อั๋น ชี้ หุ่นพยนต์ ได้ฉ.20 เจตนาดีเคลือช็อกโกแลต แขกแนะ ยกเครื่อง กองเซ็นเซอร์

Home » อั๋น ชี้ หุ่นพยนต์ ได้ฉ.20 เจตนาดีเคลือช็อกโกแลต แขกแนะ ยกเครื่อง กองเซ็นเซอร์



อั๋น ชี้ หุ่นพยนต์ ได้ฉ.20 เจตนาดีเคลือช็อกโกแลต แขกแนะ ยกเครื่อง กองเซ็นเซอร์ คณะกรรมการ ควรเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 7 มี.ค. 2566 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ในหัวข้อ ถกเดือด! เลื่อนฉาย’หุ่นพยนต์’ ส่งเซ็นเซอร์ใหม่ จัดเรต ฉ.20 ‘ผู้กำกับ–คอหนัง’พร้อมใจงง

อั๋น ภูวนาท กล่าวว่า วันนี้เราพูดถึงหนังที่ไม่ได้ฉายหรือได้ฉาย แต่จะเรียกว่าถูกแทรกแซง ถูกครอบครอง หรือคุ้มครอง หรือจะอะไรก็แล้วแต่ด้วยคำว่าเจตนาดีเคลือช็อกโกแลตไว้ เป็นหนังที่ตั้งใจจะทำให้สยองขวัญ คือจัดรอบสื่อมวลชล รอบปฐมทัศน์ไปแล้ว

คืแหนังเรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่มุมที่ว่า พอคนฟังคำวิจารณ์แล้วคนฟังอยากดู มันเป็นอีกด้านที่หนังจะเป็นไปได้ขนาดนั้น แต่ปรากฏว่าตอนนี้สิ่งที่ตามมาจริงๆคือหนังเรื่องนี้ถูกจัดให้อยู่ในหมวด ฉ.20 คือ อายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามดู จะมีการตรวจ คือทุกๆคนก็งงว่า หนังเปิดตัวไปแล้ว

คือหนังมีกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น แต่ว่าหนังดันถูกจัดให้อยู่ในหมวด ฉ.20 วัยรุ่นห้ามดู ก็เลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมา จริงเหรอ คนอายุต่ำกว่า 20 ไม่ควรดูหนังเรื่องนี้จริงๆ ด้วยมีเหตุผลก่อนหน้านี้คือถูกสั่งห้ามฉาลเลย จากกองเซ็นเซฮร์แล้วต่อมาก็มีการปรับเปลี่ยนเป็น ฉ.20 แล้วมีเงื่อนไข 6 ข้อคือ เช่นให้ตัดฉาก ชื่อวัด ฉากเณรชกต่อย คือฉากพวกนี้เป็นฉากสำคัญของหนัง ถ้าตัดไปแล้วหนังจะเดินเรื่องยังไงก็เช่นฉากเณรกอดผู้หญิง แต่ผู้หญิงคือแม่ ก็ต้องดูเจตนาในการนำเสนอว่าคืออะไร เป็นต้น

 

ก็คือกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ที่บอกว่าสร้างความเสื่องเสียให้วงการพระ ศาสนา แต่ในความเป็นจริง ข่าวคราวต่างๆแย่กว่านี้มั้ย ก็คือนี่คือหนังที่ถูกแต่งขึ้นจากเรื่องสมมติ เค้าไม่ได้บอกว่ามาจากเรื่องจริงมันก็เลยย้อนกลับไปที่กรรมการที่ตัดสินว่ามีความรู้พอหรือไม่ ในขณะที่เราจะนำฟิลม์หรือหนังเ็นหนึ่งใน5ซอฟต์พาวเวอร์หลักในการขับเคลื่อนประเทศ แบบที่นายกบอก

ด้านแขก คำผกา กล่าวว่า มองว่าเราต้องมาสะสางที่มาของคณะกรรมการเซ็นเซอร์ คือเห็นด้วยที่ต้องมีคณะกรรมการเซ็นเซอร์ แต่คณะกรรมการเซ็นเซฮร์คือใคร เราควรมีการเลือกตั้ง ต้องมาจากตัวแทนของอุตสาหกรรมหนัง ตัวแทนจากนักวิจารณ์ ตัวแทนจากตณะต่างๆในหมาวิทยาลัยที่สอนเรื่องฟิลม์เรื่องหนัง และภาพประชาชน มันจะต้องมีการเลือกตั้ง คัดคนเข้ามา แต่ละที่จะส่งใครที่เป็นตัวแทนเข้ามาเป็นคณะกรรมการ แล้วก็ผลัดเปลียนหมุนเวียนทำหน้าที่เป็นวาระ 4ปี หรือ 5 ปี ก็ว่าไป

คือถ้าเป็นระบบนี้ ก็จะทำให้กองเซ็นเซอร์ทำงานอย่าง สร้างสรรค์และก้าวหน้า คือควรจะมีความคิดหลากหลาย มีการถกเกถียง จะได้ข้อสรุป ไม่ใช่ออกมาจากความคิดของคนกลุ่มเดียว แล้วก็ไม่ได้มาจากตัวแทนของใคร หรือคนจากคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เลย

ด้านอั๋น ภูวนาท กล่าวว่า จริงๆแล้ว มีการกำหนดไว้ ตั้งแต่ปี 2551 กองเซ็นเซอร์จะมีคณะกรรมการไม่เกิน 7 คน โดยมีนายกเป็นคนแต่งตั้ง คือไม่ได้โทษนายกนะ แต่คือโดยอำนาจนายกเป็นคนแต่งตั้ง ซึ่งคนเหล่านี้จะมีคนคัดมา

ซึ่งคัดมาโดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ วีดีทัศน์ ศิลปะ วัฒนธรรม หรือหน่วยงานต่างๆ แล้วก็แต่งตั้งโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ก็คัดกันมา แต่เราไม่รู้กระบวนการคัดเลือก คือ7 คนนี้มีอานาจมอกชนากนะ ถ้าหนังเรื่องหนึ่งลงทุนสร้าง 50 ล้าน7 คนนี้ทำบริษัทนั้นเจ๊งได้เลยนะถ้าไม่ผ่าน มันเป็นเรื่องใหญ่มากเกี่ยวกับวิจารณญานของ 7 คนนี้

แขก คำผกา กล่าวอีกว่า เอาแค่ว่า ขอให้กองเซ็นเซอร์นี้เป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้มั้ย กรรมการชุดนี้ต้องมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน ต้องมีการตรวจสอบจากสาธารณชน คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เป็นต้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ