เชฟชุมพล ตอบสื่อยันอาหารรับเอเปค ไร้ของนอก ไทยล้วน ไม่มีย้อมแมว แย้มเหตุผลเลือกปลากุเลาปลาอ้วน เหตุมันตุพอดี เน้นแนวคิดเพื่อความยั่งยืน

วันที่ 14 พ.ย.2565 เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลิน ผู้รังสรรค์เมนูอาหารไทย ผ่านแนวคิด “อาหารอนาคต” ในงานกาลา ดินเนอร์ สำหรับผู้นำ ที่จะมาประชุมเอเปคได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยมี นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินรายการ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องเมนูปลากุเลาตากใบ ที่จะเสิร์ฟในงานกาลาผู้นำเอเปค เชฟชุมพล กล่าวว่า เป็นปลากุเลาตากใบของป้าอ้วน 5 ดาว

ยืนยันว่าเป็นปลากุเลาตากใบ ไม่มีย้อมแมว และปลากุเลาตากใบ ของป้าอ้วน ไซส์ 9 ขีด ราคา 1,540 บาท ไซส์ 1.2 กิโลกรัม ราคา 2,140 บาท ไม่รวมค่าส่ง สนใจไปหาได้เลย ซึ่งในตากใบมีหลายเจ้า แต่ของป้าอ้วนนั้น ตนจะไว้ใจ เพราะป้าอ้วนก็จะคัดให้พิเศษ

ตนว่าสิ่งสำคัญที่สุด ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่นำมา อยากให้พี่น้องทั่วประเทศมีส่วนร่วม เพราะฉะนั้นอาจจะใช้มากใช้น้อย แต่การใช้ของเรา ผมอยากให้พี่น้องชาวไทยมีส่วนร่วม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความพิเศษของปลากุเลาตากใบ เชฟชุมพล กล่าวว่า เนื้อจะมีความละเอียด ไม่เค็มมาก ปลาเค็มส่วนใหญ่เค็มไป กลิ่นก็จะเบา ในมุมตน มันตุพอดี

ตนยืนยันว่าวัตถุดิบทุกอย่าง ไม่มีของต่างประเทศเลย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตนทำในร้านอาหาร 10 กว่าปี แต่วันนี้เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่มาทุกอย่างตรวจสอบได้หมด แม้กระทั่งข้าว ตนได้โทร.คุยไปเลยว่าต้องข้าวใหม่นาปี วันนี้ตนคิดว่าเป็นโอกาสที่แม้กระทั่งจานชามที่จะใช้ กล่องไม้สักที่ใช้เสิร์ฟมาจากเชียงใหม่ ร้านพี่ดาว ที่ตนดีไซน์ไว้พิเศษ และในล็อบสเตอร์มังกร 7 สี กับปลาเก๋ามุกมาเป็นๆ จากจ.ภูเก็ต อันนี้ชัดเจน

ส่วนเรื่องการตัดสิน APEC Future Food for Sustainability ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนและคนไทยทั่วประเทศ เชฟชุมพล กล่าวว่า เรื่อง Future Food มีทั้งหมด 21 ทีมจะมีการตัดสินในวันที่มอบรางวัลประมาณวันที่ 15 พ.ย. อย่างน้อย 21 ทีมนำมาเสนอที่นี่ แต่ตรงนั้นต้องเรียนว่าตนและนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เราทำตัวนี้ขึ้นมาด้วยกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย เรื่องที่เรามีการพัฒนาเรื่องของ Future Food ต่างๆ และแน่นอนเป็นเรื่องของความยั่งยืน ซึ่งโปรเจกของการทำกาลาดินเนอร์ เป็นโปรเจกความยั่งยืนอยู่แล้ว

ทั้งนี้ก็จะมี Plant-base อะไรเข้ามา มีหลากหลายเข้ามา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำคู่ขนานกันไป อาจมีการให้ชิมระหว่างประชุม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะเลือกตัวไหน ในระหว่างประชุม ความจริงมีการโชว์เคสทั้งหมด 21 ตัว แต่น่าจะทราบใน 2-3 วันว่าจะเอาตัวไหน ระหว่างประชุมคงตั้งประสานหลายฝ่าย โดยเฉพาะศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็จะเป็นเจ้าภาพในการดูแลเรื่องอาหารทั้งหมด ก็มีการทำอาหารร่วมกัน มีการประสานร่วมกันกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรีที่จะต้องดูตรงนั้น

ที่มา มติชนออนไลน์