีบคั้นให้ทางการรัสเซียไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำสงคราม โดยประเด็นสงครามยูเครนนั้นคาดว่าจะเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนแรงแหลมคมที่สุดของการประชุมจี20

นอกจากนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการกำกับและควบคุมเอกชนจีนยังพยายามใช้อิทธิพลจากเอกชนจีนเพื่อเข้าครอบครองตลาดโลกและองค์ความรู้ใหม่ทางเทคโนโลยี

นายจ้าว กล่าวตอบโต้ถึงข้อครหาข้างต้นอีกว่า เป็นเพียงพฤติกรรมที่น่าเสื่อมเสียของหน่วยข่าวกรองอังกฤษซึ่งพยายามยัดเยียดมุมมองของตัวเองให้กับทางการจีน

“ผอ.ข่าวกรองอังกฤษควรวางหัวใจที่ชั่วร้ายของตัวเองลงก่อน เดินออกมาจากห้องมืดที่ชอบอยู่แล้วเปิดหูเปิดตารับแสงแดดบ้างจะได้หยุดคิดวางแผนดัดหลังคนอื่นหรือเพ้อเจ้อคิดถึงแต่ศัตรูในจินตนาการ” จ้าว ระบุ