หมอธีระวัฒน์ ชี้ไทยอาจเผชิญกับการแพร่ระบาด ของโรค 'ฝีดาษลิง'

Home » หมอธีระวัฒน์ ชี้ไทยอาจเผชิญกับการแพร่ระบาด ของโรค 'ฝีดาษลิง'



หมอธีระวัฒน์ ชี้ไทยหลีกเลี่ยง ฝีดาษลิง ไม่ได้ เหตุเปิดประเทศ แนะหากมีไข้ให้แยกตัว เข้าสถานที่ต่าง ๆ กิจการ กิจกรรม รวมตัวคนมาก ใกล้ชิด ควรคัดกรองวัดไข้

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2565 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ในการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในประเทศไทยว่า คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเปิดประเทศ และขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกก็มีการกระจายแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงแล้ว

โดยประเทศอังกฤษสรุปว่าคนที่มีประวัติเดินทางมานั้นน้อยมากที่ติดเชื้อ เพราะส่วนมากเป็นการระบาดในชุมชนมากกว่า อาจจะไม่ได้เกิดจากการไปร่วมงานเทศกาลต่าง ๆ และอาจมีบางส่วนเดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยด้วยเช่นกัน

“หวังว่าคนที่จะเข้ามาคงมีความรู้ และคนไทยเองก็ควรจะมีความรู้พอสมควร เนื่องจากจะมีการรวมตัวกันในเทศกาล งานต่าง ๆ ที่จะจัดขึ้นเร็ว ๆ นี้ทั้งกทม. และต่างจังหวัด” ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าว

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวต่อว่า เชื้อฝีดาษลิงจะปล่อยไวรัสออกมาตอนที่มีไข้แล้ว อาจจะเป็นข้อดีที่อย่างน้อยคนที่มีไข้ก็จะได้รู้ตัวเองและแยกตัวทันที อย่างน้อยที่สุดคือการสวมหน้ากากอนามัย และไม่อยู่ใกล้ผู้อื่นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ บางทีการรอให้มีตุ่มขึ้นอาจจะยังไม่เกิดขึ้นทันทีตอนที่มีไข้ อาจจะเกิดขึ้นภายหลังได้ ต่อมน้ำเหลืองโตก็เช่นกัน

“ตอนติดเชื้อจะมีไข้สูงพอสมควร และมีอาการปวดเมื่อยปวดหลังร่วมด้วย ส่วนผื่นเองก็จะดูยาก มี 2 ระดับ อาจจะเป็นผื่นและตุ่มน้ำขึ้นมา และกลายเป็นตุ่มหนอง และมีตุ่มอยู่หลายชนิด กรณีเม็ดเล็ก ๆ อาจจะไม่ได้เข้าข่ายต้องสงสัย และอาจจะเกิดขึ้นในร่มผ้าหรือเกิดในที่ลับโดยที่เจ้าตัวเองไม่ได้สังเกต” ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าว

เมื่อถามว่า หากเกิดตุ่มในร่มผ้าจะคัดกรองก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ หรืองานเทศกาลได้อย่างไร ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า อันนี้ยาก แต่การวัดไข้เป็นสิ่งที่ต้องคัดกรองแน่ ๆ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่จะเดินเข้างานเทศกาล หรือตามร้านอาหารต่าง ๆ ซึ้งก็ไม่มีการตรวจวัดอุณหภูมิกันแล้ว ที่จริงอยากให้มีการตรวจอุณหภูมิทุกที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่จะมีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก

“หรือแม้แต่ตอนนี้ที่ไทยเองก็อนุญาตให้เปิดบริการอาบ อบ นวด และซาวน่าได้แล้ว อาจจะไม่จำเป็นจะต้องเป็นเพศเดียวกันที่จะติด แต่ต่างเพศกันก็สามารถติดได้เหมือนกัน แม้ในกรณีเคสต่างประเทศจะเจอเป็นผู้ชายค่อนข้างเยอะก็ตาม” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ