โสมเหนือขู่ญี่ปุ่นระวังเจอดี จวกสหรัฐฯหนุนพันธมิตรเอเชียคุกคามสันติ

โสมเหนือขู่ญี่ปุ่นระวังเจอดี – วันที่ 20 ธ.ค. เอพีรายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือข่มขู่ทางการญี่ปุ่นว่าอาจเผชิญกับขั้นตอนทางด้านการทหารที่เฉียบขาดเพื่อตอบโต้กรณีที่ญี่ปุ่นจัดทำแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่าทำให้ญี่ปุ่นสามารถรุกรานชาติอื่นได้

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการเกาหลีเหนือเกิดขึ้นเพียง 4 วัน หลังจากทางการญี่ปุ่นประกาศแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ให้ญี่ปุ่นมีขีดความสามารถในการตอบโต้การโจมตีจากเกาหลีเหนือและจีน รวมถึงเพิ่มงบกองกำลังป้องกันตัวเองหรือเจเอสดีเอฟเป็น 2 เท่าด้วย

คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ (เอพี)

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ระบุว่า การผลักดันสร้างขีดความสามารถในการโจมตีกลับของญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่การป้องกันตัวเอง แต่เป็นความพยายามแอบแฝงที่ต้องการขีดความสามารถในการชิงเปิดศึก เพื่อไว้ใช้กรณีต้องการรุกรานชาติอื่นๆ

“ความพยายามที่โง่เง่าของทางการญี่ปุ่นเพื่อสนองความละโมบในจิตใจอันดำมืดและการสร้างขีดความสามารถให้กองทัพตัวเองเพื่อใช้รุกรานชาติอื่นโดยอ้างการสิทธิในการป้องกันตัวเองบังหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมและไม่สามารถอดกลั้นได้” โฆษกเกาหลีเหนือ ระบุ

ทางการเกาหลีเหนือยังกล่าวหาทางการสหรัฐอเมริกาด้วยว่า ให้การส่งเสริมและสนับสนุนความกระหายสงครามของเจเอสดีเอฟรวมถึงการบ่อนทำลายสันติภาพของภูมิภาค ส่งผลให้เกาหลีเหนือไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเร่งพัฒนาแสนยานุภาพไว้ป้องปรามการถูกรุกราน

ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (เอพี)

แถลงการณ์ ระบุต่อว่า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องมีอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ไว้เพื่อให้แน่ใจได้ว่าสามารถตอบโต้และปกป้องอธิปไตยของชาติได้อย่างเฉียบขาด โดยเฉพาะท่ามกลางความซับซ้อนของสถานการณ์ในภูมิภาคที่มีแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงฉบับใหม่ของญี่ปุ่นเป็นสาเหตุ

“เกาหลีเหนือจะยังคงดำเนินตามขั้นตอนต่อไปเพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่พอใจต่อความทะเยอทะยานที่ละโมบโลภมากและไร้ความชอบธรรมของทางการญี่ปุ่นเพียงใด”

รายงานระบุว่า กระแสต่อต้านชาวญี่ปุ่นในหมู่ชาวเกาหลีเหนือนั้นยังคงมีอยู่เช่นเดียวกันกับหลายชาติที่เคยตกอยู่ภายใต้การยึดครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งทหารจักรวรรดิญี่ปุ่นก่ออาชญากรรมสงครามไว้มากมาย

ผู้ประท้วงที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ แสดงความไม่เห็นด้วยกับแผนยุทธศาสตร์ใหม่ของญี่ปุ่น เมื่อ 20 ธ.ค. (เอพี)

คาบสมุทรเกาหลีนั้นตกอยู่ภายใต้การยึดครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นช่วงปี 2453 ถึง 2488 ก่อนที่จะแตกออกเป็นฝ่ายเหนือที่สนับสนุนโดยอดีตสหภาพโซเวียตและฝ่ายใต้สนับสนันโดยสหรัฐฯ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงในปี 2488

ขณะที่สื่อกระบอกเสียงของทางการเกาหลีเหนือยังคงประโคมรายงานข่าวและย้ำเตือนชาวเกาหลีเหนือ ว่าจักรวรรดิญี่ปุ่นนั้นเคยสร้างความทุกข์ทรมานเหลือคณาไว้ให้กับชาวเกาหลีอย่างไรด้วย

ส่วนทางการญี่ปุ่นนั้นระบุว่า จีน เกาหลีเหนือและรัสเซีย ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงมากที่สุดของประเทศ และญี่ปุ่นจำเป็นต้องเพิ่มพูนขีดความสามารถในการป้องกันตัวเองเพื่อรักษาสันติภาพ ความปลอดภัย และเสถียรภาพเอาไว้