วันที่ 6 กันยายน 2566 พ.ต.ท.ทศพล นนทะคำจันทร์ รอง ผกก.สส สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นำกำลังจับกุมนายณัฐพงศ์ หรือหน่อง อายุ 23 ปี
ผู้ต้องหาใช้มีดฟัน น้องแป้ง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ได้รับบาดเจ็บบริเวณปาก ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเวลา 17.50 น. วันที่ 5 กันยายน ที่ถนนหน้าบ้านผู้ต้องหา โดยแจ้งข้อหา “ทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส” ควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 17.50 น.วันที่ 5 กันยายน 2566 พ.ต.ท.สิทธิพงษ์ ปัญจะนะ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ ได้รับแจ้งเหตุ
มีเด็กถูกคนคลั่งใช้มีดฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนหน้าบ้านพังคี ต.โนนหวาย จึงนำกำลังตำรวจทั้งสายตรวจและตำรวจสืบสวน กู้ชีพเทศบาลตำบลภูผาแดง ออกไปที่เกิดเหตุ
พบ ด.ญ.สุจิรา หรือน้องแป้ง ถูกฟันด้วยอาวุธมีดบริเวณริมฝีปากบน เป็นแผลเหวอะหวะเนื้อห้อยลงมา ฟันหน้าหักหล่นหาย 2 ซี่ เลือดไหลออกมาจำนวนมาก ต้องใช้ผ้าปิดบาดแผล เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลหนองวัวซอ อาการปลอดภัย
นอกจากนี้ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานไฟฟ้าของน้องแป้งล้มอยู่กลางถนน และรถจักรยานปั่นและมีดพร้าสำหรับตัดอ้อย ของนายณัฐพงศ์หรือหน่อง ผู้ก่อเหตุทิ้งอยู่กลางถนน ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งตำรวจได้ดักซุ่มอยู่บริเวณหน้าบ้านนายณัฐพงศ์ เพราะเชื่อว่านายณัฐพงศ์ต้องย้อนกลับมาบ้าน กระทั่งเช้าวันที่ 6 กันยายน นายณัฐพงศ์ได้กลับมาบ้านจริง ตำรวจจึงเข้าจับกุมควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้าน
พ.ต.อ.หฤษฏ์ คำจุมพล ผกก.สภ.หนองวัวซอ นำตัวผู้ต้องการมาสอบสวน ซึ่งจากการสอบสวนนายณัฐพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้มีดฟันน้องแป้งจริง
โดยก่อนเกิดเหตุตนได้เสพยาบ้าเข้าไป 2 เม็ด จากนั้นได้ถือมีดตัดอ้อย พร้อมปั่นจักรยานออกไปตามถนนในหมู่บ้าน ก่อนจะย้อนกลับบ้าน
พบน้องแป้งขี่รถจักรยานไฟฟ้าผ่านหน้าบ้าน จึงใช้มีฟันน้องแป้งได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนทำไปโดยไม่รู้สาเหตุ และอยากขอโทษน้องแป้ง
ด้าน น.ส.ปิยะนุช อายุ 20 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนอยู่บ้านใกล้กับนายณัฐพงศ์ ซึ่งนายณัฐพงศ์อาศัยอยู่บ้านคนเดียว เพราะว่าเสพยาบ้า ดื่มเหล้าเมาแล้วอาละวาด เอามีดจี้แม่
ทำให้แม่และยายกลัวต้องหนีออกไปเช่าบ้านปล่อยให้นายณัฐพงศ์อยู่บ้านตามลำพัง ก่อนเกิดเหตุนายณัฐพงศ์ดื่มเหล้าเมาแล้วอาละวาดทุบบ้านตัวเอง ก่อนจะถือมีดตัดอ้อยออกมาปั่นจักรยานไปตามหมู่บ้าน
ก่อนจะกลับมาพบน้องแป้งขี่จักรยานไฟฟ้าสวนมา จึงใช้มีดฟัน 2 ครั้ง ครั้งแรกโดนหน้าอกแต่มีดไม่เข้าคาดว่าจะเป็นสันมีด ครั้งที่สองฟันปากน้องแป้ง และจะฟันซ้ำอีก
สามีตนก็เลยกระโดดเข้าไปขวางกอดปล้ำสู้กัน ซึ่งนายณัฐพงศ์ได้ทิ้งมีดวิ่งหลบหนีไป ส่วนน้องแป้งวิ่งเข้ามาในบ้านตน พวกตนอยู่บ้านใกล้รู้สึกหวาดกลัว หวาดผวาตลอดเวลา เกรงว่าจะบุกเข้ามาทำร้ายคนในบ้าน
ส่วนนางสุวรรณ อายุ 59 ปี แม่นายณัฐพงศ์ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนมีลูก 4 คน นายณัฐพงศ์เป็นลูกคนสุดท้อง สามีเสียชีวิตและแต่งงานใหม่แล้ว
นายณัฐพงศ์เคยไปทำงานโรงงานที่ จ.ระยอง แต่งงานมีลูก 1 คน แต่ได้แยกทางกับภรรยา ซึ่งภรรยาเอาลูกไปเลี้ยง นายณัฐพงศ์เสียใจมากได้กลับมาอยู่บ้าน และพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง
ทั้งขี่รถจักรยานยนต์ชนต้นไม้จนขาหัก กินน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ตนช่วยได้ทัน หลังจากนั้นก็หันมาดื่มเหล้า เสพยาบ้า ดื่มน้ำกระท่อม และเสพกัญชา และมักจะเอามีดมาไว้ใกล้ตัว ตนเกรงว่าจะได้รับอันตราย
เคยพาไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลหนองวัวซอ แต่ก็เหมือนเดิม จึงพายายอายุ 90 ปีและลูกหลานแยกออกไปเช่าบ้านอยู่ ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว
“ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว แต่ก็นำกับข้าวมาแขวนไว้ประตูหน้าบ้าน เพราะกลัวว่าลูกจะหิว และลูกก็มาก่อเหตุฟันเด็กได้รับบาดเจ็บ รู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องขึ้น แต่ยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อแม่ผู้บาดเจ็บ แต่ถ้าจะให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ก็คงไม่มี เพราะตนไม่มีงานทำ”
พ.ต.ท.สิทธิพงศ์ ปัญจนะ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ได้ตรวจปัสสาวะนายณัฐพงศ์ พบว่าฉี่เป็นสีม่วง และรับสารภาพว่าเสพยาบ้า 2 เม็ด จึงแจ้งข้อหา
“ทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป