ไทสัน ฟิวรี นักมวยเฮฟวี่เวตชาวอังกฤษ ถือเป็นนักชกที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในแง่การตลาดมากที่สุด ณ ปัจจุบัน ซึ่งการจะมาถึงจุดนี้ได้นั้นฝีมืออย่างเดียว.. ไม่พอ
เบื้องหลังความเป็นนักมวยที่ “ขายได้” ของ ฟิวรี มาจากอดีตจิ๊กโก๋อันดับ 1 แห่งไอร์แลนด์ หัวหน้าแก๊งอาชญากรนาม “คินาฮาน คาร์เทล”
ชื่อของเขาคือ แดเนี่ยล คินาฮาน … ชายผู้เป็นกุนซือของ ฟิวรี คนนี้มีดีอย่างไร ทำไมเขาจึงมีโลก 2 ใบ ทั้งขาวและดำในเวลาเดียวกัน … ติดตามได้ที่นี่
ผลผลิตจากแก๊ง
“มาเฟียไอริช” คือหนึ่งในกลุ่มอาชญากรที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาเสมอ ความชัดเจนในความดิบเถื่อนนั้นทำให้ในภาพยนตร์และซีรี่ส์หลาย ๆ เรื่อง ต้องโยงเอาเรื่องของพวกเขามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Son of Anarchy, Peaky Blinder หรือแม้กระทั่งหนังมาเฟียชั้นครูอย่าง The Godfather ก็ล้วนมีแต่การกล่าวถึงกลุ่มมาเฟียไอริชด้วยกันทั้งนั้น
ความโหดและดิบแบบไอริช คือต้นเหตุของการถือกำเนิดทารกที่ชื่อว่า แดเนียล คินาฮาน ในปี 1977 ณ เวลานั้น คริสตี้ คินาฮาน พ่อของเขาคือหัวหน้าแก๊ง “คินาฮาน คาร์เทล” แก๊งยาเสพติดเบอร์ใหญ่ของประเทศไอร์แลนด์ ก่อคดีมามากมาย จนถึงขั้นขนาดสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้ว
ใครบอกสภาพแวดล้อมไม่สำคัญ คนจะดีจะชั่วขึ้นอยู่กับตัวเอง … ตรรกะนี้อาจไม่ถูกนักหากคุณเทียบกับชีวิตของ แดเนียล คินาฮาน ที่เติบโตมาด้วยสภาพแวดล้อมและการดูแลจากแก๊งอาชญากร เขาเป็นเด็กแสบแต่เด็ก มีนิสัยเป็นลูกเจ้าพ่อตัวจริงเสียงจริง
ไม่เคยกลัวใคร ยึดมั่นในศักดิ์ศรี และพร้อมแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงเสมอ หากการเจรจาโดยสันติไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เขามีความเหมือนพ่อตรงที่ต่อให้เป็นอาชญากรแต่ก็เป็นคนที่มีความรู้ ตามรอย คริสตี้ ที่เรียนจบปริญญาขณะต้องโทษจำคุก 6 ปี จากคดีค้าเฮโรอีนในปี 1980 และเอาวิชาทั้งหมดที่ได้เรียนมา รวมถึงการสอนภาษาที่จำเป็นอีกมากมายทั้ง สเปน กับ รัสเซีย มาใช้ต่อนอกคุก
จำเป็นในที่นี้คือ “จำเป็นสำหรับธุรกิจมืด” เพราะแก๊ง คินาฮาน คาร์เทล นั้นถือเป็นแก๊งที่มีพันธมิตรจากแก๊งอาชญากรทั้งที่ประเทศโคลอมเบีย, รัสเซีย และ สเปน นั่นเอง
เมื่อช่วงเวลาของ คริสตี้ ผู้เป็นพ่อเหลือน้อยลง เขาดันลูกชายอย่าง แดเนียล ขึ้นมาเป็นลูกพี่ใหญ่ของแก๊งเอง และเมื่อ แดเนียล คินาฮาน ก้าวขึ้นมาเป็นบิ๊กบอส แก๊งของพวกเขาก็ใหญ่โตขึ้นมาก มีบทความเกี่ยวกับแก๊งนี้เมื่อ แดเนี่ยล มาเป็นหัวหน้าเต็มตัว เขียนโดย พอล เรย์โนลด์ ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม บอกว่า คินาฮาน คาร์เทล ไม่ใช่แค่บู๊กับมาเฟียด้วยกันเท่านั้น แต่พวกเขายังผูกสัมพันธ์กับตำรวจ จนถึงขั้นรู้นอกออกในของกองบัญชาการตำรวจในไอร์แลนด์ และสเปนเลยทีเดียว
เมื่อดังเกินไป ก็ย่อมถูกจับตาโดยรัฐบาล และเอฟบีไอ พวกตำรวจเล่นงานแก๊งของ คินาฮาน ได้ในขณะที่พวกเขากำลังทำสิ่งที่เรียกว่า “งานใหญ่” ระหว่างอยู่ที่สเปน การจับกุมและทลายแก๊ง คินาฮาน ครั้งนั้น มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 คน และถูกสอบสวนคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติในเวลาต่อมา
การโดนจับครั้งนั้นเป็นบทเรียนที่สอนให้ แดเนียล คินาฮาน รู้ว่า “โลกใบเดียว” มันไม่พอสำหรับชีวิตของเขา เขาต้องการโลกอีกใบที่ปลอดภัยยิ่งกว่าการถูกรู้จักในฐานะอาชญากรผู้ค้ายาเสพติด แต่เขาต้องทำให้ถูกคนอื่นเรียกว่า “นักธุรกิจ” ให้ได้
โลกใบที่ 2
ในปี 2012 แดเนียล คินาฮาน หาเวย์ของตัวเองจนได้ในท้ายที่สุด มันคือกีฬาที่ถูกผูกกับแก๊งมาเฟียมาตั้งแต่ยุคหลายสิบปีก่อน นั่นคือ “มวยสากล” นั่นเอง … เขาได้ร่วมหุ้นกับอดีตนักมวยอาชีพอย่าง แมทธิว แมคลิน เปิดบริษัทโปรโมเตอร์ที่ชื่อว่า MGM (ย่อมาจาก Macklins Gym Marbella ค่ายมวยของ แมคลิน ที่ประเทศสเปน) เพื่อสร้างโลกอีกใบ ทว่าจากปัญหาชื่อซ้ำกับ MGM แกรนด์ รีสอร์ท & คาสิโน ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนชื่อเป็น MTK Global (ย่อมาจาก Mack The Knife Global) ในเวลาต่อมา
วงการมวยโลกนั้น กำเนิดขึ้นอย่างจริงจังที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงยุคปี 1920s ณ เวลานั้น มวยคือสัญลักษณ์ของ “แก๊ง” แก๊งไหนมีนักมวยเก่ง ๆ พวกเขาจะพาขึ้นมาซัดกันบนเวทีและเดิมพันกันด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง มันเหมือนสงครามขนาดย่อมโดยไม่ต้องยิงปืน จะว่าเแบบนั้นก็คงไม่ผิดนัก
เนื่องจาก “ราก” ของนักมวยคือการได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพล สิ่งนี้จึงถูกสานต่อมาเรื่อย ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งปัจจุบัน “การเลี้ยงนักมวย” ยังคงมีให้เห็นบ่อย ๆ ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยของเราเอง ที่กลุ่มนักการเมือง, เศรษฐี หรือ ผู้มีอิทธิพล มักจะมีค่ายมวยและนักมวยในการดูแลของตัวเอง
คินาฮาน รู้เรื่องเหล่านี้ และมั่นใจว่ามันจะง่ายหากเขาเข้าสู่วงการมวย แทนที่จะทำธุรกิจอื่น ๆ เขาแต่งตั้งตัวเองเป็นโปรโมเตอร์ของค่าย MTK Global และออกจากการเป็นมาเฟียแก๊ง คินาฮาน คาร์เทล แต่เป็นการออกในนามเพื่อให้ไม่มีอะไรสาวมาถึงตัวเขาได้เท่านั้น และใคร ๆ ก็รู้ว่าที่จริงแล้ว คินาฮาน คาร์เทล จะเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อ แดเนียล คินาฮาน สั่งการเท่านั้น
ขณะที่โลกของมวย คินาฮาน ก้าวเข้ามาและมีหน้ามีตาในการประกบคู่มวยระดับคู่ใหญ่ ๆ ทั้งนั้นตามสไตล์คนใจถึงและเงินเหลือ … แน่นอนเขาไม่ต้องการรายได้อะไร เขาแค่ต้องการชื่อเสียงและการยอมรับ ในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่งเท่านั้น งานนี้ไม่มีเสีย มีแต่ได้โดยแท้จริง
“แดเนียล คินาฮาน กับวงการมวย ก็เหตุผลเดียวกับที่ ปาโบล เอสโคบาร์ เข้ามาทำทีมฟุตบอลนั่นแหละ” อีวาน แม็คเคนนา นักเขียนของ The Independent เปรียบเทียบเรื่องราวของ คินาฮาน กับราชาโคเคนอย่าง เอสโคบาร์
เข้าหาคนดัง สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า แต่ต้องได้กลับมาด้วยสิ่งที่ต้องการ ซึ่งท้ายที่สุด นักมวยที่ทำให้ชื่อของ แดเนียล คินาฮาน ปรากฎบนหน้าสื่อเป็นประจำก็ปรากฎตัวจนได้ … การพบกันของ 2 จอมผยองคือการแท็คทีมที่ลงตัวเมื่อ แดเนียล คินาฮาน ได้พบกับ ไทสัน ฟิวรี ที่ปัจจุบันเป็นนักมวยแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต
น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า
การเจอกันระหว่าง คินาฮาน กับ ฟิวรี ถือเป็นสถานการณ์ที่พอเหมาะพอเจาะ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบมาเฟียยาเสพติดที่เข้ามาชุบตัวในวงการมวยอย่าง แดเนียล
แพ็ดดี้ บาร์นส์ อดีคแชมป์โลกชาวไอริช ที่ทำงานร่วมกับ MTK ยืนยันเสมอว่าเขาไม่ได้ยินดีเท่าไหร่นักที่ทางค่ายของเขาไปจับมือเป็นพันธมิตรกับคนอย่าง คินาฮาน เพราะรู้ทั้งรู้ว่านี่คืออาชญากรที่ทำร้ายประเทศไอร์แลนด์ในทางอ้อมมาอย่างยาวนาน
“ผมไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมใด ๆ ทั้งนั้น แมทธิว แม็คลิน (หุ้นส่วนค่ายอีกคน) ไม่ใช่อาชญากร ผมเองก็เหมือนกัน ดังนั้นหากใครต้องการจะถามหรือพูดถึงพวกเราในแง่พวกนอกกฎหมายหรือถามหาใครก็ตาม ผมคิดว่าพวกเขาควรจะไปถาม แดเนียล คินาฮาน และ คริสตี้ พ่อของเขาให้รู้เรื่องกันไป” บาร์นส์ บอกเล่าสิ่งที่เกิดภายในและเหตุผลที่ แดเนียล คินาฮาน ต้องการพิสูจน์ตัวเอง
ในช่วงเวลาเดียวกัน ไทสัน ฟิวรี ก็ต้องการพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน เพราะมีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ ฟิวรี เป็นโรคซึมเศร้า ติดยาเสพติด ปล่อยร่างกายจนอ้วนฉุ และออกจากวงการมวยไปถึง 3 ปี ในช่วงเวลาที่เขาจะคืนวงการ เขาต้องการใครสักคนที่ให้โอกาส … และนั่นเองคือการเจอกันของพวกเขาทั้งสองคน
“ไทสัน ฟิวรี กำลังสิ้นไร้ไม้ตอก ณ เวลานั้นเขาต้องการใครสักคนที่ให้ความเชื่อใจในตัวของเขา (ก่อนคัมแบ็คปี 2018)” เบน เดวิสัน อดีตผู้ฝึกสอนของ ฟิวรี ในช่วงก่อนปี 2018 ว่าไว้
“หลังจากนั้น แดเนียล คินาฮาน ก็เข้ามา เขาเข้ามาช่วยเคลียร์หลาย ๆ คดีของ ฟิวรี จนเรียบร้อยทั้งหมด เหลือแค่ให้ ฟิวรี เดินเข้าฉากในฐานะนักมวยอีกครั้งเท่านั้นเอง”
“แดเนียล ทำให้เขามีจุดเริ่มต้นใหม่อกครั้ง มองโลกในแง่ดี พร้อมจะกลับสู่เส้นทางสู่ความสำเร็จสูงสุดอีกครั้งสำหรับ ไทสัน ฟิวรี และนั่นคือเรื่องที่สำคัญและยิ่งใหญ่มากในความรู้สึกของ ฟิวรี”
การเจอกันครั้งนั้นทำให้ ไทสัน ฟิวรี กลับมาเอาจริงเอาจังในฐานะนักมวยได้อีกครั้ง เขาลดน้ำหนัก เลิกยาเสพติด และกลับมาเป็นนักชกแถวหน้าของโลกได้ในเวลาต่อมา เพียงแต่ว่า แดเนียล คิดมาว่ามันยังไม่พอ เขาต้องการให้ ฟิวรี ไปถึงแชมป์โลกให้ด้ และต้องการจัดแมตช์ที่ทำเงินเข้ากระเป๋าอีกมากๆ
แดเนียล ออกตัวจัดไฟต์ที่ ฟิวรี ท้าชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตของ WBC กับ ดีออนเต ไวลเดอร์ ในปี 2018 แม้ในไฟต์นั้นพวกเขาซัดกันไม่ลง จบด้วยการเสมอกันไป แต่ แดเนียล ยังคงมั่นใจในศักยภาพของ ฟิวรี ว่าถ้ามีไฟต์แก้มือเขาจะสามารถชนะได้แน่ จึงมีการจัดรีแมตช์ขึ้นในปี 2020 และสุดท้าย ไทสัน ฟิวรี ก็สามารถเอาชนะ ไวลเดอร์ ได้จริง ๆ และกลายเป็นหมายเลข 1 โดยไร้ข้อโต้แย้ง
การจับคู่กันของทั้งคู่ยังคงเดินหน้าต่อไป ฟิวรี เก่งขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ คินาฮาน เริ่มนำพาเอาเงินเข้ามาใส่กระเป๋าได้แบบไม่หยุด หลังจากคว้าแชมป์ได้ คินาฮาน ลุยเจรจาไฟต์ประวัติศาสตร์ของวงการมวยสหราชอาณาจักร ด้วยไฟต์ระหว่าง ไทสัน ฟิวรี่ กับ แอนโธนี โจชัว ยอดนักชกเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก และแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตของ WBA, IBF, WBO ได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ ฟิวรี่ สะใจเป็นอย่างมาก
“ผมเพิ่งพูดกับ แดเนียล คินาฮาน จบลง เขาแจ้งข่าวดีว่าผมจะได้ขึ้นชกไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมวยของอังกฤษ เราเพิ่งตกลงกันได้เมื่อไม่นานมานี้” ฟิวรี กล่าวผ่านวีดีโอคลิปของเขา
วัวสันหลังหวะ
การเป็นยอดนักเจรจาและโปรโมเตอร์ของ แดเนียล คินาฮาน ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมาก แม้กระทั่ง บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์วัยเก๋าจากค่าย ท็อป แรงก์ โปรโมชั่น ยังยอมรับว่า คินาฮาน คือคลื่นลูกใหม่ที่หลักแหลม มีความกล้าได้กล้าเสีย และมีแววจะยิ่งใหญ่กว่านี้ได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ความสนิทสนมและเริ่มปรากฎตัวบนหน้าสื่อที่มากเกินไปของ คินาฮาน ทำให้รัฐบาลไอร์แลนด์เริ่มไม่พอใจ คนสีดำที่มีพื้นที่ในด้านสีขาว เป็นอะไรที่ยากแก่การยอมรับ รัฐบาลไอร์แลนด์ แสดงความรังเกียจต่อวงการมวยที่ให้พื้นที่กับ คินาฮาน และหนนี้พวกเขาเอาจริง ถึงขั้นมีการออกหมายจับ แดเนียล คินาฮาน เพื่อแสดงให้โลกรู้ว่า “เขาไม่ใช่คนดี”
ตัวของ คินาฮาน นั้น แม้จะถอยไปหลังฉากในโลกสีดำด้วยการหนีไปอยู่ที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทว่าชาวไอริชทุกคนรู้ดีว่า การที่แก๊ง คินาฮาน คาร์เทล ยังเดินหน้าไปต่อไปและรุ่งเรืองจนกลายเป็นแก๊งอาชญากรเบอร์ 1 ของยุโรปนั้น ชื่อเสียงของ แดเนียล ที่เข้ามาชุบตัวในวงการมวยพอมีส่วนสำคัญพอสมควรเลยทีเดียว ยิ่งมวยดีเท่าไหร่ งานสีดำของเขาก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น นั่นคือความสัมพันธ์ที่รัฐบาลไอร์แลนด์อยากจะล้มล้าง
รัฐบาลไอร์แลนด์ แทบพลิกแผ่นดินล่า คินาฮาน ในช่วงปลายปี 2020 พวกเขาติดต่อไปยัง ยูเออี เพื่อสืบหาตัว คินาฮาน ให้เจอ ขณะเดียวกันสื่อฝั่งอังกฤษอย่าง BBC ก็ได้ทำเรื่องราวตีแผ่ความเน่าเฟะหลังฉากยอดโปรโมเตอร์ของ คินาฮาน เป็นหนังสารคดีที่ออนแอร์ในช่อง BBC Panorama อีกด้วย
การลุกฮือเพื่อไม่ต้องการให้ คินาฮาน มีที่ยืนในสังคม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเกินจริงครั้งนั้นถูกจุดติดจนเป็นกระแส คนในวงการมวยที่รู้ทั้งรู้ แต่อยู่กับ คินาฮาน ได้ก็เพราะเหตุผลเรื่องเงิน จึงเริ่มโดนกดดันมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ายมวยไหนที่มีชื่อ แดเนียล คินาฮาน เป็นที่ปรึกษา ก็โดนกดดันจนต้องถอดชื่อเขาออกจากค่ายทั้งหมด แม้กระทั่งนักชกคู่ใจที่สร้างกันมาอย่าง ไทสัน ฟิวรี และ บ็อบ อารัม เพื่อนซี้วงการเดียวกัน ก็ยังต้องประกาศยุติความสัมพันธ์กับ แดเนียล คินาฮาน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองอีกด้วย
ทุกวันนี้ว่ากันว่าเขายังอยู่ในดูไบ และมีอะไรให้ทำไม่มากนัก แม้การเข้ามาในวงการมวยจะทำให้ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือ ได้รู้จักคนใหญ่คนโตและคนดังในวงการกีฬารวมถึงวงการสื่อ แต่ที่แน่ ๆ มันได้สอนให้เขารู้ว่า “จงอย่าเด่นจะเป็นภัย” ได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายความผิดทั้งหมดที่เขาเคยก่อ ก็ไม่อาจชุบตัวใหม่ด้วยชีวิตในวงการมวยได้ เขาโดนกันฉากออกไปและบีบให้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะ “บอส” ของ คินาฮาน คาร์เทล แต่เพียงอย่างเดียว โลกสีขาวหายไป เหลือแต่โลกสีดำเท่านั้นที่พร้อมเปิดต้อนรับคนที่ทำผิดซ้ำซากและไม่กลัวกฎหมายอย่างเขา
สิ่งดีจากการเข้าสู่วงการกำปั้นของ แดเนียล คินาฮาน คือการสร้างกระแสมวยรุ่นใหญ่ให้จุดติดขึ้นมาได้ และเหนือสิ่งอื่นใด คือการสร้าง ไทสัน ฟิวรี ขึ้นมาใหม่จนกลายเป็นยอดมวยราวกับปาฏิหาริย์ … ข้อดีมีเท่านี้จริง ๆ