เจมส์ จิรายุ ดีใจเจอแฟนคลับในรอบ 2 ปี อัพเดตความรัก โฟม แฮปปี้-คงคอนเซ็ปต์ไม่หวือหวา

Home » เจมส์ จิรายุ ดีใจเจอแฟนคลับในรอบ 2 ปี อัพเดตความรัก โฟม แฮปปี้-คงคอนเซ็ปต์ไม่หวือหวา



เจมส์ จิรายุ ดีใจเจอแฟนคลับในรอบ 2 ปี อัพเดตความรัก โฟม แฮปปี้-คงคอนเซ็ปต์ไม่หวือหวา เผยความคืบหน้าสร้างบ้านที่กรุงเทพฯ เล็งแล้วเสร็จต้นปีหน้า ลั่นงบบานปลายไม่สิ้นสุด

วันที่ 25 มิ.ย.2565 ที่ ลาน Zpotlight ชั้น G Zpell @ Future Park พระเอกชื่อดัง เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข เดินทางมาร่วมงานกิจกรรม “เปิดละครพิศวาสฆาตเกมส์” พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงการได้มาเจอแฟนคลับในรอบ 2 ปีกว่า รวมถึงอัพเดตหัวใจกับแฟนสาว โฟม ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ไม่ออกตัวหวือหวาแต่ใช้ชีวิตทุกอย่างตามปกติ และอัพเดตเรื่องสร้างบ้านที่กรุงเทพฯ

ได้มาเจอแฟนคลับในรอบกี่ปี? “ถ้าเกิดว่าเต็มๆ อย่างนี้ก็น่าจะมากกว่า 2 ปี คือตอนแรกมันก็มีแต่ว่าด้วยความเข้มงวดที่เราต้องรักษาระยะห่างเลยอาจจะจำกัดคนในการเข้าถึง แต่ตอนนี้มันเริ่มผ่อนคลายแล้วก็ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาเจอกันแบบนี้ คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงบรรยากาศนี้มาก ผมก็ได้มีโอกาสไปเอ็นเตอร์เทนเบาๆ แต่พูดไม่หยุดเลยด้วยความที่คุยกับตัวเองมาค่อนข้างนาน (หัวเราะ) วันนี้เลยดีใจที่ได้เจอ ตอนแรกไม่ได้คิดเลยว่าทุกคนยังคิดถึงและยังอยู่ด้วยกัน พอมาเจอกันก็น่ารักและดีใจมากๆ เพราะว่ายังมีอีกหลายคนที่มาไม่ได้”

ในเมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว อยากจะคืนกำไรแฟนๆ ด้วยการจัดแฟนมีตติ้งบ้างไหม? “เมื่อกี้ก็มีคนถามเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่กล้ารับปาก เพราะพอบอกว่ามีทีไรส่วนใหญ่จะไม่มี แต่ถ้าเกิดเราบอกว่าไม่มีครับ อันนี้ก็ไม่แน่ มันอาจจะเป็นแบบปุบปับโชว์ไง (หัวเราะ) เพราะแพลนนานๆ ไม่ค่อยรอดสักที จริงๆ ในใจผมก็คิดว่าปีนี้แหละ แต่ก็ไม่ได้อยากให้คำมั่นสัญญาสักเท่าไหร่นัก”

ช่วงนี้เริ่มกลับมาทำงานเต็มสตรีมแล้วใช่ไหม? “ตอนนี้เริ่มกลับมาทำงานค่อนข้างเกือบจะปกติ จริงๆ ละครก็ดำเนินการมาเรื่อยๆ แต่ว่าตอนนี้เริ่มมีงานอื่นๆ ที่กลับมาด้วย ผมรู้สึกว่าตอนนี้บรรยากาศในการทำงานมันเริ่มคึกคักขึ้น ทุกคนไม่ได้ดูกังวลมากขนาดนั้นแต่ยังไงก็ยังอยากให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองด้วย”

งานในปีนี้มีแพลนอะไรบ้าง? “เอาแน่ๆ เลยก็จะมีละคร พิศวาสฆาตเกมส์ ที่จะได้ชมกันต้นเดือนหน้า แล้วเดี๋ยวก็จะมีโปรเจ็กต์อื่นอีกเยอะ ส่วนงานต่างประเทศก็มีติดต่อมาบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นอีเวนต์แต่ว่ายังไม่ได้คอนเฟิร์ม”

อัพเดตหัวใจนิดหนึ่ง? “ตอนนี้ก็ดีครับ ดีเป็นปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ไม่ค่อยดี (คงคอนเซ็ปต์ไม่หวือหวาหรือออกตัวเยอะ?) ใช่ครับ คือของผมก็จะอยู่แบบนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว แล้วก็อยู่กันไปเรื่อยๆ ผมว่าแบบนี้มันก็มีความสุขดี แฮปปี้”

เวลาไปไหนมาไหนก็ใช้ชีวิตปกติเลยใช่ไหม? “ใช่ครับ อย่างเช่นเวลาจะไปทานข้าวหรือไปเที่ยวหรือทำอะไรก็ใช้ชีวิตตามปกติ จริงๆ ก็มีหลายคนที่ชื่นชอบบ้างในคู่ของเรา มันก็เหมือนกับผ่านระยะเวลามาสักระยะหนึ่งแล้วแหละ เราก็พยายามทำให้ทุกคนเห็นว่าเราก็สบายใจแบบนี้ แล้วก็พยายามประนีประนอมให้ได้ทุกส่วน คือผมเองก็อยู่ตรงกลางด้วยก็พยามทำให้ทุกคนมีความสุขที่สุด เพราะผมมีอาชีพที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน”

หลายคนเอ็นดูคู่เราตรงที่ไม่ลงรูปในโซเชียลตัวเอง แต่คนอื่นเอาไปลงให้เห็นเอง? “ครับผม ผมไม่ได้ห้ามใครเลยครับ คือมันเป็นการใช้ชีวิตปกติ ถ้าเกิดมันเริ่มมีการบอกเยอะหรือระแวดระวังเยอะ อันนั้นไม่ได้อันนี้ไม่ได้ มันก็จะไม่มีความสุข คือพอเราทำแบบนี้มันก็ไม่ได้มีอะไร แล้วเราบริสุทธิ์ใจเพราะว่าเราไม่ได้ไปทำผิดอะไรด้วย แล้วก็สะดวกใจที่จะทำ”

เรื่องบ้านคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว? “คือสร้างบ้านที่กรุงเทพฯ จริงๆ มันเป็นบ้านที่สร้างมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ว่าเป็นหลังแรกที่อยู่ในกรุงเทพฯ เพราะปกติที่ผ่านมาจะอยู่คอนโดฯ ไม่ได้มีบ้าน ถามว่างบบานปลายไปถึงไหนแล้ว คือตอนแรกเราก็ไม่เชื่อเขาหรอกว่าบ้านมันจะสามารถบานปลายได้ขนาดนี้ แต่พอมาเจอจริงๆ มันก็บานปลายได้แบบไม่สิ้นสุดด้วยนะครับ แล้วก็ไม่ใช่บานปลายแค่เรื่องของเงิน แต่บานปลายแม้กระทั่งเรื่องของขนาด ต้องลดต้องเพิ่มตรงนั้นตรงนี้ แล้วระยะเวลามันก็เสียไปเรื่อยๆ เงินมันก็เสียไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างที่เขาบอกจริงๆ ว่าทำบ้านมีแต่ความบานปลาย”

ระยะเวลาในการสร้างนานแค่ไหนแล้ว? “ผมว่าตอนนี้น่าจะประมาณสองปีครึ่งได้แล้ว แต่คือผมปักหมุดเอาไว้แล้วว่าจะเสร็จต้นปีหน้า แต่ตอนนี้ยังไม่เริ่มตกแต่งภายในเลยก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นไปได้ไหม จริงๆ ก็เป็นความช้าด้วยตัวของเราเองด้วย แต่ก็โทษโควิดไปด้วยส่วนหนึ่ง (หัวเราะ)”

แอบเห็นภาพแว้บๆ ก็ดูใหญ่โตมโหฬารอยู่? “จริงๆ ก็ไม่ได้ใหญ่มาก กลางๆ ครับ ความตั้งใจก็คือว่าก่อนหน้านี้คุณพ่อคุณแม่ทำบ้านไว้ที่พิจิตรด้วย แล้วก็มีที่นี่ด้วย เวลาเขาขึ้นมาหาหมอหรือมาเที่ยวผมก็ไม่ได้อยากให้เขาอยู่แค่ในคอนโดฯ อยากให้มันมีพื้นที่ไม่ได้รู้สึกอึดอัด”

เวลามองบ้านหลังนี้แล้วมันเป็นความภาคภูมิใจขนาดไหน? “มันเป็นความภาคภูมิใจแล้วก็เจ็บใจในเวลาเดียวกัน (หัวเราะ)”

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ