แหวนแหวน อยากมีลูก ทำเด็กหลอดแก้ว แพทย์คุมเข้ม หวั่นมะเร็งกลับมา
แชร์ประสบการณ์การเป็นมะเร็งเต้านมในช่วงวัยรุ่น ของพิธีกรสาวสวย แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ ในงานแถลงข่าวความก้าวหน้าในการรักษามะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น ที่ โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ หลังปรึกษาหมอทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) เพราะอยากจะมีลูกให้ครอบครัว จึงต้องพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจดูฮอร์โมน เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมรอบ 2 หรือไม่!
โดย แหวนแหวน เผยว่า “เดี๋ยวนี้เป็นมะเร็งเต้านมก็เหมือนเป็นหวัด สามารถรักษาให้หายขาดได้ แม้กระทั่งเป็นขั้น 3 ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ถึง 74% สมัย 20 ปีที่แล้ว ตอนที่แหวนตรวจเจอ คือเหมือนโลกแตก รู้สึกว่าเราจะตายแล้วเหรอ เกิดมามีชีวิตดี๊ดี ทำไมจะต้องมาเป็นสิ่งนี้ ตอนนั้นการเป็นมะเร็งเต้านมเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก แล้วเรารู้สึกว่าเป็นที่ไหนไม่เป็นมาเป็นที่เต้านม สาบานได้เลยว่าเต้านมแหวนไม่ได้ไปทำมา แต่จะต้องมาตัดฉันไปอีกเหรอ อุตส่าห์เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้มาแล้ว
นอกจากการกลัวตายก็เป็นเรื่องของความเจ็บป่วยที่ทำให้เสียชีวิตได้แล้ว ยังเสียความมั่นใจด้วยที่ต้องโดนตัดหน้าอก ก็โดนตัดไปเกือบเท่าลูกเทนนิส ก็มีความกังวลว่าหน้าอกเราจะเป็นยังไง มันจะเหมือนเดิมไหม สรุปก็คือไม่ได้เสียทรงไปมาก แต่ก็เล็กลง ทุกวันนี้ก็อยู่กับมันได้ ไม่ได้รู้สึกแย่มาก ไม่กล้าไปยุ่งอะไรกับมันมาก กลัวมันจะกลับมา ก็คอยเช็คอัพมันตลอดปีละครั้ง”
เห็นว่าจะทำลูกด้วย? “ยิ่งเราจะทำ IVF ก็ต้องตรวจเช็คเยอะ คุณหมอที่ทำลูกเขาก็จะซีเรียสเรื่องของการใช้ฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนคือตัวกระตุ้นมะเร็งไง อย่างแหวนจะทาครีมอะไร ทานอะไร ฉีดฮอร์โมนอะไรต้องระวังหมด เพราะมันมีผลกับมะเร็งเต้านมหมด เวลาจะกระตุ้นไข่ทีต้องมีทีมหมอมานั่งปรึกษากันเลย ก็ค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร มีเรื่องต้องระมัดระวังเยอะ”
ต้องดูแลอะไรบ้าง?“เราเองก็เป็นคนที่กินเอ็กซ์สตรีมมาก คือชีวิตเฮลตี้คุณหมอจะแนะนำว่าไม่ให้กินอะไรไปทางใดทางหนึ่ง จะวีแกน กินผัก งดเนื้อไปเลย คีโต คือไม่ได้ว่าอะไรไม่ดีนะ แต่สุดท้ายจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลายๆ สำนักพบว่า ทางสายกลางคือดีที่สุด กินให้ครบทุกอย่าง
แต่อย่าทานอะไรให้เยอะหรือน้อยเกินไป อย่าอดอะไรเป็นพิเศษ อย่างสมัยก่อนเวลาลดน้ำหนักจะไม่กินข้าว กินแต่ขนม สรุปก็คือลำไส้ไม่มีไฟเบอร์ ไม่มีอะไรเลย มันไม่ย่อยไปเป็นอาทิตย์ น่ากลัวมาก สารอาหารก็ขาดไป ตอนนี้ก็ทานสายกลางมากขึ้น เริ่มทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว กินทุกอย่างที่ขวางหน้า เบาขนมลง”
การเป็นมะเร็งมันทำให้เราใช้ชีวิตยากขึ้น? “ที่เป็นปัญหาต่อชีวิตมากในตอนนี้เลยคือเรื่องของฮอร์โมน เรื่องของมดลูกตัวเอง เราจะทำลูกด้วย เราเช็คสุขภาพแล้วรู้ว่าฮอร์โมนบางตัวตกไป หมอก็จะไม่กล้าให้ยา ต้องไปนัดคุณหมอที่เชี่ยวชาญมะเร็งเต้านมช่วยดูให้ ก็ยากอยู่ค่ะ มันต้องระวังเป็นพิเศษ ก็ทำให้ชีวิตลำบากเล็กน้อย”
ตั้งใจจะมีลูกกี่คน? “อยากได้ 2 คน แต่ตอนนี้เอาให้ได้ 1 คนก่อนนะ ถ้ามา 2 เลยก็ดี เราก็อยู่กับกระบวนการนี้มานานแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวก็คงจะต้องลองอีกรอบ ลองทั้งที่ประเทศไทยทั้งที่ต่างประเทศ คงจะลองอีกรอบนึง ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คงจะถอดใจแล้ว จะพยายามอีกซักตั้งนึง
ก็ปรึกษากับคุณหมอทั้งคุณหมอทำลูก คุณหมอมะเร็งเต้านม เพราะคุณหมอทำลูกก็ไม่กล้าให้ฮอร์โมนเยอะ มันเสี่ยง อายุเท่านี้แล้ว มันก็ต้องอัดกันสุดตัว เรียกว่าเป็นเคสพิเศษเลยสำหรับการทำIVF คุณพ่อก็บอกขึ้นมาแล้วว่าชีวิตแลกชีวิตไม่เอานะ ได้หลานแต่ลูกเป็นมะเร็งเต้านมอีกรอบ ก็คงไม่ไหว”
คุณสามีว่าไงบ้าง?“เขาก็กลัวเราเป็นมะเร็งอีก ลูกก็อยากมีแหละ ครอบครัวไม่มีฝ่ายไหนกดดันเลย เพราะเขาก็รู้ว่าเราพยายาม ถ้ามันไม่ได้จริงๆ เราก็พยายามที่สุดแล้ว ที่สำคัญลูกจะมีหรือไม่มี ไม่เป็นไร แต่เราต้องไม่ตาย ต้องมีเราอยู่ต่อไป เท่าที่ฟังโอกาสมันก็ 50:50 เพื่อนๆ ก็ให้กำลังใจกันหมด วิทยาศาสตร์เราก็สู้มาสุดตัว สงสัยคงต้องไปสายมูบ้าง คุณหมอยังบอกว่าไปมูไปอะไรบ้างนะ ก็จะขอลองมันทุกศาสตร์แล้วกัน เอาทุกทาง”
ค่าใช้จ่ายสูง? “ก็หลายล้านมากแล้ว ยังพูดกับพ่อแม่เลยว่าหลายล้านก็ส่วนนึงนะ แต่ร่างกายเรา ฮอร์โมนที่เทกๆ เข้าไปนี่ก็ไม่รู้ว่ามันจะมีผลอะไรที่ไปสะสมไว้ข้างในรึเปล่า คือที่ผ่านมาเราต้องตรวจแล้วตรวจอีก วนๆ ไปจนรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว โดนเยอะเหลือเกิน ก็เข้าใจคุณหมอว่าต้องเอาความปลอดภัยของเราไว้ก่อน ไม่อยากให้มีผลข้างเคียงอะไรในอนาคต”
