วันที่ 4 ตุลาคม 2566 พ.ต.ท.พชร จันคีรี ร้อยเวรสอบสวน สภ.วังโป่ง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีรถไถนาเดินตามพลิกคว่ำทับคนเสียชีวิต บริเวณทุ่งนาบ้านวังใหญ่ หมู่ที่ 4 ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวังโป่ง และอาสาสมาคมกู้ชีพ-กู้ภัยวังโป่งรวมใจ

ที่เกิดเหตุเป็นเนินดินที่ยกร่องข้างลำคลอง พบรถไถนาเดินตามพ่วงเทเลอร์พลิกคว่ำ โดยที่หลังคาเทเลอร์ได้ทับร่างของผู้เสียชีวิต สภาพไม่สวมเสื้อ สวมใส่กางเกงขายาวสีดำ ทราบชื่อต่อมาว่าคือ นายบัวพัน อายุ 66 ปี

จากการชันสูตรศพ พบมีรอยฟกช้ำที่บริเวณลำตัวช่วงบน คาดว่าน่าจะเกิดจากหลังคาเทเลอร์กดทับ อย่างไรก็ตาม ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

จากการสอบถาม นางทอง อายุ 66 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนและสามีมาเช่าที่นาบริเวณดังกล่าวปลูกข้าวและข้าวโพด โดยที่นาก็จะปลูกข้าว และเนินดินข้างลำคลองได้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ในช่วงเช้าของวันนี้ ตนและสามีได้ขับรถไถนาเดินตามพ่วงท้ายเทเลอร์มาที่ทุ่งนา เพื่อที่จะหักข้าวโพดไปขาย เมื่อหักข้าวโพดใกล้เสร็จแล้วสามีจึงได้เดินไปที่รถเพื่อถอยมาเอาข้าวโพดที่หักเสร็จแล้ว ระหว่างนั้นตนกำลังหักข้าวโพดอยู่ท้ายแปลง

สักพักได้ยินเสียงดังโครมพร้อมกับเสียงของสามีร้องให้ช่วย ตนจึงรีบวิ่งมาดูพบร่างของสามีถูกหลังคาเทเลอร์ทับไหล่และศีรษะจมน้ำอยู่ จึงพยายามที่จะยกขึ้นแต่ก็ไม่ไหว จึงได้วิ่งออกไปที่ถนนและตะโกนขอความช่วยเหลือ

สักพักได้มีนายสุไทย ชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกันผ่านมาจึงได้เข้าไปให้การช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทัน สามีได้เสียชีวิตแล้ว จึงให้เพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจทราบ

นางทอง เปิดเผยอีกว่า ตนและสามีมีฐานะยากจน ไม่มีที่ดินทำกินต้องหาเช่าที่ดินทำการเกษตร เพื่อหาเลี้ยงปากท้องและหลานอีก 1 คน ส่วนลูกไปทำงานรับจ้างอยู่ต่างจังหวัด สามีเป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อสามีเสียชีวิตแล้วตนก็ยังคิดไม่ออกเลยว่า จะทำอย่างไรต่อไป

นายสุไทย อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์จะไปทุ่งนา ได้เห็นนางทองยืนตะโกนขอความช่วยเหลืออยู่ข้างถนน และบอกว่าสามีถูกรถไถนาทับอยู่ จึงได้รีบวิ่งไปดูพบว่านายบัวพันได้แน่นิ่งไปแล้ว จึงได้ช่วยกันยกหลังคาออก ปรากฏว่าได้เสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ซึ่งจริงๆ แล้วนายบัวพันมีความชำนาญในการถอยรถที่บริเวณนี้ เนื่องจากถอยเข้าออกเป็นประจำ แต่ในวันนี้คาดว่าน่าจะกะระยะผิดเนื่องจากขอบทางมีหญ้าขึ้นหนาทึบ จึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ และทับจนเสียชีวิตดังกล่าว

นายสวัสดิ์ อายุ 60 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า จริงๆ ก่อนที่จะนำรถเข้ามาหักข้าวโพด จะต้องถางหญ้าให้เตียนเสียก่อน จึงจะทำให้เห็นขอบทาง แต่พี่ชายตนเองไม่ได้ถางหญ้าข้างทาง จึงทำให้กะระยะผิดพลาด เป็นเหตุให้รถเสียหลักพลิกลงข้างทางทับลำตัวช่วงบนประกอบกับในนาข้าวมีน้ำ จึงทำให้ศีรษะจมน้ำและขาดอากาศหายใจ จนเสียชีวิตดังกล่าว