เพื่อไทยเตือน ‘ประยุทธ์’ อย่าเพิกเฉย ปมจนท.ใช้ความรุนแรง เย้ยไม่ต่างพม่า แนะรัฐบาลเปิดใจฟังประชาชน ชี้ยิ่งปิดกั้นยิ่งเสื่อมศรัทธา

เมื่อวันที่ 15 พ.ย.64 น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมีผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายจากการถูกยิงด้วยกระสุนยางและได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย กระสุนเข้าที่ปอด ไม่ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่จะเป็นไปเพื่อป้องปราม หรือป้องกัน แต่เจ้าหน้าที่รัฐต้องพึงตระหนักตลอดเวลาว่าระหว่างการชุมนุม มีแนวโน้มจะเพิ่มความเสี่ยงกับผู้ชุมนุม อาจได้รับบาดเจ็บหากมีการใช้กระสุนยางกับผู้ชุมนุม อาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะสำคัญ และอาจทะลุลำตัวผู้โดนยิงเมื่ออยู่ในระยะประชิดและจำนวนหลายนัด

น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐ ถือเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักสิทธิมนุยชนของสหประชาชาติ ว่าด้วยการใช้อาวุธที่มีความร้ายแรงต่ำในการบังคับใช้กฎหมาย (United Nations Human Rights Guidance on Less-Lethal Weapons in Law Enforcement) ของ OHCHR กำหนดวิธีการใช้กระสุนยาง (KINETIC IMPACT PROJECTILES) ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่รัฐควรมีความอดทนอดกลั้น และควรเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าการใช้ความรุนแรงไม่เคยแก้ปัญหา แต่จะทำให้เกิดความเกลียดชัง และยิ่งผลักให้ประชาชนมองรัฐคือศัตรู เส้นทางสู่ความประณีประนอมเพื่อหาทางออกร่วมกันจะยิ่งเกิดขึ้นได้ยาก ยิ่งเมื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และวุฒิสภา เหมือนปิดประตูจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนวาระที่ 1 ที่กำลังจะเข้าสู่สภาในวันที่ 16 พ.ย.นี้ สถานการณ์ขณะนี้จึงเป็นสถานการณ์ที่เปราะปรางและน่าห่วงใย ทั้งนี้ รัฐบาลควรเปิดใจรับฟังเพราะยิ่งปิดกั้นยิ่งยั่วยุและทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อระบบรัฐสภา

“ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ไขความขัดแย้งด้วยการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของกฎหมาย ทำให้เกิดคำถามกับสังคมมาตลอดถึงเรื่องความยุติธรรมและการเลือกปฏิบัติหรือไม่ รัฐบาลใดที่ประชาชนมีคำถามถึงความยุติธรรม และรัฐบาลนั้นแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรง จงอย่าอ้างความเป็นประชาธิปไตยเพียงมาจากการเลือกตั้ง เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเพิกเฉยและละเลยกับการที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงและไม่เคยหาผู้กระทำผิดได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับประเทศพม่า เศรษฐกิจพังและประชาคมโลกเมิน” น.ส.อรุณี กล่าว