เศรษฐา แจงชัด กระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่น ไม่ใช่คริปโต โอน-เทรดไม่ได้ เผยสาเหตุ ทำไมต้องอายุ 16 ปี เย้ย บิ๊กตู่ บอกชาวบ้านโอดไม่อยากให้ทำต่อแล้ว
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 เม.ย. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการ ‘กรรมกรข่าวเปิดอกคุย’ ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ถึงกรณีนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เอาเงินมาจากไหน ว่า เราต้องใช้เงินทั้งหมดประมาณ 5 แสนล้านบาท เพื่อไปให้คนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ที่มาของเงินตรงนี้ ครึ่งหนึ่งมาจากเงินงบประมาณปี 2567 เราจะเก็บได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยที่สุดประมาณ 2.6 แสนล้านบาท
นายเศรษฐา กล่าวว่า สมมติว่าเราจะเริ่มใส่เงิน 5 แสนล้านบาท เข้าไปในระบบไตรมาสแรกของปีหน้า ก่อนหน้านั้นจะมีการจ้างงาน ซื้อวัสดุ เพื่อเตรียมสินค้ามารองรับ เป็นการกระตุ้นรอบแรก โดยเราจะได้จากเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ทั้งภาษีนิติบุคคลที่เริ่มมีกำไร ที่สำคัญโครงการนี้ไม่ต้องกู้เงินมาใช้เด็ดขาด
เมื่อถามว่า ทำไมกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ต้องเป็นอายุ 16 ปี นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าเกิดบอกว่า 18 ปี หรือ 20 ปี ก็จะมองว่ามีวาระซ้อนเร้นซื้อเสียงหรือเปล่า ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าอายุ 16 ปี มีวุฒิภาวะพอแล้ว เมื่อถามกรณีมีการวิจารณ์ว่า คนรวยก็ได้ ทำไมไม่แจกคนจนอย่างเดียว นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญระบุว่าต้องเท่าเทียมกัน คนที่เดือดร้อนก็ได้ คนรวยคนจนได้เหมือนกัน
เมื่อถามว่าทำไมต้องใช้ในระยะ 4 ตารางกิโลเมตร นายเศรษฐา กล่าวว่า เราต้องการกระจายการใช้จ่ายไปทุกภูมิภาค ไม่กระจุกที่ห้างใหญ่ๆ และสามารถใช้ซื้อของได้หมด ทั้งเครื่องมือเกษตร และสินค้าต่างๆ แต่ห้ามเอาไปซื้อเหล้า ซื้อบุหรี่ ใช้หนี้ และห้ามซื้อของออนไลน์ เพราะไม่ถือเป็นการซื้อในชุมชน คนทำงานที่กรุงเทพฯ ก็ต้องกลับไปใช้ที่บ้านเกิดที่ต่างจังหวัด เราถึงมีเวลาให้ใช้ 6 เดือน เชื่อว่าทุกคนต้องกลับไปเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องที่บ้านเกิด
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ใช้แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ทำไมต้องไปทำเป็นบล็อกเชน นายเศรษฐา กล่าวว่า เพราะเราต้องกำหนดเงื่อนไขในการใช้ จำกัดสินค้าที่สามารถใช้ได้ รวมทั้งพื้นที่ที่สามารถใช้เงินได้ มันคือคูปอง 1 หมื่นบาทที่ใส่ในกระเป๋าเงินดิจิทัล จะใช้วันเดียว หรือทยอยใช้ภายใน 6 เดือนก็ได้ ถ้าครบ 6 เดือนจะหมดอายุ คูปองใช้ไม่ได้แล้ว
“คูปองนี้โอนไม่ได้ ไม่มีการเทรดในตลาด ไม่ใช่เหรียญคริปโต เป็นคูปองที่เปลี่ยนจากบัตรเป็นใบๆ ไปอยู่ในมือถือแทน เอาไปเก็งกำไรไม่ได้ 1 หมื่นก็คือ 1 หมื่น ไม่มีขึ้นมีลง โอนขายก็ไม่ได้ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับแสนสิริ ทั้งนี้ นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ไม่ต้องแก้ไขกฎหมายอะไร เพราะที่ผ่านมาก็ทำอยู่แล้ว ทั้งคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะเติมเงินให้ครอบครัวที่รวมแล้วมีรายได้เดือนละไม่ถึง 2 หมื่นบาท เช่น รวมแล้วมีรายได้ 1.5 หมื่นบาท เราจะเติมให้ 5 พันบาท เติมไปจนกว่าเขาจะมีรายได้เดือนละ 2 หมื่นบาท ยืนยันนโยบายทุกอย่างของเพื่อไทย ทำได้จริง ไม่ว่าจะเป็น ค่าแรงขั้นต่ำ 600 ภายใน 4 ปี เงินเดือนป.ตรี 2.5 หมื่นบาทภายใน 4 ปี
เมื่อถามกรณีมีคนสบประมาทว่า นายเศรษฐาต้องเชื่อฟังนายใหญ่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมฟังเสียงประชาชน ไม่มีใครสั่งผมได้ นอกจากประชาชน แต่การเห็นตรงกันไม่ใช่การสั่งนะครับ”
เมื่อถามกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุตอนนี้เศรษฐกิจกำลังโต นักท่องเที่ยวก็มาแล้ว ขอทำต่อ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้เราอยู่ในหลุมดำ เศรษฐกิจไทยโตแค่ 2.3% เพื่อนบ้านโต 7-8% ตามหลักสากลถือว่าเรายังไปไม่ถึงศักยภาพที่คนไทยทำได้ ตอนนี้ลงพื้นที่มีแค่คนบอกว่าพอแล้ว เบื่อแล้ว ไม่อยากให้ทำต่อแล้ว
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66