เปิดตัวแล้ว Sony A7C II และ A7C R กล้องฟูลเฟรมมิลเลอร์เลส ร่างเล็ก เพิ่มความสามารถอีกระดับ

Home » เปิดตัวแล้ว Sony A7C II และ A7C R กล้องฟูลเฟรมมิลเลอร์เลส ร่างเล็ก เพิ่มความสามารถอีกระดับ
เปิดตัวแล้ว Sony A7C II และ A7C R กล้องฟูลเฟรมมิลเลอร์เลส ร่างเล็ก เพิ่มความสามารถอีกระดับ

Sony ได้เผยโฉมกล้อง Full Frame Mirrorless รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง A7C II ออกมาสายต่อกับรุ่นที่แล้วและรอบนี้ยังเปิดตัว A7C R ร่างอัปเกรดของทั้งรุ่น A7C และ A7C II โดยทั้งหมดนี้พร้อมวางจำหน่ายกับเลนส์ใหม่ Sony FE 16-35 mm. F/2.8 II ภายในเดือนกันยายน นี้ มาดูรายละเอียดกันดีกว่า

Sony A7C II

 batch_a7c-ii-beauty-for-news-

สำหรับกล้อง Full Frame Mirorrless รุ่นนี้ที่มีการการอัปเกรดจากรุ่นแรกแต่ยังคงบอดี้เล็กพกง่ายด้วยความละเอียด 33 ล้านพิกเซล ยังมาพร้อมกับช่องใส่ SD Card เพียง 1 ช่องเท่านั้น เลือกใช้ระบบประมวลผล Bionz XR ที่มี AI ค่อยช่วยประมวลผล ระบบกันสั่นมีทั้งหมด 5 แกนและกันสั่นได้มากถึง 7 Stops ที่สามารถทำงานได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

batch_a7c-ii-lcd-for-news-800

ช่องมองภาพของ A7C II จะมีความละเอียด 2.36 MP รองรับการขยายได้ถึง 0.7 เท่า ทำให้มีความละเอียดมากขึ้นสบายตามากขึ้น พร้อมกับจอ LCD ขนาด 3 นิ้วและพบหาตัวความละเอียด 1.03 ล้านพิกเซล

batch_a7c-ii-mode-dial-for-ne

ระบบโฟกัสรอบนี้ใช้คำว่าถอดจากรุ่นใหญ่อย่าง A7 IV และ A7 R V มามากพอสมควรตั้งแต่การโฟกัสวัตถุได้รอบและแยกระหว่าง คน, สัตว์, นก, แมลง, รถไฟ, เครื่องบิน และยานพาหนะอื่นๆ ได้ แต่ว่าการที่ได้ชิป Bionz XR ที่มี AI ค่อยช่วยประมวลผล ก็จะทำให้ระบบโฟกัสจะทำงานได้ดีมากขึ้น

แต่ว่าเมื่อตัวเล็กกว่าทำให้ระบบชัตเตอร์จะมีแค่แบบเดียว หรือ E-Front Curtain ซึ่งอาจจะมีอาการภาพเป็นคลื่นบ้างเล็กน้อย ถ้าสภาพแสงไม่เหมาะสม ซึ่งต่างจากการถ่ายด้วยชัดเตอร์แบบกลไก แต่ยังดีที่ Sony ปรับปรุงตัวกล้องให้มีที่จับ (Grip) ทำได้ดมากขึ้นและไม่มีปุ่มควบคุมแบบจอยสติ๊กมาให้ และการยิงชัตเตอร์ความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 10 FPS

ความละเอียดของวิดีโอทั้งคู่ทำได้ที่ 4K / 60FPS สีสันแบบ 10-bit 4:2:2 ถือว่าทำได้ดีอยู่ และช่องใส่การ์ดยังคงเป็นแบบช่องเดียวอยู่เหมือนเดิม แต่รองรับการ์ดรุ่นใหม่อย่าง UFS II แล้วทั้งคู่

Sony A7C R

 batch_sony-a7cr-front-800x444
batch_sony-a7cr-front-right-b
batch_sony-a7cr-rear-flip-scr

บอดี้ภาพรวมนั้นไม่ได้แตกต่างจาก A7C II แต่ว่าสีสันของกล้องจะดูเข้มและแน่นหนากว่า โดยน้ำหนักทั้งคู่นั้นก็ยังรวมกันอยู่ที่ 514 – 515 กรัม เมื่อใส่แค่การ์ดและแบตเตอรี่ (ไม่รวมเลนส์) สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นคือความละเอียดของกล้องที่สูงไปถึง 61 ล้านพิกเซล การรัวชัตเตอร์จะทำได้ที่ 8 FPS ที่เหลือยังคงทำได้เหมือนกัน และจุดโฟกัสจะลดลงจากรุ่น A7C II ที่เหลือเพียง 693 จุด (A7C II ทำได้ 754 จุด) และ A7C R จะมี Hand Grip แถมมาให้ในกล้องด้วย

แต่น่าเสียดาย A7C R จะไม่มีปุ่มหมุนด้านหน้าให้แล้ว แต่ A7C II ยังอยู่

สำหรับราคาของทั้งคู่นั้นมีดังนี้

  • Sony A7C II เริ่มต้น 2,199.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 76,xxx บาท
  • Sony A7C R เริ่มต้น 2,999.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 104,xxx บาท

ส่วนรุ่นแรก ข่าวดี ยังขายอยู่ครับ ราคาไม่ได้เปลี่ยนจากเดิม ทั้งนี้สำหรับราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย รอพบกับเร็วๆ นี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ