เมื่อเวลา 11:00 น ของวันที่ 6 กรกฎาคม ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ หวานเย็น รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุเกิดไฟไหม้ภายใน วัดหนองกระทุ่ม ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง.จ.นครราชสีมา จึงได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต. หนองกระทุ่ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตา และรถดับเพลิงจากเทศบาลใกล้เคียงรวม 7 คัน เร่งดับไฟที่กำลังลุกไหม้กุฏิใหญ่กลางวัด ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ให้ไฟให้สงบลงได้
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าที่เกิดเหตุ เป็นศาลาไม้ขนาดใหญ่อายุ 55 ปี สร้างเมื่อ พ.ศ 2509 ใช้เป็นที่ปฏิบัติกิจสงฆ์และมีหลายห้อง และใช้เป็นกุฏิเพื่อจำวัดของพระภิกษุสงฆ์ด้วย
สอบถามเบื้องต้นทราบว่าต้นเพลิงเป็นห้องที่ 6 ซึ่งเป็นห้องเก็บของ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องสังฆทานจากญาติโยม เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ก่อนที่ไฟลุกลามไหม้ห้องใกล้เคียงกันจนเสียหายทุกห้อง แต่โครงสร้างศาลายังอยู่ดี มีเพียงจุดที่ทำเป็นห้องพัก ซึ่งเป็นที่จำวัดพระสงฆ์ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับได้ทันก่อนลุกลามเสียหายทั้งหลัง
จากการสอบถาม พระเศวต อินปัญโญ อายุ 48 ปี พระลูกวัดเปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังเตรียมทำกิจวัตรประจำวัน ได้กลิ่นควันออกมาจากห้องที่ 6 ซึ่งเป็นห้องเก็บของ เปิดไปดูพบ กลุ่มควันค่าคุ้งไปทั่วไฟกำลังลุกลามอย่างรวดเร็วจึงรีบวิ่งหนีตายออกมา แต่นึกได้ว่าลืมโทรศัพท์เอาไว้จึงรีบวิ่งเข้าไป เอาจนถูกเศษไม้ที่ติดไฟตกมาใส่บริเวณศีรษะ ไหล่และหลัง ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟลวกเล็กน้อย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในห้องที่ไม่มีใครอยู่ จนไฟลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป