ม็อบชาวนาเฮ! ได้ข้อสรุป พักชำระหนี้ 50% หลังปักหลักชุมนุมหน้า ก.คลังมากว่า 2 เดือน

เวลา 14.30 น.วันที่ 22 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หน้ากระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม. หลังม็อบชาวนานับพันคนมาชุมนุม เพื่อเรียกร้องให้ปลดหนี้ชาวนา ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

โดยชาวนาที่มาร่วมชุมนุม กล่าวว่า ตนและพวกชาวนาอีกหลายจังหวัด มาชุมนุมที่นี่รวม 2 เดือนแล้ว เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขเรื่องหนี้สินของชาวนา ซึ่งชาวนาขายได้ราคาถูก และไม่มีเงินใช้หนี้ วันนี้คณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีจะเข้าสภา ถ้าผ่านการเข้าสภา พวกชาวนาก็จะกลับ แต่ถ้าเกิดไม่ผ่านก็ยังจะอยู่ต่อ จนกว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องหนี้สินของชาวนา

ต่อมาเวลา 15.00 น. หลังมติดังกล่าวเข้า ครม. ก็มีมติให้การดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พักชำระหนี้เกษตรกร 50% จาก 4 ธนาคารของรัฐ เกษตรกรที่มาชุมนุมอยู่ในช่วงนี้ ขอให้รัฐช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งเป็นหนี้สินของสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่มีหนี้อยู่กับ 4 ธนาคารของรัฐ ประมาณ 50,000 ราย และมีมูลหนี้ทั้งหมดรวม 9,282 ล้านบาท ดอกเบี้ยอีก 6,813 ล้านบาท

โดย 4 แบงก์รัฐ ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ซึ่งเป็นเรื่องค้างคามา 10 กว่าปี แล้ววันนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอเข้า ครม.เข้าสู่การพิจารณาได้ข้อสรุปว่า

ในเงินต้นทั้งหมดที่เกษตรกรค้างอยู่ 100% ให้ 50% แรกพักหนี้ ส่วน 50% หลังให้เกษตรกรเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ในแต่ละแบงก์ ขึ้นอยู่กับแต่ละรายว่าใครเป็นหนี้แบงก์ไหน เจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เช่นอาจยืดเวลาการชำระหนี้ หรือผ่อนชำระหนี้แต่ไม่เกิน 15 ปี นอกจากนั้นในเรื่องของดอกเบี้ย ให้กระทรวงเกษตรฯ กับกระทรวงการคลัง ร่วมกันหาข้อสรุป จากมติดังกล่าวทำให้ม็อบชาวนาพอใจกับผลมติดังกล่าวที่ออกมา แต่จะขอให้มติดังกล่าวออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน จึงจะตัดสินใจว่าดำเนินการต่อไปอย่างไร