อัพเดทยอดผู้เสียชีวิตแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรียพุ่งเกือบ 8,000 ราย-ทั่วโลกรุดค้นหา อุณหภูมิติดลบ
เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรียที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันท์ที่ 6 ก.พ. ขณะนี้มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตกว่า 7,900 ราย บาดเจ็บอีก 40,000 รายแล้วเมื่อเช้าวันพุธที่ 8 ก.พ. หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น
ตามรายงานระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในตุรกีทั้งหมด 5,894 ราย และในซีเรียทั้งหมด 1,932 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7,826 ราย
ทางประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ตัยยิป แอร์โดอัน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินนาน 3 เดือนใน 10 จังหวัด ขณะที่หน่วยกู้ภัยต้องแข่งกับเวลาในตุรกีและซีเรีย หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อวันจันทร์
ขณะที่ความพยายามในการค้นหาและกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ยังอาจจะรอดชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เนื่องจากมีอาคารที่พังทลายมากเกินไปหลายพันหลังเมื่อเทียบกับอุปกรณ์หนักที่จะให้ความช่วยเหลือในการยกหรือเคลื่อนย้ายคอนกรีตขนาดใหญ่ ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นยะเยือกอุณหภูมิ -7 ถึง -15 องศาฯเป็นอันตรายต่อผู้รอดชีวิตและทำให้ความพยายามในการช่วยเหลือยุ่งยากขึ้น เนื่องจากมีอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 100 ครั้งเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้
ก่อนหน้านี้ ทารกเพศหญิงแรกเกิดได้รับการช่วยเหลือจากซากปรักหักพังของบ้านของเธอทางตอนเหนือของซีเรีย สายสะดือของเธอยังคงติดอยู่กับแม่ของเธอตอนที่พบเธอ ญาติคนหนึ่งบอกกับเอเจนซ์ ฟรานซ์-เพรสส์ เชื่อว่าแม่ของเธอเสียชีวิตหลังจากคลอดลูกแล้ว และมีรายงานว่า มีนักโทษที่เป็นสมาชิกกลุ่มไอเอสทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย สามารถหลบหนีไปได้อย่างน้อย 20 คนหลังเกิดแผ่นดินไหว
ขณะเดียวกันหลายประเทศทั่วโลกได้ส่งหน่วยกู้ภัยไปสมทบช่วยเหลือ โดยนาโต้ ระบุว่า สมาชิกกำลังส่งเจ้าหน้าที่รับมือเหตุฉุกเฉินและทีมกู้ภัยของสหรัฐฯมากกว่า 1,400 นาย คาดว่าจะลงจอดในเมืองอาดานาของตุรกีในวันพุธที่ 8 ก.พ.นี้ ในขณะเดียวกันเม็กซิโกได้ส่งสุนัขที่เชี่ยวชาญในการค้นหาผู้รอดชีวิตมาช่วยเหลือเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่า อาจมีผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวมากถึง 23 ล้านคน และอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 20,000 คน รวมถึงเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เร่งให้ความช่วยเหลือกับผู้ประสบภัยโดยด่วน
ทั้งนี้ แผ่นดินไหวรุนแรงในตุรกีเคยเกิดขึ้นที่จังหวัดเอร์ซินจานทางตะวันออกในปี 2482 มีขนาด 7.8 โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 33,000 ราย