เจ้าของบริษัท ไม่ทน! ถูกวัยรุ่นเดินมาหาเรื่อง ชักปืนยิงสวนกลับ สาหัส 3

Home » เจ้าของบริษัท ไม่ทน! ถูกวัยรุ่นเดินมาหาเรื่อง ชักปืนยิงสวนกลับ สาหัส 3
หมากฮอส เลือดสาด-ปก-min

เจ้าของบริษัท นั่งเล่นหมากฮอส ถูกกลุ่มวัยรุ่นนั่งดื่มสุราหน้าโกดัง ยกพวกทำร้ายร่างกาย เจ้าตัวสู้กลับ! ชักปืนยิงสวน สาหัส 3

เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เวลา 21.30 น. วันที่ 29 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามี เหตุทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธปืนและมีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดช่วงหน้าโกดังโรงงานแห่งหนึ่งภายในซอยกิ่งแก้ว 25/1 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จึงประสานไปยัง ศูนย์กู้ชีพปราการ ระดมกำลังกู้ชีพกู้ภัยของมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบและช่วยเหลือ

พอเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบว่ามีผู้บาดเจ็บเป็นชายถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าตามร่างกาย โดยพบว่ามีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย อาการค่อนข้างสาหัส แต่ยังพอมีสติถามตอบพอรู้เรื่อง ซึ่งทั้ง 4 ราย นอนกระจัดกระจายทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมดลำเลียงส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งผู้บาดเจ็บอายุระหว่าง 25 ถึง 30 ปี

ยิงสวนกลุ่มวัยรุ่น (15)-min

ขณะที่ตำรวจของ สภ.บางแก้ว เข้าควบคุมตัว นายเอก อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทตรงที่เกิดเหตุ พร้อมกับอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุนและปลอกกระสุนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่ง นายเอก ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวรัวยิงใส่กลุ่มผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 นัด

จากการสอบถาม นายเอก ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ตนเองและลูกน้องรวม ทั้งหมด 3 คน กำลังนั่งดื่มและเล่นหมากฮอสที่หน้าโกดังบริษัทของตนเอง ระหว่างนั้น ปรากฏว่ามีกลุ่มชายที่บาดเจ็บ ซึ่งตั้งวงสุรากันที่หน้าโกดังถัดออกไปจากโกดังของตนเองประมาณ 3 โกดัง อยู่ ๆ กลุ่มของผู้บาดเจ็บยกพวกเดินเข้ามารุมทำร้ายกลุ่มตนถึงหน้าโรงงานซึ่งมีทั้งขวดเบียร์ใช้เป็นอาวุธมาทำร้ายกลุ่มตน ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงไปหยิบปืนในรถมามายิงใส่ไปที่กลุ่มของผู้ก่อเหตุครั้งแรก 1 นัด โดยเลือกเป้าต่ำกว่าเอวเพื่อตั้งใจยับยั้งอีกฝ่ายไม่ให้เข้ามาทำร้ายร่างกาย แต่พอยิงนัดแรกไป อีกฝ่ายแตกกระจายออกและพยามเข้ามา ตนจึงหันไปยิงสามคนที่เหลืออีกคนละหนึ่งนัดรวมทั้งหมด 4 นัด

ยิงสวนกลุ่มวัยรุ่น (12)-min
  • มือดีลักลอบเผาหญ้า ลามไหม้ถึงเสาไฟฟ้า ทำ ‘อุทัยธานี’ ไฟดับทั้งจว. 2 ชั่วโมง!
  • อากาศร้อนเป็นเหตุ! ทำผัวป่วยจิตคลั่ง ฆ่าลูกเมีย ก่อนผูกคอตายตาม
  • ระทึก! พ่อวูบขณะขับรถ ทำเสียหลักชนข้างทาง เหล็กเสียบทะลุรถ เจ็บยกครัว

ส่วนที่ยิงแม่นนั้น ยอมรับว่าตนเองเคยซ้อมยิงปืนที่สนามฝึกยิงปืนมาบ่อย ยืนยันยิงเพื่อป้องกันตัวและไม่ได้เล็งเห็นหรือหมายเอาชีวิตของอีกฝ่ายแต่อย่างใด ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด โดยรัวยิงใส่ไป 4 นัดเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สิน โดยไม่รู้ว่ากระสุนถูกใครบ้างจนอีกฝ่ายล้มกลางถนนบางส่วนวิ่งหนีไปท้ายซอย พอเหตุการณ์สงบจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและยืนรอมอบตัวพร้อมของกลางคืออาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

ยิงสวนกลุ่มวัยรุ่น (13)-min
ยิงสวนกลุ่มวัยรุ่น (7)-min

ขณะที่หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่ถูกยิงเข้าที่ขา และ กระสุนถากศีรษะ แต่ยังพอให้การได้ บอกว่ากลุ่มตนเองนั่งดื่มที่หน้าโกดังอีกแห่งไม่ห่างกัน แล้วอีกฝ่ายตะโกนใส่เหมือนกับพูดจาดูถูกใส่กันพวกตนเองจึงพากันเดินมาหาเพื่อเคลียร์เรื่องดังกล่าวจนกระทั่งเกิดการชุลมุนและถูกยิงใส่จนบาดเจ็บ

ขณะ นายสุชาติ อายุ 54 ปี หนึ่งในกลุ่มฝ่ายของทางเจ้าของโรงงาน หรือ ฝ่ายที่ก่อเหตุ ให้การเบื้องต้นว่า ขณะที่กำลังนั่งดื่มกินกันรวม 3 คน อยู่กลุ่มผู้บาดเจ็บก็ยกพวกมารุมทำร้ายร่างกายโดยไม่พูดพล่ำทำเพลงอะไร แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงเค้นสอบถามถึงสาเหตุที่แท้จริง จนนายสุชาติยอมรับว่าก่อนหน้านี้ มีหนึ่งในผู้บาดเจ็บเคย ขี่ จยย. มาจอดถามตนเองว่ามองหน้าเขาทำไม ซึ่งตนเองก็ตอบกลับไปว่ามองหน้าจะได้รู้จักรหน้าตากันไว้ หลังจากนั้นก็ ขี่ จยย ออกไป กระทั่งมาวันนี้ยกพวกมารุมทำร้ายทำให้เจ้าของโรงงานใช้ปืนยิงสวนกลับไป

ยิงสวนกลุ่มวัยรุ่น (14)-min

ด้าน พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว สั่งการระดมสายตรวจและฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นพร้อมปิดกั้นพื้นชั่วคราวเพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำผู้บาดเจ็บและพยานแวดล้อมรวมถึงผู้ก่อเหตุเพื่อหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว แต่จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันระหว่างวงสุราสองวง ซึ่งในส่วนของ นายเอก เจ้าของโรงงานที่ใช้ปืนยิงใส่กลุ่มผู้บาดเจ็บไปนั้น เบื้องต้นคุมตัวสอบปากคำที่ สภ.ก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

ขณะที่ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางลงพื้นที่ด้วยตนเองพร้อมทั้งสั่งการให้เร่งคลี่คลายคดีนี้อย่างรวดเร็วและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายผิดว่ากันไปตามผิดไม่มีเข้าข้างฝ่ายใด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ