เบนซ์ ยอมรับ จังหวะนรก เจอปาอึ-ทัวร์ลงลบหลู่แม่ย่านาง ไม่ได้หิวแสง ปั้นข่าว

เบนซ์ ยอมรับ จังหวะนรก – ความร้ายกาจของนักแสดงสาว “เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์” ที่มารับบทแรงเว่อร์ในละครเรื่อง “ร่านดอกงิ้ว” คงจะทำให้แฟนละครอินเกินเบอร์ เมื่อเจ้าตัวเจอเหตุการณ์สุดช็อก แฟนคลับปาอึเข้าใส่รั้วหน้าบ้าน ทั้งยังโดนชาวโซเชี่ยลทัวร์ลง เรื่องถ่ายรูปไม่ถูกกาลเทศะ พาดเท้าบนคอนโซลหน้ารถ จนถูกดราม่าว่าลบหลู่แม่ย่านาง

ล่าสุด เบนซ์ ปุณยาพร ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ว่า “จริงๆแล้วเบนซ์ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ เขาคงไม่อยากให้เราเล่นร้ายแล้วล่ะมั้ง คือจริงๆ เบนซ์ต้องบอกก่อนว่าทำไมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น หรือตกใจ เพราะว่ามันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้ว ตอนที่เล่นร้ายกับช่อง 7 แต่อันนั้นตามไปที่บ้านที่นครศรีธรรมราช เบนซ์ไม่รู้ว่าเป็นคนๆเดียวกันหรือเปล่า

คือตอนนั้นน้องเขายังเด็กๆอยู่ แล้วก็ขับตามไปเจอพ่อที่โรงเรียนอนุบาลที่ใต้ ครั้งนี้เราก็ตกใจแหละที่เขามารู้จักบ้านเรา แล้วอีกอย่างหนึ่งคือเราคิดว่าเขาไม่ได้มาทำร้ายเราขนาดนั้น แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองแหละ ซึ่งตอนนี้ก็ขึ้นสถานีตำรวจจนเหนื่อยแล้ว ขอพักก่อน เพราะก่อนนี้มีคดีฉ้อโกงคอลลาเจน เลยมีความรู้สึกว่ารอบนี้มันไม่ได้ถึงตัวขนาดนั้น”

ชินกับการเล่นบทร้ายๆ แล้วแฟนคลับอิน? “มันคือความเคยชินเราหรือเปล่า แต่มันก็อาจจะน่ากลัวไปนิดนึง เบนซ์ว่าเขาก็อาจจะอินกับในละคร เอาอย่างนี้ดีกว่า เราอย่าสร้างศัตรู เราต้องให้เขาเป็นมิตรกับเรา คือเรามีความรู้สึกว่าเบนซ์มันร้ายเกินไป แล้วข้อความที่เขาเขียนมา แต่ว่ามันอ่านไม่ออกหรอก”

คาดว่าเป็นคนๆเดียวกัน? “อันนี้คือเดาด้วยตัวเอง คือเหมือนกับว่าเราเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แต่มันไม่มีโลกโซเชี่ยล มันก็เลยไม่ได้เถียง อีกอย่างหนึ่งตอนนั้นเราจะไปถ่ายรูปเขาในโรงเรียนมันก็ไม่ได้ แต่รอบนี้ที่เราโพสต์ลงโอเคมันอาจจะน่ากลัวแหละ แต่เราก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนมาปลื้มในละครของเรา แปลว่าเราเล่นดีไง(ยิ้ม) คือเราคิดแบบนี้ เราต้องคิดบวก เพราะว่าเราก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้”

มีกล้องวงจรปิดไหม? “เอาจริงๆนะ ไม่อยากจะพูดอะไรมากมาย เดี๋ยวโจรขึ้นบ้าน เพิ่งมาติดเอง กำลังจะดำเนินการแล้วค่ะ(ยิ้ม) ป้องกันเรียบร้อยแล้วค่ะ”

เป็นนักแสดงต้องทำใจ? “จริงๆเบนซ์มีความรู้สึกว่านักแสดงมันคู่กับอะไรแบบนี้อยู่แล้ว มันอาจจะเป็นเพราะทุกคนชื่นชอบเราในผลงานของเรา คือเบนซ์เจอแบบนี้จนเบนซ์ชิน แม้ว่าครั้งนี้มันจะมาถึงหน้าบ้านเรา แต่รอบก่อนคือน่ากลัวกว่า

เพราะประชิดตัวเลย คือเขาเอาขนมมาให้คุณพ่อ แล้วบอกว่าคุณพ่อครับผมไม่มีเงินกลับกรุงเทพฯ ขอเงินคุณพ่อกลับได้ไหม พ่อก็ให้เงินเขากลับไปนะ คือเบนซ์ว่าเขาก็คงชื่นชอบในผลงานเรา แต่อย่าไปสร้างศัตรู เพราะเขาชอบเรา เราก็ต้องระวังตัวเอง”

กลัวไหม? “ทุกอย่างก็ต้องกลัวสิ อันนี้คือใจดีสู้เสือนะ กลัวค่ะ เพราะเราไม่รู้เนอะว่าเป็นใคร เราอย่าเพิ่งคิดในทางลบว่าเขาอินจนเกลียดเราจริงๆ เขาอาจจะเป็นแฟนคลับใครคนใดคนหนึ่งก็ได้ที่เราเล่นละครอยู่ เบนซ์เลยมีความรู้สึกว่ามันต้องกลัว มันกลัวอยู่แล้วแหละ เราก็ต้องให้ป้องกันทุกอย่างมากขึ้น”

ดราม่าลบหลู่แม่ย่านาง หลังถ่ายภาพวางเท้าพาดคอนโซลหน้ารถ?
“แม่ย่านางคือต้องเคลียร์ประเด็นนี้จริงๆก่อนเลยว่าเบนซ์ไม่ได้เป็นคนที่ลบหลู่แน่นอน แต่ว่าทุกอย่างที่โพสต์ คือเราไปเห็นเรฟเฟอเรนซ์จากเมืองนอก เราก็บอกเพื่อนเราว่าถ่ายให้หน่อยได้ไหม อยากถ่ายจังเลยท่านี้ คือมันคือท่าที่เห็นขาเซ็กซี่

แล้วตอนนี้เราขายพวกความสวยความงาม พวกคอลลาเจนของเราด้วย เราก็อยากจะให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวเราแค่นั้นเอง คือเหมือนวันนั้นข้อความที่เขียน ละครมันออนแอร์ มันก็เลยประจวบว่าเบนซ์จะโปรโมตละครหรือเปล่า คือมันผสมรวมๆกันไปแล้ว มันก็เลยทำอะไรไม่ได้แล้ว

แต่ที่น้อยใจคือมันมีบางสำนักข่าวค่ะ ไปเขียนว่าเบนซ์หิวแสงปั่นข่าว คือเอาตรงๆเบนซ์พูดจากใจตรงนี้นะคะ อยู่วงการมาตั้งนานแล้วไม่ต้องปั่นแล้วค่ะ แสงมาหาเราแล้วค่ะ คือไม่ต้องปั่นแล้ว ทุกอย่างมันอยู่ที่ความตั้งใจทำงาน

ทุกคนก็จะบอกว่า ถ้าหนูถ่ายละครจะติดต่อหนูไม่ได้ เพราะหนูจะต้องอ่านบทและทำการบ้าน หนูมีฝีมือพอที่ไม่จำเป็นจะต้องหิวแสงแล้ว มันคือประจวบกันดีกว่า ที่อยู่ในจังหวะนรก อยู่ในจังหวะผิดที่ คือมันจะต้องมีช่วงเวลาของมันค่ะ

แต่มันถ่ายไปแล้วเราก็ต้องคิดบวก แต่เบนซ์ขอบคุณทุกๆคนมากนะคะ คือจริงๆกระแสมันออกมา มันมีคนช่วยแหละ อันนี้ถือว่าเป็นบุญของเรา เอาแบบนี้ดีกว่า เบนซ์ตัวเองเป็นคนสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกๆคนดีกว่า”

นอยด์ไหมที่โดนโซเชี่ยลทัวร์ลง? “เราก็รู้สึกเสียใจนะ รู้สึกแบบน้อยใจแหละ และก็พูดตรงๆกับทุกคนได้นะ บางทีพาดหัวข่าวจนเราน้อยใจ แต่บางทีมันไม่จำเป็นดีกว่าค่ะ แต่มันด้วยจังหวะด้วยแหละ แล้ววันนั้นก็คิดแคปชั่นไม่ออกจริงๆ แล้วมันก็ต้องเขียนในผลงานของเรา เพราะเราเล่นละครอยู่ เราเลยเขียนแคปชั่นนี้ไป

แต่เราไม่คิดว่าคนมันจะไปต่อยอดเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตขนาดนี้ เป็นจังหวะมากกว่าแหละ ถึงแม้ว่าจะเป็นจังหวะนรก แต่ในมุมมองของเบนซ์ เบนซ์รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ทุกคนได้ดูผลงานของเบนซ์”