สุทิน ซัด สว.อ้างทั้งวันไม่เคารพ 16 ล้านเสียง ท้าทำประชามติอีกครั้ง กล้าไหม ?

Home » สุทิน ซัด สว.อ้างทั้งวันไม่เคารพ 16 ล้านเสียง ท้าทำประชามติอีกครั้ง กล้าไหม ?



สุทิน ซัด สว.อ้างทั้งวันไม่เคารพ 16 ล้านเสียง ท้าทำประชามติอีกครั้ง กล้าไหม ? ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้เขาก็ไม่ให้ผ่านเอง

17 พ.ย. 2564 – นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน อภิปรายสรุปว่า วันนี้เราทำในสิ่งที่ทุกคนไปสัญญากับประชาชนไว้ ตั้งแต่การเลือกตั้งที่ทุกพรรคไปให้สัญญากับประชาชนไว้ แถมเป็นนโยบายด่วนของรัฐบาลด้วย เราไม่ได้มีเจตนาที่จะมาสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง

ส.ว. ที่อภิปรายพูดถึงผู้ชี้แจงว่าไม่สุจริตใจ มีวาระซ่อนเร้น รู้ว่าอย่างไรก็ไม่ผ่านแต่ต้องการเอาประเด็นนี้ไปปลุกระดม ขยายผลข้างนอกนั้น เรื่องนี้โดนไปถึงคนที่ร่วมกันชื่อจำนวนแสนกว่าคนด้วย

วันนี้กล่าวหากันทั้งวัน ว่าพวกตนไม่เคารพ 16 ล้านเลียงที่ลงประชามติรับรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 มา ตนว่าต้องทบทวน คิดใหม่ ใครไม่เคารพ 16 ล้านเสียงกันแน่ ท่านไปคิดแทนเขาได้อย่างไร ว่าคนที่ลงประชามติตั้งแต่ปี 59 จะไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ คนใน 16 ล้านเสียง วันนั้นอาจจะอยู่ในแสนชื่อที่แก้รัฐธรรมนูญวันนี้ก็ได้

เอาอย่างนี้แล้วกัน ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วเอาไปให้คน 16 ล้านเสียงทำประชามติอีกครั้งดีหรือไม่ ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับการแก้เขาก็ไม่ให้ผ่าน ถ้าท่านปิดโอกาสให้ตั้งแต่วาระแรก นี่ต่างหากที่ไม่เคารพ 16 ล้านเสียง เพราะไปปิดโอกาสเขา ทั้งที่องค์สถาปนารัฐธรรมนูญคือประชาชน

นายสุทิน กล่าวอีกว่า เหตุที่เราต้องรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนวันนี้ เพราะเราต้องการตอกย้ำ และแสดงจุดยืน เพราะเราพูดมาตลอดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ไม่ดี เราจึงต้องแก้ ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเขียน และการแก้ให้มากที่สุด ที่ผ่านมาเรายื่นแก้ไขหลายรอบ แล้วตกไป นี่คือร่างของประชาชนเราจึงต้องรับ และไม่ว่าจะร่างของประชาชนฉบับไหน พวกตนก็รับ

อย่างไรก็ตามที่วันนี้รัฐธรรมนูญแก้ไม่ได้เลย เพราะคนที่แก้เป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์ นี่คือเหตุที่เราต้องยุบ ส.ว. จริง ๆ มีมารยาททางการเมืองอยู่ว่า ถ้าเรื่องใดที่มีผลกระทบต่อประโยชน์ของฝ่ายใด เขามักจะไม่อยู่ในห้องประชุม แล้วปล่อยให้คนอื่นพูดไป แต่นี่ 80-90% ของ ส.ว. ที่ลุกขึ้นพูดในวันนี้คือแสดงความเห็นเพื่อไม่ให้ยกเลิก ส.ว. แม้เราจะรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราเห็นดีทุกเรื่อง มีบางเรื่องที่เป็นจุดอ่อน แต่เมื่อบวกลบแล้วเห็นว่าดีมีมากกว่าไม่ดี ข้อไหนที่ไม่ดีก็เอาไปปรับปรุงแก้ไขในวาระที่ 2 เราพูดกันวันนี้ทั้งวันประหนึ่งว่านี่เป็นวาระ 3 แล้ว ทั้งที่คือวาระรับหลักการเท่านั้น

ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ต้องยึดติด โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยน ส.ว. ทั่วโลกโดยหลักการคือทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย และตรวจสอบถ่วงดุล ถ้าทำหน้าที่นั้นได้ดีก็คงไว้ แต่ถ้าไม่ได้ทำหน้าที่เลยก็ชอบที่จะยุบเสีย ซึ่ง ส.ว. ของไทยไม่ได้ทำหน้าที่ถ่วงดุลรัฐบาลเลย แต่ทำหน้าที่ค้ำรัฐบาล ตนเคารพ ส.ว. หลายท่าน แต่ท่านดันมาเกิดกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ประชาชนไม่ยอมรับ โลกไม่ยอมรับ เกียรติภูมิท่านจึงลดลง

วันนี้ผู้แทนราษฎรเป็นเงาสะท้อนประชาชน ถ้าสังคมยังชมท่าน แล้วเรามาด่าท่านแบบนั้นจึงเรียกว่าเราอคติ ส่วนเรื่องที่ถกเถียงกันทั้งวันเรื่องสภาเดียวหรือสองสภานั้น ผมมองว่าไม่แน่ในอนาคตอาจจะไม่มีสภาเลยก็ได้ เพราะสังคมโซเชียลอาจจะสร้างระบบที่ประชาชนสามารถกดโหวตโดยตรงมาจากที่บ้านเลยก็ได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ