ไม่ตั้งข้อหา ปู่อเมริกัน พายเรือยิงดับคนจมน้ำ หลังช่วยขึ้นมาแต่ถูกทำร้ายร่างกาย

Home » ไม่ตั้งข้อหา ปู่อเมริกัน พายเรือยิงดับคนจมน้ำ หลังช่วยขึ้นมาแต่ถูกทำร้ายร่างกาย



ไม่ตั้งข้อหา ปู่อเมริกัน พายเรือยิงดับคนจมน้ำ หลังช่วยขึ้นมาแต่ถูกทำร้ายร่างกาย

วันที่ 22 มี.ค. บีบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ในรัฐเซาท์แคโลไรนา สหรัฐอเมริกา ระบุว่า จะไม่ตั้งข้อหากับชายคนพายเรือวัย 74 ปี ที่ให้ความช่วยเหลือนายนาธาน ดรูว์ มอร์แกน วัย 29 ปี ที่จมน้ำขึ้นมาจากทะเลสาบคิววี แม้ว่าชายคนพายเรือจะยิงนายมอร์แกนเสียชีวิตไม่นาน หลังคนพายเรือและภรรยาถูกนายมอร์แกนทำร้ายร่างกาย เมื่อวันอังคารที่ 15 มี.ค.

รายงานการชันสูตรสรุปว่า นายมอร์แกนเสียชีวิตจากกระสุนปืนนัดเดียวที่หน้าอกบนเรือท้องแบนของชายคนพายเรือ แต่สำนักเจ้าพนักงานมณฑลโอโคนี รัฐเซาท์แคโลโรนา ระบุว่า อัยการระบุว่าการยิงดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง

ทะเลสาบคิววีเป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นและอันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

 

เจ้าหน้าที่จากสำนักเจ้าพนักงานมณฑลโอโคนีกล่าวว่า นายมอร์แกนและผู้หญิงอีกคนซึ่งไม่ทราบชื่อกลัวสุดขีดหลังพลัดตกจากเจ๊ตสกีลงไปในน้ำ ทั้งคู่ไม่ได้สวมแจ๊กเก็ตชูชีพ และเจ๊ตสกีกำลังวนเวียนบนผิวน้ำ

“นายนาธาน หลังได้รับการช่วยเหลือ รู้สึกทุกข์ใจและเริ่มทำร้ายคนพายเรือและภรรยาที่อยู่บนเรือท้องแบน พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งว่า นายนาธานอาจต้องการกลับไปหาเจ็ตสกี” เจ้าหน้าที่ระบุในแถลงการณ์ก่อนหน้านี้

ไมก์ เคลนชอว์ เจ้าพนักงานมณฑล ให้สัมภาษณ์ เจอร์นัล ออฟ เซเนกา ว่า นายมอร์แกนอาจมีอาการมึนเมา ต่อมา ผู้หญิงที่มากับนายมอร์แกน พยายามผลักนายมอร์แกนกลับลงไปในน้ำเพื่อพยายามคลี่คลายสถานการณ์ หลังจากนั้น ชายคนพายเรือวัย 74 ปี ช่วยเหลือนายมอร์แกนขึ้นมาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ต่อมา นายมอร์แกนถูกยิงเสียชีวิตโดยชายคนพายเรือ ซึ่งอ้างว่ากลัวชีวิตตัวเองและภรรยาของเขาอยู่ในอันตรายขณะถูกทำร้ายร่างกาย

 

การตัดสินคดีดังกล่าวมีขึ้นเพียง 3 สัปดาห์หลังคณะลูกขุนในรัฐฟลอริดาลงมติให้อดีตผู้บัญชาการตำรวจหน่วยอาวุธและยุทธวิธีพิเศษ (SWAT) ไม่มีความผิดจากการยิงสังหารชายที่ขว้างป๊อปคอร์นใส่หน้าระหว่างการทะเลาะวิวาทในโรงภาพยนตร์

ทั้งนี้ ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับปืนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2563 คดีฆาตกรรม 19,384 คดีเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) สหรัฐ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ