เพื่อไทย ซัด 8 ปีปราบโกง แค่คำลวง ‘ประยุทธ์’ บี้สอบคนใกล้ตัว เอี่ยวทุจริตเพียบ

Home » เพื่อไทย ซัด 8 ปีปราบโกง แค่คำลวง ‘ประยุทธ์’ บี้สอบคนใกล้ตัว เอี่ยวทุจริตเพียบ



เพื่อไทย ซัด 8 ปีปราบโกงแค่คำลวง “ประยุทธ์” บี้สอบหลังมีกระแสข่าวคนใกล้ตัวเอี่ยวปมทุจริตเพียบ ฉะ ถ้ายังดื้อไปต่อ เลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะไม่ทนอีกต่อไป

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2566 น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขณะนี้การทุจริตคอร์รัปชั่นกลายเป็นปัญหาพัวพันในทุกแวดวง ทั้งราชการ การเมือง และธุรกิจสีเทาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ดูเหมือนว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีท่าทีเมินเฉย ไม่เร่งรัดให้มีการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ซ้ำยังแสดงท่าทีฉุนเฉียวเมื่อถูกสื่อสอบถาม กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดโปงข้อมูลโยงถึงหลานชายของพล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีความเกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทานายตู้ห่าวอีกด้วย

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทย พยายามเปิดโปงการทุจริต คอร์รัปชั่นต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง คู่ขนานไปกับความเข้มแข็งของภาคประชาชน ที่แฉข้อมูลกดดันให้กระบวนการตรวจสอบต้องเดินหน้า แต่หลายเรื่องเมื่อเข้าสู่กระบวนการของรัฐ กลับทำให้ประชาชนเกิดคำถามและข้อสงสัยว่าเหตุใดหน่วยงานด้านการตรวจสอบ ไม่กล้าทำหน้าที่เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างที่ควรจะเป็น

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยให้คำมั่นต่อประชาชนว่าจะเข้ามาปราบโกง ขจัดนักการเมืองไม่ดีออกไป แต่จนถึงขณะนี้สถานการณ์ปราบโกงที่พล.อ.ประยุทธ์ มุ่งมั่นจะทำกลับเลวร้ายลง ยืนยันได้จากดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ประจำปี 2564 ไทยได้เพียง 35 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 110 ของโลก อันดับแย่ที่สุดนับตั้งแต่จัดอันดับมา

การทุจริตยังได้เบ่งบานผลิดอกออกผลไปถึงบุคคลแวดล้อมพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสิ้น ได้แก่ 1.กรณีพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายพล.อ.ประยุทธ์ เคยถูกร้องเรียนต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ถึง 2 ครั้งว่า จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า รวมถึงการตรวจสอบที่มาของที่อยู่อาศัยระดับคฤหาสน์ที่ จ.พิษณุโลก ของพล.อ.ปรีชา ทั้ง 2 กรณี ป.ป.ชมีมติชี้ไม่ผิด และมีคำชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนา ขณะเดียวกันประชาชนเกิดความสงสัยว่ารายได้มากมายของภรรยา พล.อ.ปรีชา มาจากไหน จึงมีเงินฝากรวม 46 ล้านบาท ทั้งที่ พล.อ.ปรีชาแจ้งว่าภรรยาไม่มีรายได้ และไม่ได้ประกอบธุรกิจใด

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวอีกว่า 2.บริษัทของหลานชายพล.อ.ประยุทธ์ ถูกกล่าวหาว่าจดทะเบียนบริษัทในค่ายทหาร แต่กลับชนะการประมูลโครงการของรัฐ วงเงินรวมหลายร้อยล้านบาท เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.มากว่า 4 ปีแล้ว 3.อธิบดีกรมหนึ่งที่เพิ่งถูกเปิดโปงว่าเรียกรับสินบน มีรายงานข่าวว่าอธิบดีคนดังกล่าวเป็นน้องชายเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารของพล.อ.ประยุทธ์

4.ล่าสุดตามที่นายชูวิษฎ์ กล่าวหาว่าหลานชายพล.อ.ประยุทธ์ พัวพันกับทุนจีนนายตู้ห่าวหรือไม่ ต้องไปตรวจสอบ ทั้งนี้ การที่พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยปละละเลยแสวงหาข้อเท็จจริง ในการตรวจสอบบุคคลแวดล้อม ว่าทุจริตตามที่ถูกกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง มีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อทำให้ความจริงปรากฏ

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า หากไม่เร่งดำเนินการอาจทำให้เกิดข้อครหาในสังคมได้ว่า การเพิกเฉย ละเลย เท่ากับเป็นการรู้เห็นเป็นใจใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำรัฐบาล เป็นผู้นำสูงสุด มีอำนาจหน้าที่สั่งการทุกหน่วยงานในการเอาผิด หากเป็นผู้นำที่มีความสามารถผลลัพธ์คงดีกว่านี้ เพราะทั้งหมดไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล แต่เป็นหน้าที่ของคนเป็นผู้นำต้องทำให้กระจ่างชัดกับสังคม

“8 ปีที่ผ่านมาได้ก่อร่างสร้างระบอบลุงเรืองอำนาจ ข้ออ้างรัฐประหารปราบโกง โดยคนดี ซื่อสัตย์ เสียสละ คือคำลวง วันนี้ประชาชนตื่นรู้ หยุดสร้างวาทกรรมโทษคนอื่น แต่จงหันมองกระจก พิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำ ถ้ายังคิดไม่ได้และยังจะขอไปต่อ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยไม่ทนกับคนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ อีกต่อไป” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ