เปิดตัว 4 หนุ่ม วายเลือดใหม่ ประเดิมซีรีส์ LAPLUIE “ฝนตกครั้งนั้น ฉันรักเธอ”

Home » เปิดตัว 4 หนุ่ม วายเลือดใหม่ ประเดิมซีรีส์ LAPLUIE “ฝนตกครั้งนั้น ฉันรักเธอ”



เปิดตัว 4 หนุ่มนักแสดง วายเลือดใหม่ ประเดิมซีรีส์ LAPLUIE “ฝนตกครั้งนั้น ฉันรักเธอ” เคมีน่าจับตา เล่าฉากจูบสุดฟิน

เปิดตัว 4 หนุ่ม วายเลือดใหม่ / หลังจากที่นักธุรกิจหมื่นล้าน ณัฐพล จุฬางกูร จับมือ 2 หุ้นส่วน เอก รัฐวิชญ์ และ ครูล๊อต จิรันธนิน เปิดบริษัท แอคท์แทรคชั่น จำกัด ประเดิมซีรีส์วายเรื่องแรก LAPLUIE “ฝนตกครั้งนั้น ฉันรักเธอ” งานนี้เหล่านักแสดงนำหน้าใหม่กลายเป็นที่จับตาทันที

ซึ่งประกอบไปด้วย เสือ-กฤษณะพงศ์ ศรีภัททิยานนท์, ไตเติ้ล ธนธร เสนางคนิกร, พี พีรวิชญ์ พลอยนำพล และ คอปเตอร์ นันทพงศ์ วงศ์สกุลยง ล่าสุดทั้ง 4 คน จับเข่าเล่าถึงบทบาท การทำงาน และความคาดหวังให้ฟัง

โดย เสือ กฤษณะพงศ์ กล่าวว่า “ผมรับบท แสงเทียน เป็นตัวละครที่อเลิร์ตและใช้พลังเยอะมากในการเล่น นิสัยตรงๆ คิดอะไรก็พูดออกมาเลย สิ่งที่ใกล้เคียงตัวเองคือเวลาอยู่กับคนเยอะๆ เราก็จะมีพลังอะไรบางอย่างที่ทำให้คนรอบข้างหัวเราะได้ แต่ต่างกันตรงที่เสือไม่ได้ใช้เอ็นเนอร์จี้เยอะเท่าแสงเทียน”

ไตเติ้ล ธนธร กล่าวว่า “ผมรับบท แสงใต้ คาแร็กเตอร์มองภายนอกเป็นอินโทรเวิร์ต อยู่กับคนภายนอกจะนิ่งๆ แต่ว่าในใจเขาเป็นคนปกติเพียงแต่ไม่แสดงออกให้คนภายนอกรู้เลย ตัวละครนี้เล่นยากพอสมควรเพราะการแสดงออกเวลาอยู่กับแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งตัวจริงของผมก็อินโทรเวิร์ตแต่ไม่ได้เท่าแสงใต้”

พี พีรวิชญ์ กล่าวว่า “ผมรับบท พรรษ เป็นสัตวแพทย์ เฟรนด์ลี่ มองโลกในแง่ดี แล้วก็เชื่อในเรื่องโซลเมต สิ่งที่เหมือนกันคือผมเรียนฉุกเฉินการแพทน์ เลยมีชุดคำพูดที่เวลาเราพูดกับคนไข้ก็ค่อนข้างจะเป๊ะ หรือหัตถการทางการแพทย์ก็สามารถเอามาใช้ในเรื่องได้จริงๆ รวมถึงความสามารถที่เล่นกีตาร์ได้ร้องเพลงได้ ตรงนี้ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้จัดเล็งเห็นและให้โอกาสได้เล่นเรื่องนี้ ส่วนความต่างก็คงจะเป็นอายุเพราะพรรษจะอายุมากกว่าผมจริงๆ 2 ปี”

คอปเตอร์ นันทพงศ์ กล่าวว่า “ผมรับบท ลมฝน ตัวละครนี้ไม่ได้อยู่ในนิยายตั้งแต่แรก พี่ๆ เพิ่มขึ้นมา คาแร็กเตอร์นิ่งๆ ไม่ได้แสดงออกผ่านทางคำพูดมากเท่าไหร่ แต่เป็นคนที่มีอะไรก็จะทำตามความรู้สึกของตัวเอง สิ่งที่คล้ายกับตัวเองคือผมมีความเชื่อของตัวเองสูงเหมือนลมฝน แต่ที่ต่างคือลมฝนกล้าที่จะทำมากกว่าผม”

ความเป็นซีรีส์วายในทัศนคติของแต่ละคน? พี พีรวิชญ์ กล่าวว่า “ผมมองว่ามันเหมือนกับซีรีส์ชายหญิงทั่วไป ความที่เราเคยเรียนแอ๊กติ้งเพื่อไปแคสต์ละครที่เป็นชายหญิง พอวันหนึ่งที่ผมมีโอกาสได้มาลองแคสต์ซีรีส์วายกระบวนการทุกอย่างมันเหมือนกันเลย มันแค่ต่างกันตรงที่เพศสภาพเฉยๆ ที่เป็นชายชาย ไม่ใช่ชายหญิง

ไตเติ้ล ธนธร กล่าวว่า “ผมมองมันเป็นการท้าทายอย่างหนึ่งเวลาเราเล่นซีรีส์วาย อย่างเวลาเราเห็นซีรีส์ชายหญิงมวลของความรักเขาชัดเจนมาก ดูแล้วเขินตาม แต่คราวนี้เราจะเล่นชายชายยังไงที่ทำให้คนรู้สึกอินไปแบบนั้นได้”

ด้าน เสือ กฤษณะพงศ์ กล่าวว่า “ผมว่ามันคือซีรีส์ปกติ แต่จะมีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันไป ซีรีส์วายก็จะมีการเล่าเรื่องของมันเองเป็นจังหวะของวาย นอกจากนั้นก็เหมือนซีรีส์ปกติเลย” ในขณะที่ คอปเตอร์ นันทพงศ์ บอกว่า “ซีรีส์วายคืองานศิลปะงานหนึ่ง แค่แตกต่างกันที่เพศสภาพ การมาเป็นนักแสดงซีรีส์วายแตกต่างจากชีวิตปกติของเรา ตอนแสดงผมคือลมฝน แต่พอออกมาเราก็เป็นคอปเตอร์ปกติ เหมือนเรายืมอัตลักษณ์เขามาใช้ในการถ่ายทอดให้คนดูรู้สึกไปกับตัวซีรีส์

เรื่องของเคมีนานไหมว่าจะจูนกันได้? ด้าน ไตเติ้ล บอกว่า “ยอมรับว่าใช้เวลาพอสมควร ตอนเจอกันแรกๆ ผมยังไม่กล้าเล่นกับพี่พีขนาดนั้น ถึงเคยเล่นซีรีส์กันมาก่อนแต่ก็ไม่เคยเฉียดกันเลย พออยู่ดีๆ ต้องมาเล่นด้วยกันจะกังวัลมีมายด์เซ็ตยังไง เข้ากันได้หรือเปล่า พอถ่ายไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกโชคดีที่ได้เล่นคู่กัน ทัศนคติในการทำงานของเราสองคนไปทางเดียวกันเลย โดย เสือ เสริมว่า “ส่วนคู่ของผมกับคอปเตอร์ส่วนใหญ่ในซีรีส์จะเป็นแนวตีกัน ตอนแรกๆ เคมีก็ไม่ได้จูนกันขนาดนั้น แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ ทุกอย่างมันก็มาเอง”

เล่าฉากจูบให้ฟังหน่อย? ด้าน พี กล่าวก่อนว่า “จูบแรกของพวกผมคือตอนถ่ายไพลอต แล้วที่คุยกันตอนแรกไม่มีจูบ” ไตเติ้ล เล่าต่อ “ซีนนั้นคือนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน แล้วก็ให้หันมามองกันเฉยๆ ตอนนั้นผมก็สงสัยว่าทำไมผู้กำกับไม่สั่งคัต แต่ใจเราอยากนะ ด้วยความที่มันไม่มีเขียนอยู่ในบท แล้วเราก็ยังไม่กล้าเล่น ไม่รู้ว่าภาพที่ผู้กำกับอยากได้คือยังไง จนผู้กำกับว.มาว่ารู้สึกอะไรหรือเปล่า เท่านั้นแหละ…แสดงว่าพี่เห็นตรงกับผมครับ”

พี เสริมว่า “ผมว่าผู้กำกับเขาคงเห็นจังหวะที่พวกผมสลับกันมองตามองปาก ตั้งแต่ตอนที่เขาว.มาถามว่าแหละว่ารู้สึกอะไร ผู้กำกับเขาก็คงรู้ว่าพวกเรารู้แล้วแหละ เลยเล่นได้เพราะความรู้สึกตอนนั้นมันคุกรุ่นแล้ว(หัวเราะ)”

คาดหวังแค่ไหน? เสือ กล่าวว่า “พอมันตั้งใจก็ต้องมีความคาดหวังอยู่แล้ว” ด้าน คอปเตอร์ บอกว่า “ผมเองก็คาดหวัง แต่สิ่งสำคัญคือเราทำหน้าที่แสดงให้เต็มที่ให้สมกับที่พี่ๆ ให้โอกาส ผู้กำกับเคยพูดกับพวกเราไว้ว่าอยากให้เป็นนักแสดงที่ดี ไม่ใช่แค่ว่าเล่นเรื่องนี้จบแล้วก็จบกันไป แต่ไปที่ไหนแล้วมีแต่คนชื่นชม ทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายมาให้เหมือนเป็นมาสเตอร์พีซชิ้นหนึ่งในชีวิต”

ไตเติ้ล กล่าวว่า “ผมคาดหวังแต่ไม่ได้เอามากดดันตัวเอง เรามองว่าถ้าทำเต็มที่ที่สุดไม่ว่าผลจะเป็นยังไง อย่างน้อยถ้าได้กลับมาดูเรื่องนี้ก็จะรู้สึกว่าภูมิใจจังเลย” และ พี ทิ้งทายว่าพวกเราทุกคนคุยกันว่าอยากทำซีรีส์วายน้ำดีเรื่องหนึ่งขึ้นมา เราก็เลยคาดหวังว่าอยากให้ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะไปอยู่เป็นส่วนเล็กๆ ในใจของใครไม่มากก็น้อย ตรงนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ แล้ว”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ