เมียห้ามไม่ฟัง ผัวฝืนขี่จยย.ออกจากบ้านตอนหัวค่ำ สุดท้ายกระบะพุ่งเสยดับสลด

Home » เมียห้ามไม่ฟัง ผัวฝืนขี่จยย.ออกจากบ้านตอนหัวค่ำ สุดท้ายกระบะพุ่งเสยดับสลด



เมียห้ามไม่ฟัง ผัวฝืนขี่จยย.ออกจากบ้านตอนหัวค่ำ สุดท้ายกระบะพุ่งเสยดับสลด ร่างลอยกระเด็น 15 เมตรดับคาที่ ส่วนรถถูกลากไปไกลกว่า 30 เมตร

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 22 พ.ค.2566 ร.ต.อ.อติวัฒน์ ศักดิ์สูง รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองตรุด รับแจ้งเหตุรถจยย.พุ่งชนรถกระบะมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนถนนสายนาโต๊ะหมิง-โคกยาง พื้นที่ หมู่ 4 บ้านทำเล ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ตรัง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) และหน่วยกู้ภัยบรรเทานาโต๊ะหมิง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน ค่อนข้างมืด มีรถบรรทุกวิ่งเกือบตลอดเวลา ริมถนนฝั่งซ้าย พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮฮนด้า เวฟ 100 สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน ขตธ 145 ตรัง สภาพพังยับเยินทั้งคัน พุ่งชนติดอยู่กับหัวรถด้านขวาของรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บต 9349 ตรัง โดยหัวรถยนต์คันกระบะมีรอยเลือดติดอยู่จำนวนมาก ถัดออกไปในพงหญ้าหลังรถยนต์กระบะประมาณ 15 เมตร

พบร่างของของนายณัฐพงศ์รี อายุ 44 ปี อาชีพ รปภ.โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา นอนหงายหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด ในสภาพคอหัก ถัดออกไปจากร่างผู้เสียชีวิตบนเลนถนนฝั่งขวา พบมีร่องรอยรถครูดกับพื้นถนน ซึ่งเป็นจุดที่ถูกชน ลากไปจรดจุดที่รถกระบะและรถจักรยานยนต์จอดอยู่ระยะทางประมาณ 30 เมตร มีเศษอะไหล่รถแตกกระจาบเกลื่อนพื้นถนน

จากการสอบสวนพยาน เบื้องต้นทราบว่า รถกระบะมีคนขับเป็นชายขับมาเพียงคนเดียว ซึ่งไม่ได้ใช้ความเร็วสูง ขับมุ่งหน้ามาในเลนจากฝั่งบ้านโคกยาง เพื่อมุ่งหน้าไปบนถนนสายตรัง-สิเกา ส่วนผู้ตายได้ขับมาในเลนที่จะมุ่งหน้าไปบ้านโคกยาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถจยย.ได้ขับมาในความเร็ว ก่อนข้ามเลนไปพุ่งชนกับรถกระบะที่ขับอยู่ในเลนของตน จนกระเด็นไปอยู่ในพงหญ้าข้างทางประมาณ 15 เมตร ก่อนที่รถยนต์กระบะจะลากรถจยย.ติดไปด้วยอีกประมาณ 30 เมตร จนเป็นเหตุสลดดังกล่าว

สอบถามนางลัดดาวัลย์ อายุ 43 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า วันนี้สามีไม่ได้อยู่เวร รปภ.ที่ทำงาน โดยสามีขับรถออกจากบ้านในพื้นที่ ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง เวลาประมาณ 18.30 น. เพื่อจะนำหมากกับถั่วฝักยาวมาขายให้กับเพื่อนๆในโรงงานที่สามีทำงานอยู่ โดยที่ตนเองเตือนและห้ามแล้วว่าอย่าออกมาเลย เพราะมืดค่ำแล้ว ค่อยเอาออกมาขายในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) ซึ่งสามีก็ต้องมาเข้าเวรทำงานอยู่แล้ว ค่อยเอามาทีเดียวเลย

แต่สามีก็ไม่ฟังและไม่ยอมยังคงขับออกมา ก่อนที่เพื่อนบ้านจะโทรมาบอกว่าสามีขับรถพุ่งชนรถยนต์กระบะเสียชีวิตแล้วจึงได้รีบมาที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อมาดูแล้วเวลาเกิดเหตุเขากำลังจะขับกลับบ้านแล้ว โดยปกติก็ใช้ถนนสายนี้ไปกลับบ้านเป็นประจำอยู่ในทุกๆวัน ส่วนตนและสามีมีลูกด้วยกัน 3 คน และถือว่าเขาเป็นเสาหลักของบ้านในการเลี้ยงดูครอบครัว

อย่างไรก็ตามทางคนขับรถยนต์กระบะไม่ได้รออยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ได้เดินทางไปรอให้การกับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.หนองตรุด พร้อมกับพยานที่เห็นเหตุการณ์จำนวน 2 ปาก หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ