เปิด! หลักเกณฑ์อภัยโทษ คาด ‘ทักษิณ’ มีสิทธิ์ ถูกปล่อยตัว ก่อนครบ 1 ปี

Home » เปิด! หลักเกณฑ์อภัยโทษ คาด ‘ทักษิณ’ มีสิทธิ์ ถูกปล่อยตัว ก่อนครบ 1 ปี
เกณฑ์อภัยโทษ-01-min

เปิด! หลักเกณฑ์อภัยโทษ คาด ‘ทักษิณ’ เข้าข่ายการแบ่ง ผู้ต้องขัง มีสิทธิ์ ถูกปล่อยตัว ก่อนครบ 1 ปี

ยังคงเป็นที่จับตามองสำหรับกรณีอาการป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา แล้วได้มีการคุมตัวเข้ากรมราชทัณฑ์ ในทันที

ด้าน นายวิษณุ เครืองาม เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษจาก นายทักษิณ ชินวัตร แล้ว แต่ยังอยู่ในขอตรวจสอบเอกสารก่อน และยังไม่บอกนำส่งขึ้นทันรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ พร้อมขอยืนยันด้วยเครดิตตนเองที่มีว่า ทักษิณยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.19 น. ของวันที่ 1 ก.ย. 66 ได้รับรายงานว่า ในหลวงพระราชทานอภัยโทษ “ทักษิณ ชินวัตร ” ให้เหลือ จำคุก แค่ 1 ปี โดยมี “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ลงนามรับสนองฯ ซึ่ง ถ้าอ้างอิงจากเอกสารของทาง สารพันปัญหากฏหมายของทาง เรือนจำกลางบางขวาง นายทักษิณ อาจจะเข้าข่ายหลักเกณฑ์ในการ ขอลดโทษเพิ่ม / ขออภัยโทษเพิ่ม หรือ อาจจะถึงขั้นที่ว่า ถูกปล่อยตัวได้

การอภัยโทษ

มีเพื่อจูงใจให้ผู้ต้องขังประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยเรือนจำ และพัฒนาพฤติกรรมนิสัย พร้อมกลับประพฤติตน เป็นพลเมืองดีของสังคม โดยให้ได้รับการอภัยโทษตามความร้ายแรงของประเภทคดี และลดหลั่นกันไปตามชั้น ของนักโทษเด็ดขาด ซึ่งนักโทษที่จะได้รับอภัยโทษ (ไม่ว่าลดโทษหรือปล่อยตัว) ต้องผ่านระยะปลอดภัย คือ ต้องรับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือรับโทษจำคุกมาแล้ว 8ปี (แล้วแต่ระยะเวลาใดถึงก่อน) และไม่ว่าจะเป็นนักโทษชั้นใด หลังจากนั้นจะมาดูอายุ สุขภาพ การจัดชั้น เพื่อลดโทษ ยกเว้นแต่เป็นการถวายฎีกาเฉพาะราย เป็นตามหลักอาชญาวิทยาและทัณฑวิทยา รวมทั้งเป็นหลักการสากลการอภัยโทษ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ เป็นการทั่วไป และเป็นการเฉพาะราย

การพระราชทานอภัยโทษจึงเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ อันนับเนื่องในพระมหากรุณาธิคุณส่วนหนึ่ง การพระราชทานอภัยโทษนั้น จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีผู้ร้องขอหรือถวายเรื่องต่อพระมหากษัตริย์ และใช้เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้กระทำความผิดแล้วเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษนั้นไม่ต้องรับโทษอีกเลยหรือลดโทษให้มีการรับโทษแต่เพียงบางส่วน ทั้งนี้ผลของการพระราชทานอภัยโทษนั้นหาทำให้สิทธิต่าง ๆ ที่ต้องสูญเสียไปเพราะคำพิพากษากลับคืนมาไม่สามารถแบ่งประเภทของการพระราชทานอภัยโทษได้ ดังนี้

  • วิษณุ เผย ‘รบ.ประยุทธ์’ เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษ ‘ทักษิณ’
  • ด่วน! ในหลวงพระราชทานอภัยโทษ “ทักษิณ” เหลือจำคุก แค่ 1 ปี
  • จบดรามา! ‘ปังชา’ ล่าสุด ร้านดังกลับลำ คำนี้ใครก็สามารถใช้ได้

1.การพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป คือ การพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องโทษ
ในกรณีนี้ ทางราชการจะดำเนินการให้แก่ ผู้ต้องโทษในทุกขั้นตอน โดยที่ผู้ต้องโทษไม่ต้องดำเนินการใด ๆ การพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป มักจะมีขึ้นในวโรกาสมหามงคลต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานบันพระมหากษัตริย์ เช่น เนื่องในโอกาสพระราชพิธี กาญจนาภิเษก รัชมังคลาภิเษก ฯลฯ เป็นต้น
2.การพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย คือ การพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องโทษ
เป็นรายบุคคล โดยการทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ตามการถวายคำแนะนำของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ส่วนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษหรือไม่เพียงใดขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัยขององค์พระมหากษัตริย์ ผู้ที่มีสิทธิยื่นเรื่องทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย ได้แก่
– ผู้ต้องโทษที่คดีถึงที่สุด
– ผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง อาทิเช่น บิดามารดา บุตร คู่สมรส
– สถานทูต (ในกรณีที่เป็นนักโทษชาวต่างประเทศ)
หมายเหตุ : ทนายความไม่ถือว่าเป็นผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง
ระยะเวลา การยื่นฎีกาทูลเกล้า ฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย
– ผู้ต้องโทษกรณีทั่วไป ยื่นได้ทันทีที่คดีถึงที่สุด
– ผู้ต้องโทษประหารชีวิต ต้องยื่นภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด

หลักการการอภัยโทษทุกครั้งจะมีการแบ่งผู้ต้องขัง ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

1. ผู้ได้รับการปล่อยตัว
– ผู้ต้องกักขัง
– ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ
– ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ ที่เป็นผู้เจ็บป่วย พิการ ชราภาพ
– นักโทษเด็ดขาดที่เป็นผู้พิการ เจ็บป่วย ชราภาพ หรือได้รับโทษจำคุกมานานจนใกล้จะพ้นโทษแล้ว (เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี)
-นักโทษที่ได้รับการพัฒนาพฤตินิสัยจนได้รับการเลื่อนชั้นเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม เหลือโทษไม่เกิน 2 ปี

ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับการปล่อยตัวจะต้องเป็นนักโทษตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไป ไม่เป็นผู้กระทำความผิดซ้ำ และไม่เป็นผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรง เช่น ปล้น ฆ่า ข่มขืน คดีทุจริตฯ หรือคดียาเสพติดให้โทษ

2.ผู้ได้รับการลดโทษ
แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตามความร้ายแรงของคดี และได้รับการลดโทษ ตามชั้นนักโทษเด็ดขาด
– คดีอาญาทั่วไป ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 2 จนถึงชั้นกลาง ลดโท1 ใน 5
– คดีอาญาร้ายแรงตามบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน3 จนถึงชั้นกลาง ลดโทษ1 ใน6
– คดียาเสพติดรายย่อย ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 5 จนถึงชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 8
-คดียาเสพติดรายใหญ่ (ต้องได้รับโทษจำคุกมาระยะหนึ่งแล้ว โดยจะไม่ได้อภัยโทษในครั้งแรก) ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 6 จนถึงชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 9

3.ผู้ไม่ได้รับการลดโทษ
แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม
– นักโทษเด็ดขาดประหารชีวิตที่เคยได้รับการลดโทษแล้ว
– นักโทษคดียาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งได้รับโทษจำคุกมาไม่นาน
– ผู้กระทำความผิดซ้ำที่ไม่ใช่นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม
-นักโทษชั้นต้องปรับปรุงหรือชั้นต้องปรับปรุงมาก หรือกระทำความผิดอาญาร้ายแรง เช่น ฆ่า ข่มขืน จึงถูกจัดเป็นชั้นต้องปรับปรุงมาก หรือกระทำผิดระเบียบวินัยเรือนจำ จึงถูกลงโทษลดชั้น

ที่มา : หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขออภัยโทษ

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ