โฆษกรัฐบาล โชว์ผลงาน นายกรัฐมนตรี แก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง ได้ผล เชื่อ ปี 2564/65 ไม่มีการประกาศภัยแล้ง
วันที่ 29 พ.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศทั้งระบบ โดยจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง และเตรียมน้ำต้นทุน ให้ภาคการผลิต เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวมทั้งเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และน้ำอุปโภค-บริโภค
สำหรับประชาชนอย่างทั่วถึง และเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการสำคัญภายใต้แผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ และจัดการทรัพยากรน้ำรองรับอีอีซี ฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ควบคู่กับพัฒนาเครื่องมือการบริหารจัดการน้ำ ทั้งผังน้ำ คลังข้อมูลน้ำ ในรูปแบบ วัน แมป ( One Map )
ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน National Thai Water ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้เริ่มแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ผ่านระบบ Thai Water Plan ชี้แจงการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านน้ำ ปี2567 ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นทั่วประเทศโดยจะเริ่มใช้ระบบจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เป็นปีแรก
นายธนกร กล่าวว่า การดำเนินการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลเกิดผลสำเร็จ ก้าวหน้าในหลายเช่น โครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่รัฐบาลขับเคลื่อน และในแต่ละภาค ได้แก่ ภาคเหนือ อ่างเก็บน้ำน้ำปี้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.พะเยา เริ่มโครงการฯ ปี 2559 จะแล้วเสร็จปี 2568 โดยมีความจุ 91 ล้าน ลบ.ม. สามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 25,000 ไร่ ภาคกลาง โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มโครงการฯ ปี 2560 จะแล้วเสร็จปี 2569 ซึ่งจะช่วยระบายน้ำได้ 1,025 ลบ.ม ต่อวินาที สามารถเพิ่มการเก็บกักน้ำได้ 31 ล้าน ลบ.ม. และบรรเทาพื้นที่น้ำท่วมได้ 4,900 ไร่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง จ.หนองคาย เริ่มโครงการฯ ปี 2561 จะแล้วเสร็จปี 2569 โดยเป็นการก่อสร้างประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำ 150 ลบ.ม ต่อวินาที ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในเขตจังหวัดอุดรธานีและหนองคายได้ 54,390 ไร่ สามารถเพิ่มปริมาณน้ำ 246 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที และเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 300,195 ไร่ ภาคตะวันออก โครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ “เขื่อนห้วยโสมง” จ.ปราจีนบุรี เริ่มโครงการฯ ปี 2553
ขณะนี้ได้เปิดใช้งานแล้ว โดยมีความจุ 295 ล้าน ลบ.ม. ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน 111,300 ไร่ ภาคใต้ โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) จ.สงขลา เริ่มโครงการฯ ปี 2558 จะเปิดใช้งานปี 2565 นี้ โดยเป็นการปรับปรุงคลองเดิม เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ จากเดิม 456 ลบ.ม ต่อวินาที เป็น 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมสถานีสูบน้ำ 90 ลบ.ม ต่อวินาที
นอกจากนี้ยังมีโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ อุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ บริเวณถนนรัชดาภิเษก ไปออกแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเกียกกาย มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 ม. ยาวประมาณ 6.4 กม. สร้างแล้วเสร็จปี 2563 สามารถระบายน้ำได้ 60 ลบ.ม.ต่อวินาที ครอบคลุมพื้นที่ 56 ตารางกิโลเมตร 8 เขต ประกอบด้วยเขตห้วยขวาง ดินแดง พญาไท จตุจักร ลาดพร้าว วังทองหลาง บางซื่อ และเขตดุสิต
“จากการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างเป็นระบบตามนโยบายรัฐบาล และนายกฯส่งผลให้ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน สามารถเพิ่มการกักเก็บน้ำรวม 1,452 ล้าน ลบ.ม. ตลอดจนพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร 124 ล้าน ลบ.ม. และลดพื้นที่ประสบภัยแล้งลงอย่างต่อเนื่อง จาก 36,944 หมู่บ้านในปี 2556 และในปี 2564/65 ไม่มีประกาศภัยแล้ง” นายธนกร กล่าว