‘อนุทิน’ ลั่นร้านเปิดห้องสูบ “กัญชา” ไม่ได้ ถึงมีแพทย์แผนไทยก็ผิดกฎหมาย เผยมติวิปรัฐบาลให้หนุนร่าง กม.กัญชา เตือนกลุ่มไม่ผลักดัน ระวังกระแสตีกลับ
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีข่าวผู้ประกอบการบางรายเตรียมเปิดห้องสูบกัญชา มีแพทย์แผนไทยมาประจำร้าน ว่า เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม ที่กำหนดควบคุมช่อดอกกัญชา เขียนชัดเจนว่าห้ามสูบ เสพ ในสถานที่สาธารณะ ห้างร้านต่างๆ ซึ่งการสูบเสพไม่ใช่เจตนารมณ์ของ สธ.ในการให้ใช้กัญชา ส่วนร้านที่จะให้มีแพทย์แผนไทยนั่งอยู่ได้ต้องเป็นคลินิกรักษาโรค ไม่ใช่การขายของ จะบอกว่ามีแพทย์แผนไทยนั่งอยู่แล้วบอกว่ามวนสูบได้
“ตรงนี้แพทย์แผนไทยก็จะมีความผิด เพราะไม่ได้ปฏิบัติหรือทำหน้าที่ที่ควรจะเป็น คือ การรักษา ไม่ใช่ไปนั่งเป็นแสตมป์ให้สามารถสูบกัญชาในร้านได้ อันนี้เรียกว่าเลี่ยงบาลี ไม่ใช่เจตนารมณ์ของสธ.” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าการทำก่อนประกาศฉบับนี้ออกมาถือว่ามีความผิดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องของการสูบ เสพ ไม่เคยมีอยู่แล้ว การนำไปแปรสภาพเป็นสินค้าแล้วจำหน่ายเพื่อให้มีรายได้ ต้องมีการขออนุญาตชัดเจน ไม่มีช่องโหว่ มีแต่คนไปขุดให้เป็นช่องโหว่ ย้ำว่านี่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของนโยบายกัญชาทางการแพทย์
ถามต่อว่าอาจจะมีการตีความว่าเป็นการสูบในที่มิดชิด ไม่มีคนแจ้ง หรือร้องเรียนว่ากลิ่นและควันสร้างความรำคาญ นายอนุทิน กล่าวว่า หากทำอะไรผิดกฎหมาย แล้วคนไม่เห็น หรือคนไม่แจ้ง และอยู่นอกสายตาของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก็หลักเดียวกัน ดังนั้น หากคนเห็นการกระทำผิดกฎหมายก็มีหน้าที่แจ้งตามกฎหมาย แต่หากสูบในบ้านประตู 3 ชั้น 5 ชั้น อันนี้ไม่รู้ เพราะเราได้แต่บอกว่าห้ามทำ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ผิดนั้น เราตรวจสอบเท่าที่ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ทั้งกรมการแพทย์แผนไทย อย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ จะหารือแนวทางกับตำรวจว่าจะควบคุมไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างไร แต่อย่างที่บอกหากจะเน้นก็ต้องเน้นกันทุกเรื่อง คนที่ทำกัญชาเพื่อการแพทย์และเศรษฐกิจก็จะทำยาก ต้องเปลี่ยนมุมมองวันนี้ไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว
เมื่อถามว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า สธ.อาจจะต้องมีประกาศออกมาอีก จะมีการออกประกาศอะไรเพิ่มหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายวิษณุบอกว่าตราบใดที่กฎหมายยังไม่ผ่าน หาก สธ.จะงัดกฎหมายอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจก็ทำได้ เพราะอำนาจอยู่ที่รัฐมนตรี ไม่ต้องมาขออีก คราวที่แล้วเป็นความผิดพลาดทางการสื่อสาร แต่ปัจจุบันค่อนข้างที่จะครอบคลุมเกือบหมดแล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา พ.ศ. … วิปรัฐบาลประชุมหารือและมีมติร่วมว่า ขอให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ลงมติตามคณะกรรมการเสียงข้างมาก ซึ่งคณะกรรมมาธิการกัญชง กัญชา มีมติชัดเจนว่าให้สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ นัยคือต้องถือว่าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบ หาก ส.ส. เห็นต่างและไม่ปฏิบัติตามก็เท่ากับฝ่าฝืนมติพรรคร่วมรัฐบาล ตรงนี้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
“นโยบายนี้ถูกนำมาหาเสียงตั้งแต่เลือกตั้ง ไม่ใช่เพิ่งเกิด ตอนฟอร์มรัฐบาลก็ไม่มีใครไม่เห็นด้วย แถมช่วยกันร่าง เป็นเรื่องของการอยู่ร่วมกัน รักษามารยาทของการร่วมรัฐบาล ถ้าจะมาเห็นว่าเป็นช่วงท้ายรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปต่อรองว่า ถ้าไม่ผ่านพ.ร.บ.กัญชาแล้ว ภูมิใจไทยก็ไม่เคยพูดว่าจะมีท่าทีไม่ไว้วางใจในสภา ไม่สนับสนุนกฎหมายของพรรคอื่น”
“ใครไม่สนับสนุนก็ได้แต่รับทราบว่าไม่สนับสนุน ไม่ทำตามมารยาท ไม่ทำตามข้อตกลง แต่เราไม่เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน ประชาชนก็จะดูว่าพรรคไหนทำงานกันอย่างไร หากเที่ยวนี้กฎหมายไม่ผ่าน ประชาชนก็สนับสนุน ภท. ให้มี ส.ส.ในสภามากพอที่จะผลักดันกฎหมายให้ผ่านได้”
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ร่างพ.ร.บ.จะเข้าสภาสัปดาห์หน้า หากไม่ผ่านก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ปิดสมัยประชุมสภาก็กลับมาใหม่เที่ยวหน้า แต่ไม่กระทบอะไรกับผู้ประกอบการ เพราะเรามีประกาศ สธ.อยู่ แต่คนที่อยากให้มีความชัดเจน อยากให้การใช้กัญชาเกิดประโยชน์จริง คุมการใช้ผิดประเทศ ก็ผลักดันกฎหมายเท่านั้นเอง ระวังกระแสตีกลับ และกลายเป็นว่าคนที่ผลักดันไม่ให้มีกฎหมายกัญชา เพราะต้องการเอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ ต้องติดตาม
เมื่อถามว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะความรีบร้อนของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ตนอธิบายหมดแล้วเรื่องความปลอดภัย ฯลฯ คนที่ขึ้นรถไม่ทัน ทำอะไรไม่ได้ ไม่สามารถทำอะไรได้ก็เอาเรื่องการเมือง เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน ก็พูดได้แค่นี้ ตอนเสนอร่าง พ.ร.บ.เข้าไปวาระแรก ก็รับหลักการด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น มากกว่าคะแนนที่รัฐมนตรีได้รับการไว้วางใจ ซึ่งแปลว่าควรมีกฎหมาย พอพิจารณาเพิ่มเป็น 95 มาตราแล้วมาบอกว่าจะไม่รับ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า หาก ภท.ไม่ทำ ไม่ออกประกาศมา ป่านนี้จะโดนอีกข้อหาหนึ่งว่าทำไม่สำเร็จ ไม่รักษาคำพูด ไม่มีน้ำยา ออกนโยบายหลอกประชาชน พอพูดเรื่องนี้ไม่ได้ก็ไปเอาเรื่องอื่นมาพูดแทน อย่างประกาศคุมช่อดอกก็ไม่ได้ช้า ลงในราชกิจจาฯ ภายใน 1 สัปดาห์