สุดสะเทือนใจ ตาเหลืออด หลานเมาชอบหาเรื่อง ขู่ขอเงินซื้อเหล้า พลั้งมือคว้าฟืนฟาดดับ

Home » สุดสะเทือนใจ ตาเหลืออด หลานเมาชอบหาเรื่อง ขู่ขอเงินซื้อเหล้า พลั้งมือคว้าฟืนฟาดดับ



สุดสะเทือนใจ ตาเหลืออด หลานเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ เมาแล้วชอบหาเรื่อง ขู่ขอเงินซื้อเหล้า พลั้งมือคว้าฟืนฟาดดับสลด แม่รับลูกชายเกเร-ก้าวร้าว

วันที่ 23 ธ.ค.64 ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย ปิ่นศิริ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ นำตัว นายดำ (นามสมมติ) อายุ 62 ปี ไปชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพหลังจากที่เข้ามอบตัว เนื่องจากนายดำ ก่อเหตุใช้ฟืนฟาดศรีษะ นายแดง (นามสมมติ) อายุ 21 ปี หลานชายแท้ๆ เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

หลังหลานชายดื่มสุรามึนเมาแล้วมาเคาะประตูเพื่อขู่บังคับขอเงินตา กับยาย กลางดึก 500 บาท แต่ตา มีเงินให้นายแดง เพียง 100 บาท ทำให้หลานไม่พอใจเกิดเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน และหลานขู่จะพังรถยนต์ที่ลูกสาว หรือแม่ของนายแดง ใช้ขับไปทำงาน ผู้เป็นตาพยายาม ห้ามแต่หลานไม่ฟัง นายดำ จึงพลั้งมือคว้าท่อนฟืนฟาดหลานบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่ รพ.

สอบถามนางน้อย (นามสมมติ) แม่ของนายแดง ยอมรับว่า ลูกชายมีนิสัยก้าวร้าวชอบเอาแต่ใจ ถ้าอยากได้อะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจก็จะทำลายข้าวของ หรือทำร้ายคนในบ้าน โดยเฉพาะเวลาขอเงินขอเท่าไหร่ก็ต้องหาให้เป็นแบบนี้มาตลอด ทำให้คนในบ้านกลัวถูกเขาทำร้ายจึงจำเป็นต้องให้ตามที่เขาขอ

ก่อนเกิดเหตุก็ก็ขอเงินตา ยาย ตั้งแต่เช้ายันเย็นขอหลายครั้งเพื่อเอาไปซื้อเหล้าดื่ม ตกดึกก็ยังมาเคาะประตูตะโกนบังคับขอเงิน ตา ยายอีก ยายก็บอกว่าไม่มี แต่ตาไม่อยากให้เกิดปัญหาจึงเอาเงินออกมาให้ 100 บาท แต่หลานยืนกรานว่าจะเอา 500 บาท ถ้าไม่ได้ตามที่ขอเขาก็ขู่ว่าจะพังรถยนต์ของแม่ ที่ต้องใช้ขับไปทำงาน ตาก็เลยบอกหลานว่าอย่าทำเลยถ้าทำแล้วแม่จะเอารถไหนไปทำงาน

แต่ด้วยความที่หลานเมามากพูดอะไรไปก็ไม่ฟัง ซึ่งปกติตาเป็นคนใจเย็นมากคิดว่าตอนนั้นตาคงจะเหลืออดจริงๆ ที่หลานเมาจนขาดสติพูดอะไรก็ไม่ฟังและพยายามจะพังรถ จนทำให้พลั้งมือคว้าท่อนฟืนฟาดหลาน จนล้มกระแทกพื้นไม่คิดว่าหลานจะถึงขั้นเสียชีวิต แต่หลังเกิดเหตุตาก็ขับรถจักรยานยนต์ไปมอบตัวกับตำรวจที่ สภ.ถาวร ด้วยตัวเอง

นางน้อย ยังบอกอีกว่า หัวอกคนเป็นแม่ก็เสียใจที่ลูกเสียชีวิตถึงลูกจะเป็นคนเกเรและจะไม่ได้แสดงออกว่ารักหรือไม่รักเขา แต่ที่แม่ทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพราะรักเขาอยากให้เขามีกินมีใช้ แต่เมื่อมันเกิดไปแล้วเราก็ต้องทำใจคนที่ตายไปแล้วก็เอากลับมาไม่ได้ ก็ต้องดูแลคนที่อยู่ซึ่งตนก็เชื่อว่าตา ก็คงเสียใจไม่ต่างจากตัวเอง เพราะตา กับยายเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากตนไม่ค่อยได้อยู่ต้องไปทำงานมาหาเลี้ยงครอบครัว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาตาที่พลั้งมือทำร้ายหลาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” และได้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่มีพฤติกรรมหลบหนีและได้มามอบตัวเอง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ