โฆษกรัฐบาล ย้ำ ปชช.ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จากมาตรการ 'ช้อปดีมีคืน'

Home » โฆษกรัฐบาล ย้ำ ปชช.ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จากมาตรการ 'ช้อปดีมีคืน'


โฆษกรัฐบาล ย้ำ ปชช.ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จากมาตรการ 'ช้อปดีมีคืน'

โฆษกรัฐบาล ย้ำ ประชาชนใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จากมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.นี้ เช็คสิทธิ์ตามที่กำหนด

11 ม.ค. 66 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการ ช้อปดีมีคืน ปี 2566 ที่ประชาชนสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษี จากค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ และเพื่อกระตุ้นและรักษาการบริโภคในประเทศ ว่า

รัฐบาลเชื่อมั่นว่าตัวเลขการจับจ่าย คาดจะมีตัวเลขหมุนเวียนถึง 56,000 ล้านบาท และเป็นโอกาสกระตุ้นยอดขายให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี สามารถหักลดหย่อนภาษีด้วยค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.นี้ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท

โดยบุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 30,000 บาท จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบ กระดาษหรือใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 10,000 บาท จะต้องมีใบกำกับ ภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น

นายอนุชา กล่าวว่า มาตรการช้อปดีมีคืน ไม่รวมสินค้าและบริการ ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

ค่าบริการจัดนำเที่ยว ที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ค่าที่พักในโรงแรม ที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าว

นอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กำหนดในข้อ (1) เช่น ค่าสมาชิกต่างๆ ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดย ต้องมีหลักฐานเป็น ใบกำกับภาษีที่มีข้อความระบุชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ มาใช้ในการใช้สิทธิหักลดหย่อน ทั้งนี้การใช้บริการนอกช่วงเวลา 1 ม.ค– 15 ก.พ.หรือกรณีชำระค่าบริการระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.แต่ได้ใช้บริการหลัง วันที่ 15 ก.พ.จะไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้

นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดและดำเนินมาตรการโดยมุ่งหวังให้เกิดการใช้จ่าย เพิ่มยอดขาย กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ทำให้ประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยถือเป็นปีแรกที่ขยายให้นำค่าน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาลดหย่อนภาษีได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเดินทางและการท่องเที่ยว

จึงขอให้ประชาชนเช็คสิทธิ์ตามมาตรการ วางแผนการจับจ่ายซื้อของ และคำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม RD CALL CENTER โทร. 1161

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ