ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างแพร่หลาย กับความเชื่อของ อาจารย์น้องไนซ์ เยาวชนวัย 8 ขวบ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรของเทพ เจ้าของเพจ นิรมิตเทวาจุติ โดยมีความคิดว่าตนนั้นสามารถ เชื่อมจิต และสื่อสารกับพระพุทธเจ้าหรือเทพหลายๆองค์ได้ อีกทั้งยังมีการเปิดคอร์สสอนลูกศิษย์เชื่อมจิตเองอีกด้วย ซึ่งประเด็นหลักๆที่ผู้ใช้โซเชียลนั้นออกมาขับเคลื่อนเรื่องนี้ เพราะมีประชาชนหลายคนที่เข้าร่วมการเชื่อมจิตนี้ และนอกจากนั้น อาจารย์น้องไนซ์ ยังมีพ่อแม่คอยสนับสนุนความเชื่อดังกล่าว จนหลายคนนั้นมองว่านี่คือสิ่งงมงาย และผู้ปกครองยังป้อนข้อมูลผิดๆให้กับเยาวชนวัย 8 ขวบ ที่อาจจะยังไม่มีความคิดความอ่านเพียงพอที่จะไปสอนความเชื่อคนอื่นได้

ซึ่งหลังจากที่โดนชาวเน็ตถล่มไม่หยุด ล่าสุด 25 เมษายน 2567 ทางด้านเพจ นิรมิตเทวาจุติ ก็ได้มาฟาดกลับ งัดหลักธรรมและหลักฐานที่บอกว่า ‘การเชื่อมจิต’ มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก? โดยทางเพจนั้นระบุข้อความว่า

เปิดเผยความจริง หลักฐานปรากฎชัด “การเชื่อมจิตมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก ” แหล่งข้อมูล ….(ฉบับที่ ๒ ) ปรากฏในบทความของ ดร.อดิเทพ ผาทา คณะพุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ดร.อธิเทพ ผาทา,2566) ได้กล่าวไว้ว่า..ในสมัยพุทธกาลก็มีการใช้จิตติดต่อสื่อสารกัน หรือสนทนากันทางจิต

• น้องไนซ์ เคลื่อนไหวแล้ว หลังสำนักพุทธจ่อสอบ ลั่น พร้อมคุยทุกข้อเท็จจริง

• สั่งสอบ! พ่อแม่ อ.น้องไนซ์ หากเข้าข่ายหลอกลวง ลงดาบยกครัวทันที

• ตะเพิด! ขับไล่พระกราบ อ.น้องไนซ์ วัดแจง เพราะกระทบต่อชื่อเสียงวัด

อ้างพระไตรปิฎก

โดยในพระไตรปิฎกมีการบันทึกพุทธพจน์เอาไว้ พระพุทธองค์ทรงใช้คำว่า “การเข้าอาเนญชสมาธิ” ในคัมภีร์อธิบายว่า อาเนญชสมาธิ หมายถึง สมาธิอันสัมปยุตด้วยอรหัตผลมีฌานที่ ๔ เป็นพื้นฐาน อาจารย์บางพวกกล่าวว่ามีอรูปฌานเป็นพื้นฐาน เหตุที่พระผู้มีพระภาคทรงเข้าอาเนญชสมาธิ เพราะทรงประสงค์จะแสดงว่าภิกษุ ๕๐๐ รูป มีพระยโสชะเป็นหัวหน้านั้น มีสัมโภคะเสมอกับพระองค์ และทรงประสงค์จะแสดงให้ปรากฎว่าภิกษุเหล่านั้นบรรลุพระอรหัตผล โดยไม่ต้องทรงเปล่งพระวาจา ในคัมภีร์ระบุชัดว่า สามารถใช้จิตในภาวะสมาธิ สื่อสารหรือพูดคุยกันได้ พระพุทธองค์ทรงอาเนญชสมาธิ คุยกับพระอรหันต์ตลอดคืน

ขณะนั้นพระผู้มีพระภาคประทับนั่งเข้าอาเนญชสมาธิ ภิกษุเหล่านั้น มีความคิดอย่างนี้ว่า บัดนี้พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ด้วยวิหารธรรมไหนหนอ ครั้นแล้ว ภิกษุเหล่านั้นก็ได้รู้ว่า “บัดนี้ พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ด้วยอาเนญช-วิหารธรรม ทุกรูปจึงพากันนั่งเข้าอาเนญชสมาธิ

เมื่อผ่านพ้นไปยังปฐมยาม- มัชฌิมยาม ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ราตรีผ่านพ้นไปแล้ว ปฐมยาม- มัชฌิมยาม และปัจฉิมยาม ผ่านไปแล้วเข้ารุ่งอรุน เริ่มสว่าง ภิกษุอาคันตุกะก็นั่งอยู่นานแล้ว ขอพระผู้มีพระภาคทรงทักทาย กับภิกษุอาคันตุกะด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า” เมื่อท่านพระอานนท์ กราบทูลอย่างนี้พระผู้มีพระภาคก็ยังประทับนิ่งอยู่

ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคก็เสด็จออกจากสมาธินั้น รับสั่งเรียกท่านพระอานนท์มาตรัสว่า “อานนท์ ถ้าเธอพึงรู้ไซร้ ความแจ่มแจ้งแม้นี้ก็ยังไม่ปรากฏชัดแก่เธอ อานนท์ เรากับภิกษุ ๕๐๐ รูปเหล่านี้ ทั้งหมดได้นั่งเข้าอาเนญชสมาธิ”

คำอธิบาย ; ความหมายจากพระสูตร คำว่า “อาเนญชสมาธิ” นี้ หมายถึง การสื่อสาร พูดคุยทางภาวะจิตในสมาธิ แม้จะระบุว่า เป็นการสื่อสารจิตในสมาธิ มิใด้ใช้คำว่า “เชื่อมจิต” เลยก็ตาม แต่ความหมาย ของคำว่าเชื่อมจิตก็คือการสื่อสารทางจิต เช่นเดียวกัน แตกต่างกันเพียงคำเรียกขาน เพราะเป็นเพียงคำสมมุติทางภาษาในแต่ละยุคต์สมัยเท่านั้นอีกประการหนึ่ง เจ้าของบทความได้ระบุว่า อาเนญชสมาธิ.เป็นการสื่อสารทางจิตได้เฉพาะพระอรหันต์เท่านั้น พระอริยบุคคลต่ำกว่านี้ยังใช้ไม่ได้ หรือใช้ได้แต่ไม่เท่าเทียมกับพระอรหันต์

ซึ่งประด็นนี้ อ.น้องไนซ์ ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า ไม่สามารถเชื่อมจิตได้ทุกคน ขึ้นอยู่กับภาวะของจิตของแต่ละคนจะเป็นภาชนะที่ใสสะอาดหรือไม่ อ.น้องไนซ์ใช้วิธีสอนด้วยการเชื่อม ต่อยอด ขจัด เคลียร์ ในแต่ละคนจะสอนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับภูมิธรรมภูมิปัญญา และสภาวะจิตที่แตกต่างกันไป

อ่านต้นโพสต์