สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งกับ Sanook คลุกข่าวเช้า ประจำวันอังคารที่ 23 มี.ค. 2564 ที่มาพร้อมกับข่าวที่น่าติดตาม รายงานด้วยฟังก์ชัน Text to Speech ที่ระบบ AI ของเรา จะทำหน้าที่อ่านข่าวให้คุณฟัง ทุกที่ทุกเวลา เพียงกดปุ่มรูปลำโพงสีเขียวด้านบน ก็สามารถรับฟังข่าวได้ง่ายๆ ทันที
เริ่มกันที่ข่าวแรก สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เรือขนส่งสินค้าเอฟเวอร์กิฟเวน เป็นอิสระแล้ว หลังขวางคลองสุเอซนานเกือบ 1 สัปดาห์ จากฝีมือการกู้เรือของผู้เชี่ยวชาญจาก SMIT Salvage Papendrecht พร้อมเรือพ่วงทั้งหมด 11 ลำ และเรือเดินสมุทร 2 ลำ โดยใช้วิธีเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์บนเรือออกเพื่อให้เรือมีน้ำหนักเบาลง ตามด้วยการขุดทรายราว 30,000 คิวบิกเมตร
เมื่อเรือยักษ์สามารถกลับมาลอยลำได้อีกครั้ง เหล่าคนขับเรือพ่วงต่างก็บีบแตรเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ และเรือเอฟเวอร์กิฟเวนจะถูกเคลื่อนย้ายออกไป เพื่อนำไปสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการจราจรทางเรือจะกลับมาใช้การได้อย่างเต็มที่เมื่อไร อีกทั้งการค้าระดับสากลที่หยุดชะงักอาจจะยังไม่สิ้นสุดลงทันทีที่เรือเอฟเวอร์กิฟเวนกลับมาลอยลำได้อีกครั้ง เนื่องจากมีเรือขนส่งกว่า 370 ลำ ที่รอแล่นผ่านคลอง และอาจจะต้องใช้เวลาหลายวันในการเคลียร์เรือเหล่านี้ นอกจากนี้ ยังมีเรืออีกจำนวนมากที่ตัดสินใจแล่นออกจากพื้นที่ และใช้เส้นทางการขนส่นที่ยาวกว่า ซึ่งอาจส่งผลให้เดินทางไปยังจุดหมายช้ากว่ากำหนด รวมทั้งยังต้องเผชิญกับท่าเรือที่หนาแน่นด้วย
ต่อกันที่ประเด็นเกี่ยวกับการเมืองไทยกันบ้าง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญา รัชดา ได้นัดตรวจหลักฐานคดีการชุมนุม #19กันยาทวงคืนอำนาจราษฎร โดยมีจำเลยทั้งหมด 22 คน ประกอบด้วยแกนนำผู้ชุมนุมอย่าง อานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้มหรือหมอลำแบงค์, ไผ่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก, แอมมี่ ไชยอมร, รุ้ง ปนัสยา, และชูเกียรติหรือจัสติน และจำเลยที่ได้รับการประกันตัวอีก 13 คน
รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้อ่านคำแถลงต่อศาลทั้งน้ำตาว่า เธอรู้สึกดีใจที่ศาลให้โอกาสในการสู้คดี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับโอกาสนี้ ทำให้เธอกลัวว่าเพื่อนจะเป็นอะไรไป และหากเธอไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวอีก จะขอประกาศอดอาหาร โดยจะเริ่มจากการรับประทานวันละมื้อ และลดลงเหลือรับประทานแค่น้ำ นม และสารอาหาร พร้อมระบุว่า “ขอให้การตายของเราเป็นสายธารนำความหวังสู่สังคม”
ปิดท้ายด้วยกรณีชาวกะเหรี่ยงจากเมียนมากว่า 2,000 คน ที่อพยพหนีการโจมตีของกองทัพเมียนมา เข้าสู่ชายแดนไทยใน จ.แม่ฮ่องสอน ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลจากนักเคลื่อนไหวของเมียนมาว่า ทางการไทยได้ผลักดันชาวกะเหรี่ยงกลุ่มนี้กลับไปยังรัฐกะเหรี่ยงแล้ว
นายเดวิด โอแบงก์ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Free Burma Rangers ระบุว่า ชาวกะเหรี่ยง 2,009 คน ถูกผลักดันกลับไปที่ค่ายผู้อพยพอิตูท่า ที่อยู่ในฝั่งเมียนมาอีกครั้ง หลังจากหนีข้ามมายังฝั่งไทย และหลายคนเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากการสู้รบ ส่วนนายมาร์ก ฟาร์มาเนอร์ หัวหน้ากลุ่ม Burma Campaign UK กล่าวกับรอยเตอร์ว่ายังคงมีเครื่องบินรบอยู่เหนือบริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของจังหวัดคนหนึ่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ผู้อพยพกลุ่มนี้ยังไม่ได้ถูกผลักดันกลับประเทศ แต่ยังอยู่ในเขตชายแดนไทย บริเวณแม่น้ำสาละวิน และอยู่ในการควบคุมของทหารไทย โดยเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปดูแลให้อยู่ในบริเวณที่กำหนด และในบ่ายวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะแถลงข่าวอธิบายถึงแผนรับมือผู้อพยพต่อไป
