วราวุธโพสต์แรง "ไม่โผล่หน้าไป ไม่ใช่ไม่ทำงาน" ร่ายยาวทำอะไรบ้างในเหตุไฟไหม้โรงงาน

Home » วราวุธโพสต์แรง "ไม่โผล่หน้าไป ไม่ใช่ไม่ทำงาน" ร่ายยาวทำอะไรบ้างในเหตุไฟไหม้โรงงาน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก TOP Varawut – ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ถึงกรณีเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ระบุว่า

ไม่โผล่หน้าไป ไม่ใช่ไม่ทำงาน แต่สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงระดับนี้ หน้างานมีภาระล้นมือมากแล้ว ไม่ควรต้องแบ่งกำลังมาคอยต้อนรับนักการเมืองอีก
จึงขอแจ้งให้พี่น้องทุกท่านทราบว่า ผมได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ นำรถตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศแบบเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ไปติดตั้งบริเวณเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อติดตามเฝ้าระวังผลกระทบจากไฟไหม้โรงงาน หมิงตี้ เคมีคอล ตั้งแต่ทันทีที่เกิดเหตุ
หลายท่านจึงอาจไม่เห็นรถของหน่วยงานเราในที่เกิดเหตุ เพราะการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ไม่มีความจำเป็นต้องไปแย่งพื้นที่สื่อมวลชน – พื้นที่จอดรถ ที่ควรจะเก็บไว้ให้คนที่ปฏิบัติงานหน้างานครับ
สำหรับ สถานการณ์คุณภาพอากาศจังหวัดสมุทรปราการ หลังเหตุไฟไหม้ โรงงานหมิงตี้ เคมิคอล จำกัด โดย สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษ 5 สถานี ได้แก่
1) ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง
2) ต.บางโปรง อ.เมือง
3) ต.ตลาด อ.พระประแดง
4) ต.ปากน้ำ อ.เมือง
5) ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง
พบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยสรุปได้ดังนี้
PM2.5 เฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดได้อยู่ในช่วง 5 – 22 มคก./ลบ.ม.
PM10 เฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 11 – 36 มคก./ลบ.ม.
O3 เฉลี่ย 8 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 30-46 ppb
CO เฉลี่ย 8 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 0-0.52 ppm
NO2 เฉลี่ย 1 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 5-10 ppb
SO2 เฉลี่ย 1 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 0-7 ppb

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และแอปพลิเคชัน Air4Thai หากมีความคืบหน้าที่สำคัญ ผมจะคอยรายงานเป็นระยะครับ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวราวุธก็ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงประเด็นนี้ หลังโซเชียลมีเดีย วิพากษ์วิจารณ์ว่า นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและคนในรัฐบาล เหตุใดจึงไม่รุดลงพื้นที่  

นายวราวุธ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องเรียนตรงๆว่า หากนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของทุกหน่วยงานลงไปในพื้นที่แล้ว โดยธรรมชาติคนไทยเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ต้องแห่มาต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีทราบดีว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้น ยิ่งจะทำให้วุ่นวายไปอีก

จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมจึงไม่ไป เพราะเราไม่รู้ว่าสถานการณ์ ณ ที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร ตนเห็นว่าการที่นายกรัฐมนตรีไม่ไปนั้นถูกต้องแล้ว เพราะการบัญชาการที่ศูนย์บัญชาการเพื่อทำหน้าที่สั่งการและประสานจะมีประสิทธิภาพมากกว่า และยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานเต็มที่ เหมือนเมื่อครั้งเหตุการณ์ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ที่นายกรัฐมนตรีไม่ไปทันที เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายและสร้างอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่ จึงขอความเห็นใจจากสังคมด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ